×

BCH – แนวโน้มแข็งแกร่ง ตั้งเป้ามีโรงพยาบาล 20 แห่งในปี 2571

05.10.2023
  • LOADING...
BCH

เกิดอะไรขึ้น:

InnovestX Research ได้จัดงานอีเวนต์เพื่อให้ BCH พบนักลงทุนสถาบันในประเทศ โดยประเด็นหลักอยู่ที่แนวโน้มของ BCH ในระยะ 5 ปีข้างหน้า BCH วางแผนเปิดโรงพยาบาลใหม่เพิ่มอีก 5 แห่ง สู่เป้าหมายที่ 20 แห่ง ภายในปี 2571 ซึ่งจะทำให้จำนวนเตียงจดทะเบียนเพิ่มขึ้นจาก 2,254 เตียง สู่ ~3,100 เตียง ในปี 2571 หรือเพิ่มขึ้น 38% โดยมีโรงพยาบาล 2 แห่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง: 1. ศูนย์มะเร็งรังสีรักษา เกษมราษฎร์อารี (บริการ OPD เช่น รังสีรักษา) จะเปิดให้บริการในปี 2567 และ 2. โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ สุวรรณภูมิ (268 เตียง) จะเปิดให้บริการในปี 2570 

 

BCH เปิดเผยว่า โรงพยาบาลใหม่อีก 3 แห่งที่เหลือจะเน้นไปที่พื้นที่ EEC ซึ่งความต้องการใช้บริการทางการแพทย์มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เติบโตเพิ่มขึ้น การลงทุนนั้นจะมีลักษณะเป็นโครงการก่อสร้างโรงพยาบาลใหม่ ความร่วมมือ และ/หรือ การบริหารโรงพยาบาล ในขณะที่มองบวกต่อความต้องการใช้บริการทางการแพทย์ 

 

แต่ความท้าทายที่สำคัญสำหรับ BCH คือการแข่งขัน เนื่องจาก BDMS และ CHG มีโรงพยาบาลในพื้นที่ EEC อยู่แล้ว และกำลังขยายธุรกิจในพื้นที่ดังกล่าวด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดี มองว่าความเชี่ยวชาญในการให้บริการกลุ่มผู้ป่วยประกันสังคม (SC) ของ BCH เป็นจุดแข็งที่สำคัญของบริษัท

 

สำหรับโรงพยาบาลใหม่ BCH ตั้งเป้า EBITDA Margin เพิ่มขึ้นเป็น 27-28% ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ เทียบกับ 26.9% ในปี 2562 และ 22.3% ใน 1H66 โดยได้แรงหนุนจากการดำเนินงานที่ดีขึ้นของโรงพยาบาลใหม่ 3 แห่ง (โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล อรัญประเทศ, โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ปราจีนบุรี และโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เวียงจันทน์) 

 

โดยโรงพยาบาลใหม่ทั้งสามแห่งนี้ รายงาน EBITDA รวม 15 ล้านบาท ใน 2Q66 ฟื้นตัวจากขาดทุน EBITDA ที่ 8.3 ล้านบาท ใน 1Q66 และ BCH คาดว่าโรงพยาบาลใหม่ 3 แห่งนี้จะคุ้มทุนที่ระดับกำไรสุทธิในปี 2568 นอกจากนี้ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เวียงจันทน์ ได้ชำระหนี้สกุลบาทครบทั้งหมดแล้วในเดือนกันยายน ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศสำหรับโรงพยาบาลแห่งนี้ และผลกระทบต่อ BCH หลังจากรวมผลการดำเนินงานเข้ามา ใน 2Q66 BCH บันทึกขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 63 ล้านบาท เนื่องจากเงินกีบอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินบาท โดยคิดเป็น 10% ของ EBITDA และ 21% ของกำไรปกติ

 

กระทบอย่างไร:

ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น BCH ปรับขึ้น 6.32%MoM สู่ระดับ 20.20 บาท ขณะที่ SET Index ปรับลง 6.29%MoM อยู่ที่ระดับ 1,451.25 จุด 

 

แนวโน้มผลประกอบการปี 2566:

InnovestX Research คาดการณ์กำไรจะดีขึ้นใน 2H66 และจะเพิ่มขึ้นก้าวกระโดดในปี 2567 โดยยังคงประมาณการกำไรปกติปี 2566 ไว้ที่ 1.4 พันล้านบาท และคาดว่ากำไรปกติของ BCH จะปรับตัวดีขึ้น QoQ ใน 3Q66 (สู่ 380-400 ล้านบาท) และทำจุดสูงสุดของปีนี้ใน 4Q66 โดยอิงกับมุมมองที่ว่าผลกระทบจากขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนจะลดลง 

 

ขณะที่ปี 2567 คาดว่ากำไรปกติจะเติบโต 20% สู่ 1.7 พันล้านบาท (ดีกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่เติบโต 12%) โดยอิงกับรายได้ที่เติบโต 7% และ EBITDA Margin ที่ 27.1% (จาก 25.8% ในปี 2566) 

 

อย่างไรก็ดี ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น BCH ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5% ดีกว่า SET ที่ปรับตัวลดลง 6% ซึ่งมองว่าจะมีแนวโน้มปรับตัว Outperform อย่างต่อเนื่อง โดยได้แรงหนุนจากปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากผลประกอบการที่ดีขึ้นใน 2H66 สำหรับกลยุทธ์การลงทุน InnovestX Research เลือก BCH เป็นหุ้นเด่น และให้เรตติ้ง Outperform ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 อ้างอิงวิธี DCF ที่ 23 บาทต่อหุ้น

 

ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามและเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดคือ การเกิดโรคระบาดใหญ่ที่จะส่งผลกระทบทำให้ผู้ป่วยชะลอการเข้าใช้บริการ การแข่งขันรุนแรง การขาดแคลนบุคลากร และความเสี่ยงด้านกฎหมาย

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising