หลังจากที่มีกระแสข่าวสะพัดตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ในที่สุด ฮันซี ฟลิก ก็ได้ประกาศการตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวที่จะขออำลาทีมบาเยิร์น มิวนิก แค่เพียงสิ้นสุดฤดูกาลนี้
เรื่องนี้พอจะเป็นสิ่งที่คาดเดาได้ แต่วิธีการที่กุนซือซึ่งพาทีม ‘เสือใต้’ กวาดแชมป์ทุกรายการที่มีในช่วงระยะเวลาเพียงแค่ 18 เดือนที่อยู่ในตำแหน่งนั้นเป็นสิ่งที่ถูกพูดถึงและน่าจับตามองอย่างมาก
การประกาศการตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ไม่มีใครคาดฝันในช่วงหลังจบเกมบุนเดสลีกานัดล่าสุดที่สโมสรดังจากแคว้นบาวาเรีย เฉือนเอาชนะโวล์ฟสบวร์กได้อย่างสุดมัน 3-2 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา
โดยฟลิกได้ทำการแจ้งให้ผู้สื่อข่าวทราบว่าเขา “ต้องการจะยกเลิกสัญญากับสโมสร” หลังสิ้นสุดฤดูกาลนี้ด้วยตัวเอง ซึ่งไม่ใช่เรื่องปกติเพราะตามวิสัยแล้วการประกาศเรื่องสำคัญเช่นนี้สโมสรจะเป็นฝ่ายที่ประกาศการตัดสินใจเองไม่ว่าจะผ่านแถลงการณ์ หรือการออกมาให้ข้อมูลของผู้บริหาร
เรื่องนี้สื่อในเยอรมนีมองว่าฟลิกเลือกวิธีเช่นนี้เพราะต้องการ ‘ใช้พลังของสื่อในการช่วยฉีกสัญญา’ กับบาเยิร์น
ความจริงแล้วใน ‘หลังฉาก’ ทางฝ่ายผู้บริหารของบาเยิร์นเองก็รับรู้เกี่ยวกับการตัดสินใจของกุนซือผู้ก้าวจากคนเบื้องหลังมาอยู่หน้าฉากอยู่ก่อนแล้วตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เพียงแต่การประกาศการตัดสินใจผ่านสื่อแบบนี้เป็นสิ่งที่อยู่เหนือจากความคาดหมายอยู่ไม่น้อย
ในช่วงเวลาที่ฟลิกได้ประกาศการตัดสินใจนั้นบอร์ดบริหารของบาเยิร์น ซึ่งต่างคนต่างเดินทางมายังสนามตามมาตรการป้องกันการระบาดของโควิด-19 ที่เดเอฟเบ (สหพันธ์ฟุตบอลเยอรมัน) ระบุไว้ก็อยู่ระหว่างการที่แต่ละคนขึ้นรถของใครของมันเพื่อจะเดินทางไปยังสนามบินเตรียมเดินทางกลับเมืองมิวนิก
สำหรับเหตุผลที่ทำให้ฟลิกเลือกใช้วิธีแบบนี้มีการประเมินว่าเป็น ‘กลยุทธ์’ ของฝ่ายกุนซือสมองเพชร
เป็นที่รู้กันว่าเส้นทางในอนาคตของฟลิกย่อมหนีไม่พ้นการเข้ารับตำแหน่งบุนเดสเทรนเนอร์ (โค้ชทีมชาติเยอรมนี) ต่อจาก โยอาคิม เลิฟ ที่จะวางมือหลังจบศึกฟุตบอลยูโร 2020 ในช่วงกลางปีนี้ ซึ่งเป็นโอกาสที่อาจจะไม่มีวันหวนกลับมาหาเขาอีกในอนาคตแล้ว
เพื่อที่จะก้าวไปรับตำแหน่งดังกล่าวได้อย่างสะดวกโดยไม่ถูกขัดขวางจากต้นสังกัดอย่างบาเยิร์น ฟลิกจึงเลือกวิธีที่จะประกาศการตัดสินใจก่อนด้วยตัวเองโดยไม่รอให้จบฤดูกาลก่อน หรือรอจนกว่าผู้บริหารจะให้สัญญาณว่าให้ข่าวได้
ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า โอลิเวอร์ คาห์น อดีตนายทวารในตำนานที่จะขึ้นเป็น CEO คนใหม่ของสโมสรต่อจาก คาร์ล-ไฮนซ์ รุมเมนิกเก มีแผนที่จะนัดคุยกับฟลิกเพื่อสอบถามความตั้งใจว่าอยากจะไปคุมทีมชาติจริงหรือไม่ อยากจะไปจากบาเยิร์นจริงหรือเปล่า เผื่อจะมีการเกลี้ยกล่อมได้
แต่การประกาศผ่านสื่อของฟลิกทำให้บาเยิร์นไม่เหลือเหตุผลที่จะขัดขวางไม่ให้ไป และนั่นเป็นเหตุผลข้อที่หนึ่ง
เหตุผลข้อต่อมาคือการที่ฟลิกออกมาประกาศแบบนี้ ทำให้เดเอฟเบอาจจะประหยัดเงินค่าชดเชยที่จะต้องจ่ายให้แก่บาเยิร์นในกรณีที่อาจจะมีการพยายามเหนี่ยวรั้ง (พอเป็นพิธี)
เพราะแม้ทีมจะตกรอบยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกด้วยน้ำมือคู่ปรับเก่าอย่างปารีส
แซงต์ แชร์กแมง (ซึ่งหากมี โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ทั้ง 2 นัดผลการแข่งขันอาจจะไม่เป็นแบบนี้) แต่ในบุนเดสลีกาเวลานี้พวกเขามีคะแนนนำ แอร์เบ ไลป์ซิก ถึง 7 คะแนน โอกาสป้องกันแชมป์อีกสมัยไม่ใช่เรื่องยาก
และเหตุผลอีกข้อคือนี่อาจเป็นการ ‘ตอกหน้า’ ฮาซาน ซาลิฮามิดซิช ผู้อำนวยการสโมสรที่เป็นคู่กรณีขัดแย้งและเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ฟลิกไม่อยากทำงานต่อกับบาเยิร์นอีกต่อไป
เรื่องนี้ไม่ใช่ความขัดแย้งเล็กๆ แต่เป็น ‘สงครามกลางสโมสรฟุตบอล’ เพราะทั้งฟลิกและซาลิฮามิดซิชต่างมี ‘แบ็ก’ ของตัวเอง
ฟลิกได้รับการสนับสนุนจากรุมเมนิกเก CEO คนปัจจุบันขณะที่ ‘บราสโซ’ อดีตตัวริมเส้นขวัญใจแฟนบอลยุค 90 เองก็มีการสนับสนุนจาก แฮร์เบิร์ต ไฮเนอร์ ประธานสโมสร และ อูลี เฮอเนสส์ ประธานบอร์ดบริหารของสโมสร
หนึ่งในรอยร้าวที่เกิดขึ้นคือการที่ซาลิฮามิดซิชเปิดทางให้ ติอาโก อัลกันตารา กองกลางคีย์แมนของทีมย้ายไปลิเวอร์พูลได้อย่างสะดวก และยังไม่พยายามต่อสัญญากับ ดาวิด อลาบา รวมถึง เฌอโรม บัวเต็ง สองกองหลังประสบการณ์สูงที่จะหมดสัญญากับสโมสรหลังจบฤดูกาลนี้
นักเตะที่ซาลิฮามิดซิชหามาให้กับฟลิกใช้งานในช่วงก่อนตลาดการซื้อขายจะปิดตัวลงมีเพียง เอริค มักซิม ชูโป-โมติง, บูนา ซารร์, มาร์ค โรคา และ ดักลาส คอสตา โดยที่ 3 รายหลังแทบไม่ได้รับโอกาสในการลงสนาม และไม่ได้ช่วยให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองดีขึ้น
เมื่อต่างฝ่ายต่างแรงใส่กัน ไม่มีการลดราวาศอก ทำให้สุดท้ายแล้วบทสรุปไม่มีทางเลือกอื่น
คนหนึ่งอยู่ อีกคนก็ต้องไป
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
- https://www.theguardian.com/football/2021/apr/17/european-roundup-hansi-flick-to-leave-bayern-munich-at-end-of-seasonhttps://www.dailymail.co.uk/sport/football/article-9465495/Bayern-Munich-boss-Hansi-Flick-sporting-director-Hasan-Salihamidzic-power-struggle.htmlhttps://www.bavarianfootballworks.com/2021/4/18/22389846/hansi-flick-terminate-contract-bayern-munich-media-dfb-germany-rummenigge-kahn-brazzo-hainer-boardhttps://www.bavarianfootballworks.com/2021/4/17/22389379/bayern-munich-thomas-muller-manuel-neuer-react-hansi-flick-shock-decision-leave-nagelsmann-allegri
- ก่อนประกาศการตัดสินใจฟลิกได้แจ้งต่อลูกทีมทุกคนแล้ว และปฏิกิริยาตอบรับจากทุกคนก็ไม่มีใครแปลกใจหรือต้องการคำอธิบายเพิ่มเติมใดๆ
- คนที่เป็นเต็งที่จะรับตำแหน่งต่อคือ ยูเลียน นาเกิลส์มันน์ ยอดโค้ชไฟแรงของไลป์ซิก