ซูเปอร์โมเดลวัย 25 ปีอย่าง Bella Hadid (เบลลา ฮาดิด) ได้ขึ้นปกนิตยสาร Vogue อเมริกาฉบับเดือนเมษายน ซึ่งเป็นหน้าปกเดี่ยวปกแรกของเธอกับทางนิตยสารยักษ์ใหญ่ พร้อมเปิดเผยเรื่องราวส่วนตัวอย่างหมดเปลือก ตั้งแต่เรื่องปัญหาเรื้อรังด้านสุขภาพกายและสุขภาพจิต ไปจนถึงให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการทำศัลยกรรมเป็นครั้งแรก
โดยทางนางแบบเชื้อสายจอร์แดน-ปาเลสไตน์ได้ยืนยันกับทางนิตยสารว่าเธอได้ทำจมูกมาจริงเมื่อตอนอายุ 14 ปี และเป็นหนึ่งในการตัดสินใจที่เธอยังเสียใจมาถึงทุกวันนี้ “ฉันน่าจะเก็บจมูกของบรรพบุรุษของฉันไว้และฉันคิดว่าฉันคงจะเติบโตมากับมัน”
นอกจากนี้เธอยังยืนยันว่าไม่ได้ทำส่วนอื่นๆ เพิ่มเติมเหมือนที่หลายคนตั้งข้อสังเกต หลังมีการเอารูปของเธอในปัจจุบันไปเทียบกับตอนสมัยเด็ก และกล่าวหาว่าเธอไปหาศัลยแพทย์เพื่อทำหน้าให้เหมือนกับ Carla Bruni ซูเปอร์โมเดลชาวฝรั่งเศส
“คนทั่วไปคิดว่าฉันทำหน้ามาทั้งหมด เพราะว่ารูปตอนเด็กๆ ที่ฉันดูอ้วน ฉันแน่ใจว่าคุณคงดูไม่เหมือนเดิมกับตอนที่อายุ 13 ปีใช่ไหม ขอเคลียร์ให้ชัดไปเลยว่าฉันไม่เคยฉีดฟิลเลอร์ ฉันไม่มีปัญหากับมัน แต่มันไม่ใช่สำหรับฉัน และใครก็ตามที่คิดว่าฉันไปยกตามาหรืออะไรก็แล้วแต่ มันคือเทปแปะค่ะ เป็นเทคนิคที่เก่าที่สุดเลย”
ส่วนเรื่องสุขภาพจิตเรื้อรังที่เธอออกมาเปิดเผยต่อสาธารณะ Bella กล่าวว่า สาเหตุมาจากการเป็นคนที่ชอบเอาใจคนอื่นมากเกินไป รวมไปถึงการพยายามใช้ชีวิตให้สมบูรณ์แบบที่สุดทุกครั้งที่ปรากฏตัวในวงการแฟชั่น แต่กลับทำให้เธอลืมที่จะดูแลตัวเองและยอมรับความรู้สึกด้านลบของตัวเองจนถึงขั้นต้องเข้ารับการบำบัด
“ตอนนี้ทุกอย่างที่ฉันทำในชีวิตส่วนตัวก็เพื่อให้มั่นใจว่าสุขภาพจิตของฉันจะยังคงอยู่ในระดับที่โอเค แฟชั่นทำให้คุณเกิดได้และก็ทำให้คุณแตกสลายได้ และถ้ามันแจ้งเกิดคุณ คุณก็ต้องตัดสินใจอย่างมีสติเพื่อไม่ให้มันมาทำร้ายตัวคุณ”
ภาพ: Stephane Cardinale – Corbis / Corbis via Getty Images
อ้างอิง: