×

BDMS – 4Q66 ดีเกินคาด, แนวโน้มกำไรแข็งแกร่งและ Valuation ไม่แพง

22.02.2024
  • LOADING...
BDMS

เกิดอะไรขึ้น:

 

เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) รายงานกำไรปกติ 4Q66 ที่ 4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 27%YoY และ 2%QoQ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์และสวนทางกับแนวโน้มปกติที่มักจะปรับตัวลดลง QoQ ตามฤดูกาล กำไรออกมาสูงกว่าการคาดการณ์จากรายได้ (เพิ่มขึ้น 12%YoY, ทรงตัว QoQ) และ EBITDA Margin (25.1% เพิ่มขึ้นจาก 23.8% ใน 4Q65 และ 24.9% ใน 3Q66) ที่แข็งแกร่ง 

 

ในส่วนของรายได้นั้นมีประเด็นที่น่าสนใจคือการเติบโตที่แข็งแกร่งขึ้นของรายได้จากการให้บริการผู้ป่วยชาวต่างชาติ (เพิ่มขึ้น 17%YoY และ 7%QoQ, คิดเป็น 28% ของรายได้ 4Q66) จากตลาดที่สำคัญอย่างกาตาร์ จีน และฝรั่งเศส สำหรับปี 2566 BDMS รายงานกำไรปกติ 1.43 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 14%YoY บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับงวด 2H66 ที่ 0.35 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 1.2% ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 6 มีนาคม 2567 และจ่ายเงินปันผลวันที่ 22 เมษายน 2567

 

กระทบอย่างไร:

 

หลังรายงานผลประกอบการ ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 ราคาหุ้น BDMS ปรับขึ้น 2.63% สู่ระดับ 29.25 บาท ขณะที่ SET Index ปรับขึ้น 0.43% สู่ระดับ 1,399.65 จุด 

 

แนวโน้มผลประกอบการ 2567:

 

InnovestX Research ปรับประมาณการกำไรปกติปี 2567-2569 ของ BDMS เพิ่มขึ้นปีละ 2% เพื่อสะท้อนผลประกอบการที่ดีกว่าคาด สำหรับปี 2567 ประเมินได้ว่ากำไรปกติจะเติบโต 8% สู่ 1.5 หมื่นล้านบาท โดยได้รับการสนับสนุนจากรายได้ที่เติบโต 6% และ EBITDA Margin ที่กว้างขึ้น (24.9% จาก 24.4% ในปี 2566) และเชื่อว่าโมเมนตัมกำไรที่แข็งแกร่งโดยเติบโต YoY และ QoQ จะเกิดขึ้นต่อเนื่องใน 1Q67 BDMS มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนในระดับต่ำที่ 0.11 เท่า ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566

 

ด้าน Valuation ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น BDMS ปรับตัวเพิ่มขึ้น 8% ดีกว่า SET ที่ลดลง 1% ขณะที่มองว่า Valuation ปัจจุบันไม่แพง โดยเทรดที่ P/E ปี 2567 ระดับ 29 เท่า ต่ำกว่าระดับ -2SD ของ P/E เฉลี่ยในอดีต (ตั้งแต่ปี 2558 ไม่รวมปีที่เกิดสถานการณ์โควิดในปี 2563-2564) 

 

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนและคำแนะนำ คาดว่ากำไรที่ออกมาดีเกินคาดจะทำให้นักลงทุนหันมาให้ความสนใจหุ้น BDMS และคาดว่าราคาหุ้นจะปรับตัว Outperform ตลาดได้อย่างต่อเนื่อง โดยได้รับการสนับสนุนจากแนวโน้มกำไรที่แข็งแกร่งและ Valuation ที่ไม่แพง โดยยังคงคำแนะนำ Tactical Call ระยะ 3 เดือน สำหรับ BDMS ไว้ที่ Outperform โดยให้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 อ้างอิงวิธี DCF (WACC ที่ 7.1% และการเติบโตระยะยาวที่ 3%) ที่ 35 บาทต่อหุ้น

 

ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ ที่อาจทำให้เกิดการชะลอการรักษาโรคที่ไม่เร่งด่วน และความไม่สะดวกของผู้ป่วยต่างชาติที่จะเดินทางมารับการรักษาพยาบาลในประเทศไทย ส่วนปัจจัยเสี่ยงด้าน ESG คือความปลอดภัยของผู้ป่วย (S) ซึ่ง BDMS ได้นำเอาระบบบริหารคุณภาพต่างๆ มาใช้สำหรับกระบวนการดูแลผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising