การเดินทางในทุกทริปโดยเฉพาะทริปทะเลที่ต้องมีการออกแดด สิ่งที่ลืมไม่ได้เลยคือ ครีมกันแดดที่ต้องพกติดกระเป๋าเดินทางไปด้วยเสมอ ประโยชน์ของครีมกันแดดจะช่วยปกป้องผิวของเราไม่ให้โดนทำร้าย ซึ่งแดดและรังสี UV ต่างๆ เป็นต้นเหตุของปัญหาผิวมากมาย ทั้งความหมองคล้ำ, ริ้วรอย, จุดด่างดำ และผิวแห้งกร้าน ดังนั้น THE STANDARD POP จึงคัดสรร 5 แบรนด์กันแดดที่เราชอบมาแนะนำให้กับผู้อ่าน เผื่อเป็นไอเดียสำหรับใครที่กำลังมองหาครีมกันแดดที่ตอบโจทย์ และเหมาะสมกับตัวเองในทุกทริปที่กำลังวางแผนจะเดินทาง
1. FYNE Hybrid Light Hydrating Sunscreen Broadspectrum SPF50 PA+++
เป็นครีมกันแดดเนื้อบางเบาที่อยากแนะนำมากๆ สำหรับผู้ที่ผิวแพ้ง่าย (แต่สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว) ช่วยป้องกันผิวจากมลภาวะ ฝุ่นละออง PM และมีค่า SPF 50 PA+++ มีส่วนผสมเด่นจากสารกันแดดไฮบริดและสารสกัดจากมะรุม มีไฮยาลูรอนที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นไปในตัว และมีสารอาหารผิวที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมาก เป็นกันแดดที่แพ็กเกจจิ้งสวย การใช้งานดี ไม่มีอาการแพ้ใดๆ แถมยังเป็นกันแดดแบรนด์ไทยที่สามารถวางจำหน่ายใน Sephora ได้ด้วย คุณภาพจึงไม่ธรรมดาจริงๆ
Skin Type: ทุกสภาพผิว
ราคา: 1,290 บาท
พิกัด: Sephora
2. Cute Press UV Expert Protection
ใครชอบครีมกันแดดที่มีเนื้อสีช่วยโทนอัพผิวไปในตัวจะต้องพอใจกับกันแดดหลอดนี้แน่นอน เพราะเป็นไอเท็มที่ได้รับการรีวิวในหมู่บิวตี้กูรูเยอะมาก ด้วยราคาที่ไม่แพง แต่ได้ผลลัพธ์ที่ดีเกินคาด เนื้อกันแดดทาง่าย เนียนไปกับผิวได้อย่างง่ายดาย และช่วยเบลอรูขุมขน ใครที่ไปทะเลแล้วอยากให้ผิวดูเป็นผิวจริง แต่มีความสว่างขึ้นหนึ่งเฉดแบบผิวสุขภาพดีที่ไม่หลอกตา สามารถทากันแดดตัวนี้แล้วจบเลย ถ่ายรูปออกมาผิวจะดูฉ่ำเนียน แม้จะหน้าสดแต่ก็ดูเป็นผิวดีแบบสุขภาพดี แถมยังควบคุมความมันได้นาน 12 ชั่วโมงอีกด้วย หลังจากผ่านไปครึ่งวันพบว่าสีกันแดดไม่ดรอปและไม่เป็นคราบระหว่างวัน
Skin Type: ทุกสภาพผิว
ราคา: 263.20 บาท
พิกัด: Cutepress.com
3. ALLIE Gel UV EX SPF50+ PA++++
ครีมกันแดดเนื้อเจลที่ทาง่ายมาก ผู้ชายที่ไม่ชอบกันแดดที่เหนอะหนะน่าจะชอบมาก เป็นสูตรที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวได้ดี ปกป้องรังสี UV ได้ และมีประสิทธิภาพในการกันน้ำ กันเหงื่อ และไม่เหนียวเหนอะหนะ นอกจากจะทาง่าย ใช้แล้วสบายผิว ยังเป็นกันแดดที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนด้วย โดยในปี 2022 ALLIE พัฒนาสูตรกันแดดให้มีความเป็นมิตรต่อท้องทะเลและปะการัง โดยคำนึงถึงกฎข้อบังคับในการใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดจากหลายประเทศทั่วโลก เพื่อให้ได้มาซึ่ง ผลิตภัณฑ์กันแดดที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม บรรจุภัณฑ์ก็ทำมาจากวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
Skin Type: ทุกสภาพผิว
ราคา: 780 บาท
พิกัด: Watsons, Matsumoto Kiyoshi, Tsuruha Drug Store
4. G’Day Mate Sunscreen SPF50+ PA++++
ครีมกันแดดสายวีแกนจากเกาหลีใต้ที่ไม่เป็นอันตรายต่อคน สัตว์ และสิ่งแวดล้อม ผ่านการทดสอบว่ามีค่าการป้องกันสูงสุดในเกาหลีใต้
Chasin’ Rabbits ใส่ใจความยั่งยืนผ่านการปลูกฝังแนวคิดและคุณค่าของเทคโนโลยี ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมให้กับคนรุ่นต่อไป ทำให้เมื่อใช้กันแดดหลอดนี้จะมั่นใจได้ว่าปลอดภัยและดีต่อผิว ด้วยส่วนผสมพรีเมียมที่มาจากธรรมชาติที่ได้รับการรับรองจาก Korea Agency of Vegan Certification and Services และ Cruelty-Free ที่ไม่ได้ทำการทดลองกับสัตว์ นอกจากนี้ยังเลือกใช้ Eco-Packaging หรือแพ็กเก็จที่ผลิตอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก ฉลากสามารถลอกออกได้ จึงง่ายต่อการนำไปรีไซเคิลอีกด้วย
Skin Type: ทุกสภาพผิว
ราคา: 920 บาท
พิกัด: King Power
5. Supergoop! PLAY Everyday Lotion SPF50 with Sunflower Extract
ครีมกันแดดสูตรซึมเร็ว ไม่เหนอะหนะ กันน้ำและเหงื่อ เป็นสูตรที่ช่วยป้องกันรังสี UVA / UVB และ IRA ในระดับสูง พร้อมปกป้องผิวจากการเกิดริ้วรอยจากการเผชิญแสงแดดและความแห้งตึงของผิว ผสานสารสกัดจากซิตรัส โหระพา และไม้พะยูง สามารถใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย
Skin Type: ทุกสภาพผิว
ราคา: 410 บาท (30 ml)
พิกัด: Sephora
ภาพประกอบ: ฉัตรชัย เฉยชิต