×

หลังม่านดีลประวัติศาสตร์ อินเตอร์ ไมอามี กระชากเมสซีมา MLS

18.07.2023
  • LOADING...

“Tomé la decisión de ir a Miami”

 

“ผมตัดสินใจแล้วที่จะไปไมอามี” ประโยคสั้นๆ จากปากของ ลิโอเนล เมสซี นักฟุตบอลที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล เป็นการเปิดเผยการตัดสินใจของเขา ที่จะเลือกใช้ช่วงเวลาสุดท้ายยามสนธยาของชีวิตการเป็นพ่อค้าแข้งอาชีพที่สหรัฐอเมริกากับทีมอินเตอร์ ไมอามี

 

แต่ในเบื้องหลังแล้ว กว่าที่เมสซีจะตอบรับข้อเสนอจากแฟรนไชส์ฟุตบอลใหม่ที่ถือกำเนิดขึ้นได้ไม่นาน แถมยังทำผลงานย่ำแย่อยู่ในอันดับบ๊วยของ Major League Soccer (MLS) นั้นมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายและกินระยะเวลายาวนานหลายปี

 

อะไรคือเหตุผลที่ทำให้ทีมฟุตบอลเล็กๆ ที่มีสนามแข่งความจุแค่ 20,000 คนทีมนี้ สามารถพลิกล็อกเอาชนะข้อเสนอจากซาอุดีอาระเบียที่ให้ค่าตอบแทนสูงกว่าหลายเท่า และทำให้เมสซีตัดสินใจทิ้งปารีส แซงต์ แชร์กแมง และตัดใจจากความฝันที่จะได้กลับไปอยู่กับบาร์เซโลนา สโมสรแรกในดวงใจของเขาอีกครั้ง

 

คำบอกใบ้เล็กๆ คือ เรื่องนี้เงินไม่ใช่ตัวแปรสำคัญที่สุด

 

ย้อนหลังกลับไปในช่วงกลางเดือนกันยายน ปี 2019 เครื่องบินเจ็ตส่วนตัวลำหนึ่งได้ลงจอดที่สนามบินในเมืองบาร์เซโลนา

 

คนบนเครื่องบินเจ็ตลำนั้น ได้แก่ ฮอร์เก มาส และ เดวิด เบ็คแฮม เจ้าของร่วมทีมอินเตอร์ ไมอามี นอกจากนี้ยังมี เดวิด การ์ดเนอร์ เพื่อนสนิทของอดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษ และ พอล แมคโดนาฟ อดีตผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาของทีม ซึ่งเมื่อเครื่องบินแลนดิ้งแล้ว ทั้งหมดได้ขึ้นรถแวนที่มารอรับก่อนที่รถจะมุ่งหน้าไปยังโรงแรมแห่งหนึ่งทันที

 

เมื่อมาถึงโรงแรม ทั้งหมดได้เดินเข้าประตูด้านข้างอย่างเงียบๆ ก่อนที่จะขึ้นบันไดลับเพื่อไปยังห้องสูทรับรอง

 

หลังจากนั้นไม่กี่นาที ฮอร์เก เมสซี พ่อของ ลิโอเนล เมสซี ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวแทนในการเจรจาให้กับลูกชายด้วย ก็เดินเข้ามาในห้องแห่งนั้น

 

เล่ามาแบบนี้เหมือนกับว่า การเจรจาเพื่อคว้าตัวนักฟุตบอลอันดับหนึ่งของโลกในยุคสมัยนี้จะเกิดขึ้นตั้งแต่วันนั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วการพบกันครั้งนั้นแทบไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของการย้ายทีม เรื่องตัวเลข หรือเงินโบนัสต่างๆ เลย

 

ทั้งหมดมาเพียงเพื่อ Get-to-Know-You ทำความรู้จักมักจี่กันเสียมากกว่า

 

ฝ่ายของ ฮอร์เก เมสซี นั้นเล่าหลายเรื่อง และหนึ่งในเรื่องซึ่งถือเป็น ‘สารตั้งต้น’ ของทุกสิ่งคือความคิดของลีโอที่มีแผนอยากจะเล่นในสหรัฐอเมริกา เพราะในตอนที่เขายังเด็ก เขาได้เห็นอิมแพ็กของเบ็คแฮมที่ย้ายมาค้าแข้งในลอสแอนเจลิส ซึ่งมีส่วนช่วยให้วงการฟุตบอลอเมริกันตื่นตัวและเติบโตขึ้นจากเดิมมาก

 

ถ้าจะช่วยให้ฟุตบอลเติบโตที่นั่นได้ เมสซีก็อยากจะลองดู

 

 

ส่วนฝ่ายอินเตอร์ ไมอามี คนที่ทำหน้าที่เปิดการขายนั้นไม่ใช่เบ็คแฮม แต่เป็น ฮอร์เก มาส ซึ่งเป็นมหาเศรษฐีเจ้าของ MasTec บริษัทยักษ์ใหญ่ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับโครงสร้างพลังงานและวิศวกรรมซึ่งก่อตั้งโดย ฮอร์เก มาส กาโนซา พ่อของเขา ซึ่งเป็นชาวคิวบาผู้ลี้ภัยมา

 

ด้วยรากเหง้าของผู้อพยพ สิ่งที่มาสมองฟลอริดาและไมอามีนั้นไม่ได้เป็นภาพของเมืองริมทะเลที่สวยงาม หรือไลฟ์สไตล์ที่หรูหราของคนมีเงิน แต่เขามองเห็นภาพของสังคมที่มีความสลับซับซ้อน สังคมของเหล่าผู้อพยพที่ทำงานหนัก ซึ่งมาจากเหล่าคนตัวเล็กๆ ที่พยายามมองหาโอกาสและโชคชะตาที่ดีกว่าเหมือนพ่อของเขาในอดีต

 

มาสพยายามบอกเล่าเรื่องราวของไมอามีผ่านการประกอบภาพต่างๆ เหล่านี้ที่สะท้อนความเป็นจริงและเป็นไมอามีที่เขารักให้กับ ฮอร์เก เมสซี ฟัง

 

โดยในการพบกันครั้งนั้น ฮอร์เก มาส ค้นพบสิ่งสำคัญบางอย่างที่สำคัญเกี่ยวกับครอบครัวของเมสซี ซึ่งไม่ได้หมายถึงลิโอเนลแค่คนเดียว

 

และเขาใช้ข้อมูลที่สำคัญนี้ในการวางกลยุทธ์ เพื่อความฝันในการคว้าตัวนักเตะที่เก่งที่สุดในโลกมาร่วมทีมให้ได้

         

เวลาผ่านมาถึงเดือนพฤศจิกายน 2022 ในการประชุมบอร์ดบริหารของ MLS ซึ่งจัดขึ้นที่ The 1 Hotel ในย่านบรูกลิน ที่นำมาโดย ดอน การ์เบอร์ ลีกคอมมิชชันเนอร์ หรือประธานของลีก มีการเปิดประเด็นหารือกับบรรดาแฟรนไชส์ต่างๆ ในหลายเรื่อง

 

หนึ่งในเรื่องที่มีการพูดคุยกันโดยที่ไม่มีใครคาดคิดคือ การที่อินเตอร์ ไมอามี จะแจ้งต่อการ์เบอร์ว่า พวกเขาต้องการจะดึงเมสซีมาร่วมทีมให้ได้

 

ถอยหลังกลับไปในวันดีที่อินเตอร์ ไมอามี ได้รับการประกาศรับรองจาก MLS ในฐานะแฟรนไชส์ใหม่ของลีกเมื่อปี 2018 หนึ่งในคนที่ร่วมแสดงความยินดีด้วยคือเมสซี ที่แอบหยอดว่าอยากมีโอกาสจะมาเล่นในสหรัฐฯ สักครั้งหนึ่ง

 

แต่นั่นไม่ได้แปลว่า มีใครคิดว่าจะมีทีมที่กล้าดึงตัวเขามาจริงๆ ยกเว้นแต่ฮอร์เกและ โฮเซ มาส ‘The Mas Brothers’ ที่เป็นเจ้าของทีมร่วมกับ เดวิด เบ็คแฮม โดย ฮอร์เก มาส เคยให้สัมภาษณ์กับ The Miami Herald ในปี 2021 เกี่ยวกับเรื่องนี้

 

“เดวิดและผมพยายามทำงานอย่างหนัก เรามีความฝันที่จะดึงตัวนักเตะที่เก่งที่สุดในโลกมาให้ได้ และ ลีโอ เมสซี ก็คือนักฟุตบอลแห่งยุคสมัย หรืออาจกล่าวได้ว่ายอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล” มาสกล่าว “ผมมองในแง่ดีว่าเมสซีจะได้มาเล่นในสีเสื้อของอินเตอร์ ไมอามี เพราะผมคิดว่ามันจะเป็นการเติมเต็มตำนานของนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคสมัยของเรา และมันก็จะเป็นการตอกย้ำถึงความทะเยอทะยานของเจ้าของทีมอินเตอร์ ไมอามี ที่จะสร้างทีมในระดับโลก”

 

อย่างไรก็ดี งานของอินเตอร์ ไมอามี ไม่ง่ายเลย เพราะช่วงเวลานั้นเมสซียังทำผลงานได้โดดเด่นกับเปแอสเช ต้นสังกัดในเวลานั้น และมีโอกาสที่เขาจะได้รับการเสนอสัญญาใหม่ เช่นเดียวกับโอกาสในการกลับไปบอกรักและบอกลาแฟน Culers ของทีมบาร์เซโลนาอีกครั้ง หลังจากที่จำใจต้องจากมาแบบไม่ทันได้อำลากันดีๆ เหมือนตำนานคนอื่นๆ

 

ไม่นับกระแสซุบซิบว่า มีข้อเสนอจากซาอุดีอาระเบียที่พร้อมจะทุ่มเงินมหาศาลเพื่อดึงตัวเขาไปร่วมทีม

 

อินเตอร์ ไมอามี เป็นรองทั้งหมดในแทบทุกด้าน และนั่นทำให้การดึงตัวเมสซีมาเป็นเรื่องที่ต้องการทั้งความร่วมมือและการช่วยกันหาทางออกอย่างสร้างสรรค์ โดยผลประโยชน์สูงสุดนั้นไม่ได้อยู่ที่แฟรนไชส์เดียว แต่หมายถึงภาพรวมทั้งหมดของ MLS และชาวอเมริกันชน

 

จากการแจ้งต่อที่ประชุมในวันนั้น ฮอร์เก มาส ถูกจับภาพว่าเขาอยู่ในห้องรับรองพิเศษที่ FIFA จัดให้เมสซีที่สนามลูซาอิล สังเวียนรอบชิงชนะเลิศของฟุตบอลโลก 2022 โดยนั่งอยู่ข้าง ดิเอโก ซิเมโอเน และร่วมลุ้นแชมป์โลกสมัยแรกของเมสซีและแชมป์โลกสมัยที่ 3 ของอาร์เจนตินา อย่างระทึกไม่ต่างจากแฟนฟุตบอลทุกคน

 

การปรากฏตัววันนั้นเป็นเหมือนคำบอกใบ้ถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างมาสและครอบครัวเมสซี ซึ่งมันไม่ใช่สิ่งที่เขาแลกมาด้วยการใช้เงินซื้อ แต่เป็นสิ่งที่เขาแลกมาด้วยการผูกสัมพันธ์อย่างยั่งยืน เพราะนับจากการพบกันครั้งแรกในปี 2019 ฮอร์เก มาส และ ฮอร์เก เมสซี ได้พบกันอีกหลายครั้งโดยที่ไม่จำเป็นต้องพูดจาภาษาธุรกิจเลย

 

 

มาสรู้ว่าครอบครัวคือสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับ ลิโอเนล เมสซี และหากพวกเขาสามารถมอบข้อเสนอที่ดีต่อครอบครัวของเมสซีได้ พวกเขาก็จะมีโอกาสพลิกเกมได้

 

และข่าวเรื่องการตกลงสัญญาใหม่ของเมสซีกับเปแอสเชในช่วงหลังจบฟุตบอลโลกก็ไม่ได้ทำให้เขาหวั่นไหวนัก สิ่งที่มาสคิดว่าเขาควรจะทำมากที่สุดคือ การพยายามไม่พูดอะไร เก็บทุกอย่างเป็นความลับให้มากที่สุด เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าด้วยสถานะของการเป็น ‘GOAT’ เมสซีย่อมเผชิญกับแรงกดดันจากทุกทิศทุกทาง

 

เขาอยากให้อินเตอร์ ไมอามี เป็นเซฟโซนสำหรับเมสซี ที่จะไม่สร้างแรงกดดันใดๆ ให้กับลีโอเลย

 

สุดท้ายการต่อสัญญากับเปแอสเชก็ไม่เป็นความจริง โอกาสที่จะได้ตัวนักเตะที่เก่งที่สุดตลอดกาลเริ่มเปิดกว้างมากขึ้น

           

เมื่อประตูเปิด ในการประชุมบอร์ดของ MLS อีกครั้งเมื่อวันที่ 4 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งจัดขึ้นที่นอร์ทเทิร์นแคลิฟอร์เนีย ก็อาจเรียกได้ว่าเป็นการประชุมนัดพิเศษ เพื่อช่วยกันวางแผนในการคว้าตัวเมสซีมาให้ได้

 

การประชุมอย่างเป็นทางการนั้นมีขึ้นที่พาโลอัลโต แต่ว่าบรรดาเจ้าของแฟรนไชส์ต่างๆ ใน MLS ได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมสำนักงานใหญ่ของ Apple ที่คูเปอร์ติโน พร้อมกับได้มีโอกาสร่วมโต๊ะอาหารมื้อค่ำกับผู้บริหารของบริษัทยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีของโลกด้วย

 

ที่ Apple ปรากฏตัวขึ้นมานั้นเป็นเพราะ MLS เพิ่งจะเซ็นสัญญาร่วมกับ Apple ในการเป็นผู้สนับสนุน รวมถึงจะนำคอนเทนต์ของ MLS ทั้งการถ่ายทอดสดการแข่งขันและเบื้องหลังที่หาชมที่ไหนไม่ได้อื่นๆ ไปออกอากาศทาง Apple TV+ สำหรับคนที่สมัครสมาชิก MLS Season Pass App

 

และ Apple นี่เองที่กลายเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญที่ช่วยกล่อมให้เมสซีมาอเมริกา

 

โดยจากสารตั้งต้นความฝันของอินเตอร์ ไมอามี มาสู่การช่วยกันออกแบบโครงสร้างของข้อเสนอกับ MLS ที่มีกฎพิเศษในการเปิดทางให้แต่ละแฟรนไชส์สามารถเซ็นสัญญากับนักฟุตบอลพิเศษได้ 3 คน โดยไม่นำมาคิดเรื่องของเพดานค่าเหนื่อย ซึ่งเป็นกฎที่เริ่มใช้ในปี 2007 กับ เดวิด เบ็คแฮม เป็นคนแรก โดยที่อินเตอร์ ไมอามี เสนอ นอกจากเงินรายได้แล้วก็ยังแบ่งหุ้นของสโมสรให้ด้วย

           

ขณะที่ Apple อยู่ในพาร์ตการเจรจาเรื่องสิทธิประโยชน์ ซึ่งมีการเห็นชอบร่วมกับ MLS ที่จะเจรจาเรื่องเงินส่วนแบ่งรายได้พิเศษที่เกิดขึ้นจาก MLS Season Pass App ไปจนถึงเรื่องของการจำหน่ายสินค้า MLS ที่เป็นลิขสิทธิ์ของ adidas และเงินรายได้พิเศษอื่นๆ

           

เรียกว่าทุกฝ่ายพยายามช่วยกันคนละไม้คนละมือ เพื่อให้ดีลนี้เกิดขึ้นให้ได้

 

สำหรับเมสซี การมาอยู่ไมอามี (ซึ่งเขาเองก็มีอสังหาริมทรัพย์อยู่ที่นี่) แน่นอนเรื่องคุณภาพชีวิตดีมีส่วนมาก การเดินทางจากไมอามีกลับบ้านเกิดที่อาร์เจนตินายังใช้เวลาแค่ 9 ชั่วโมง ซึ่งดีกว่าการเดินทางจากบาร์เซโลนาที่ใช้เวลา 13.5 ชั่วโมง หรือ 20 ชั่วโมงหากเริ่มต้นเส้นทางจากกรุงริยาดในซาอุดีอาระเบีย

 

 

การมา MLS ยังอาจหมายถึงการสร้างตำนานเปลี่ยนแปลงวงการฟุตบอลของอเมริกาได้ในระดับที่เทียบเท่าหรือมากกว่าที่ เปเล่ ราชาลูกหนังโลกคนก่อน เคยทำได้ในปี 1977 กับทีมนิวยอร์ก คอสมอส หรือกับเบ็คแฮมที่สร้างกระแสได้มากเมื่อย้ายจากเรอัล มาดริด มาอยู่แอลเอ กาแล็กซี ในปี 2007

           

“จะมีโอกาสสักกี่ครั้งที่คุณจะสามารถเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ได้ตลอดกาล?” ฮอร์เก มาส กล่าวถึงโอกาสพิเศษสำหรับเมสซี

           

สำหรับทางฝ่ายของอินเตอร์ ไมอามี รวมถึง MLS (และ Apple) พวกเขาคิดว่า นี่แหละคือสิ่งที่ดีที่สุดที่พวกเขาจะทำได้แล้ว

           

ที่เหลือก็อยู่ที่ใจของเมสซีเอง

           

ตัดโอกาสในการจะอยู่ที่ปารีสต่อไป เพราะแฟนบอลมองเห็นเขาเป็นศัตรู ถึงขั้นโห่ฮาใส่แม้ในเกมสุดท้ายที่เมสซีลงเล่นที่พาร์กเดส์แพรงซ์

           

ราชาลูกหนังโลกเหลือทางเลือกอีก 3 ทาง

           

หนึ่งคือการกลับ ‘บ้าน’ ที่บาร์เซโลนา เพียงแต่วิกฤตทางการเงินของสโมสรไม่ได้ดีขึ้นกว่าเมื่อ 2 ปีที่แล้ว และนั่นหมายถึงการที่เขาอาจต้องยอมอดทนรอดูว่าทุกอย่างจะคลี่คลายไปในทิศทางใด โดยเฉพาะการที่บาร์ซาต้องขายนักเตะออกบางส่วน เพื่อเปิดทางให้เขากลับบ้าน

           

ทางต่อมาเหมือนการตกถังน้ำมันที่เต็มไปด้วยทองคำ เมื่อซาอุดีอาระเบียต้องการได้ตัวเขามาอยู่ร่วมลีกกับ คริสเตียโน โรนัลโด ที่เป็นผู้บุกเบิกจริงๆ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยอัล ฮิลาล พร้อมยื่นข้อเสนอที่มีมูลค่ามหาศาลถึง 1.3 พันล้านดอลลาร์ในสัญญาระยะเวลา 3 ปี ซึ่งเป็นตัวเลขที่อยู่เหนือจินตนาการอย่างมาก

 

 

และทางสุดท้ายซึ่งเป็นทางที่แทบไม่มีคนคาดคิดคือ การมาอินเตอร์ ไมอามี ทีมท้ายตารางของ MLS สายตะวันออก ทุกวันนี้ยังเช่าสนามแข่งฟอร์ตเลาเดอเรลที่มีความจุแค่ 20,000 คน ไม่มีอะไรที่ดูสมเกียรติสมฐานะของเมสซีสักอย่าง

           

แต่เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่อินเตอร์ ไมอามี โดยเฉพาะสิ่งที่ ฮอร์เก มาส ทำมาตลอด ทำให้เมสซีตัดสินใจที่จะเลือกพวกเขา ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าชีวิตในยามสนธยาของราชาลูกหนังจะได้อยู่อย่างสงบสุขกับครอบครัว

           

ก่อนที่จะแจ้งข่าวมายังอินเตอร์ ไมอามี ในเช้าวันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา

           

มาสไม่ได้ออกอาการดีใจอะไร เขาแค่เดินไปบอกข่าวกับโฮเซซึ่งนั่งอยู่ในห้องทำงานถัดไปให้รู้เรื่อง ทั้งคู่เก็บตัวเงียบในห้องทำงานอยู่หลายชั่วโมง ก่อนที่จะลงลิฟต์จากห้องทำงานของตัวเองซึ่งอยู่บนชั้น 12 เพื่อลงมาชั้น 7 ที่เป็นสำนักงานของสตาฟฟ์ทีม

           

มาสลงมาดูการแถลงข่าวของเมสซีด้วยกันกับทุกคน ก่อนที่จะได้ยินว่า

           

“Tomé la decisión de ir a Miami”

           

ความฝันอันน่าเหลือเชื่อของ ฮอร์เก มาส รวมถึง โฮเซ มาส, เดวิด เบ็คแฮม และทุกคนในอินเตอร์ ไมอามี ได้กลายเป็นความจริงแล้ว

           

และทั้งหมดนี้คือเรื่องราวหลังม่านการเจรจาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ MLS

           

ที่เหลือต่อจากนี้ให้เป็นหน้าที่ของเมสซีที่จะร่ายมนตร์บนสนามให้แฟนๆ อเมริกันได้หลงรัก ‘Soccer’ แบบหัวปักหัวปำกันอีกครั้ง

 

อ้างอิง:

FYI

FYI:

  • ความจริงแล้วหลังจากที่เมสซีประกาศออกมาว่าเลือกอินเตอร์ ไมอามี ยังไม่มีการเซ็นสัญญากันอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด โดยสัญญาของเมสซี (และนักฟุตบอลทุกคน) จะขึ้นอยู่กับ MLS ซึ่งมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ต้องตกลงอีกมาก ทำให้ใช้เวลากว่า 1 เดือนในการจัดการรายละเอียดทั้งหมด ก่อนจะมีการเปิดตัวเมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา
  • ในวันเปิดตัวเมสซีที่สนามฟอร์ตเลาเดอเรล มีผู้เข้าชมการเปิดตัวจำนวน 3,500 ล้านครั้งจากทั่วโลก ในขณะที่ซูเปอร์โบวล์มีจำนวนผู้ชม 115 ล้านคน และเอ็นบีเอไฟนอลส์มี 57 ล้านคน
  • ลิโอเนล เมสซี ยืนยันที่จะลงประเดิมเกมแรกให้อินเตอร์ ไมอามี ในเกมพบกับครูซ อาซูล ในศึกลีกคัพ MLS วันศุกร์นี้
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising