TASTE: Bay.aree คาเฟ่มาดขรึมย่านอารีย์ หมุดหมายของคนรักกาแฟและยามบ่ายที่ดี

อารีย์เป็นย่านที่มีร้านอาหาร บาร์ และคาเฟ่เยอะมากๆ ให้เราได้เลือกแวะกลับไปลองร้านใหม่ๆ อยู่ตลอด โดยเฉพาะกับอย่างหลัง ที่เราเชื่อว่าทุกคนน่าจะเห็นตรงกันว่าแม้คาเฟ่ในซอยนี้จะมีให้เลือกมาก แต่ทุกร้านมีคาแรกเตอร์ที่ชัดเจน ให้บรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ วันไหนอยู่ในอารมณ์แบบไหน อยากได้บรรยากาศแบบไหนก็เลือกตามใจได้เลย

เช่นเดียวกับ Bay.aree คาเฟ่มาดขรึมตรงด้านหน้าอารีย์ซอย 3 ที่ขอสารภาพตรงๆ ว่าครั้งแรกที่เดินผ่านเป็นช่วงเวลาใกล้ค่ำ มู้ดแอนด์โทนชวนให้คิดว่าเป็นบาร์หรือเปล่า แต่เมื่อเข้ามาแล้วที่นี่คือคาเฟ่ที่บรรยากาศเท่เอาเรื่อง เมนูกาแฟที่คัดสรรเมล็ดทั้งจากไทยและต่างประเทศ นำมาผสมเป็นเบลนด์ของตัวเองที่เป็นเอกลักษณ์ให้เลือกถึง 6 คาแรกเตอร์ แถมความเซอร์ไพรส์สุดท้ายคือหนึ่งหุ้นส่วนที่อยู่เบื้องหลังคือ บอย-อริย์ธัช พลตาล ที่เรารู้จักกันดีในนาม บอย Lomosonic ที่วันนี้เปลี่ยนบทบาทลงจากเวทีคอนเสิร์ตร็อกมาดริปกาแฟให้เราชิมแทน

ร้าน Bay.aree เกิดจากบอยและก๊อก ซึ่งก๊อกเคยทำร้านอาหารและคาเฟ่ในย่านอารีย์มาก่อน ด้วยความที่บอยชอบกินกาแฟ ชอบทำกาแฟอยู่แล้ว เมื่อก๊อกชวนในโปรเจกต์ Bay.aree ก็เลยตัดสินใจไม่นานก่อนตอบตกลง ซึ่งไหนๆ เราได้เจอเขาในบทบาทบาริสต้าทั้งที ก็อดถามถึงที่มาไม่ได้ว่าความชอบในเรื่องของกาแฟเกิดขึ้นตอนไหน และถือโอกาสให้เขาพาทัวร์คาเฟ่แห่งนี้เสียเลย

“ก่อนหน้านี้เราเริ่มกินกาแฟจากความเชื่อที่ว่าถ้ากินแล้วจะตื่น แต่ตอนนั้นโลกก็ยังไม่ได้เปิดกว้างมาถึงกาแฟสเปเชียลตี้อะไรอย่างนี้ จุดเริ่มต้นที่ทำให้ชอบกาแฟจริงๆ คือตอนที่ไปเชียงใหม่แล้วหลงขึ้นไปบนดอย เราเจอร้านป้าอยู่ร้านหนึ่งตรงทางไปขุนช่างเคี่ยน เราเดินเข้าไปแบบไม่รู้อะไรเลยสั่งเมนูคาปูชิโนปกติเลย เพราะแต่ก่อนกินเป็นแต่กาแฟนม

“ฉากตอนนั้นเหมือนในหนังเลยนะ ป้านั่งอยู่และบอกเราว่า ‘มีเมนูเดียวจะกินไหม?’ เราก็ลองดูและมันกลายเป็นแบบว่า ทำไมรสชาติกาแฟดำที่ไม่ได้ใส่น้ำตาลมันถึงอร่อย มันไม่เหมือนที่เราเคยรู้จักเลย ซึ่งหลังจากนั้นเราก็มารู้ทีหลังว่าเขาเป็นโฮมสเตย์ที่มีไร่กาแฟของตัวเองด้วย”

บอยเล่าต่อว่าหลังจากนั้นเขาเริ่มศึกษาเรื่องของกาแฟมาเรื่อยๆ ไปต่างประเทศเจอกาแฟตัวใหม่ๆ ก็ลอง และเริ่มเข้าสู่วงการกาแฟสเปเชียลตี้ ซื้ออุปกรณ์มาดริปเองที่บ้านเรื่อยๆ ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา

“4-5 ปีที่ผ่านมาเราทำกาแฟทุกวัน ทำโดยที่ตอนแรกไม่เคยตั้งใจว่าจะเปิดร้านหรอก คิดว่ามันโรแมนติกดีนะตื่นเช้ามาบดกาแฟ ผมว่าการดริปมันให้อโรมาที่ดีตั้งแต่ตอนบดเลย เราทำสองเสิร์ฟ ให้แฟนเสิร์ฟหนึ่ง เรากินเองเสิร์ฟหนึ่ง แต่สิ่งที่สำคัญเลยคือเราต้องมีเวลา ช่วงไหนรีบไปทำงานก็ไม่ได้ทำ ตอนนี้ดีหน่อยมากินที่ร้านแทน”

จากความชอบกิน ชอบดริปกาแฟที่สั่งสมมา เมื่อมาเปิดร้านเมล็ดกาแฟที่มีก็ต้องไม่ธรรมดาแต่ตอบโจทย์ความชอบทุกประเภท ซึ่งปัจจุบันมีเบลนด์ของร้านทั้งหมด 6 ตัว เริ่มจาก ‘Dusk Till Dawn’ ออกฟรุตตี้ตัวนี้เป็นเบลนด์ที่ใช้ Costa Rica Mozart มาชูความกุหลาบเบลนด์กับปานามา และกาแฟจากผาตั้ง จังหวัดเชียงราย ต่อมาเป็น ‘Better Than’ เบลนด์ที่บอยสปอยล์ว่าเป็นตัวที่เขาดื่มได้ทุกวัน ตัวนี้ออกพีช มี Colombia Santa Lucia, Brazil Fazenda Bau และช่างเปา จังหวัดตาก

‘Blend No.5’ เป็นเบลนด์ฟรุ้งฟริ้งอีกตัวที่ให้กลิ่นลิ้นจี่จากส่วนผสมของ Moonstone ผสมกับ Etiopia Ana Sora และแสนชัย เอสเตท เชียงราย ในขณะที่ ‘Bully’ จะมีบอดี้และระดับความขมที่ชัดแต่ยังได้ Fruity Note จากบลูเบอร์รี ส่วน ‘Bay Blend Brew’ ใช้กาแฟ Rum Barrel ให้อโรมาของรัม วานิลลา และคาราเมล ปิดท้ายที่ ‘Broken’ เอาใจคนชอบคั่วเข้ม ให้คาแรกเตอร์ความนัตตี้ ช็อกโกแลต และคาราเมล ซึ่งนอกจากนี้ก็ยังมีเมล็ดพวกซิงเกิลออริจินให้เลือกอีกมากเหมือนกันนะ

ส่วนใครที่เป็นสายกาแฟนม บอยบอกว่าทุกเบลนด์สามารถชงกับนมได้ไม่ต้องกลัวว่าคั่วอ่อนแล้วจะไม่เข้ากัน เพราะแต่ละตัวถูกคิดมาแล้วว่าต้องชงได้ทั้งสองแบบ ว่าแล้วบอยก็ทำลาเต้ร้อนให้เราลองด้วยเมล็ด ‘Better Than’

นอกจากกาแฟเมนูมาตรฐานแล้ว ที่นี่ยังมีทำม็อกเทลแบบมีกาแฟด้วยอย่าง Coff Mimosa (280 บาท) แก้วนี้สดชื่นด้วยน้ำส้ม น้ำเชื่อมดอกเอลเดอร์ ผสมกับช็อตเอสเพรสโซ และเสิร์ฟมากับโทนิกให้เลือกเติมตามชอบ หรือจะดูเป็นม็อกเทลที่ไม่ใส่กาแฟก็ได้เช่นกันอย่างแก้ว Bay (200 บาท) หอมหวานด้วยส่วนผสมของส้มยูซุและน้ำแอปเปิลอาโอโมริ ก่อนเสิร์ฟมากับผลไม้สดหลากหลาย

กินกาแฟแล้วอย่าลืมสั่งเค้กมาคู่กันด้วย วันที่เราไปเจอกับเมนูอย่าง New York Cheese Tart (160 บาท), Salted Caramel Chocolate Tart (160 บาท) และ เค้กแครอต (160 บาท)

นอกจากนี้บางวันเรายังเห็นทางร้านมีดีเจเปิดเพลงในช่วงสุดสัปดาห์ ซึ่งเราว่าเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ Bay.aree แห่งนี้มีคาแรกเตอร์แตกต่างจากที่อื่น เหมาะสำหรับใช้เวลาในบ่ายวันเสาร์หรืออาทิตย์ ที่อาจจะเริ่มด้วยกาแฟ แล้วต่อด้วยม็อกเทลสักแก้ว ก็ฟังดูเป็นไอเดียวันหยุดที่ไม่เลวเลย

ร้านกาแฟในแบบของบอยนอกจากกาแฟต้องดีแล้วจำเป็นต้องมีบรรยากาศ เขาทิ้งท้ายกับเราว่า “เราอยากมีที่ที่หนึ่ง เป็นที่ที่ทำให้เรารู้สึก Belong แบบเดินเข้ามาในร้านแล้วไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจ มาแบบเฮฮา เพื่อนแวะมาก็มานั่งคุยได้ เพราะกาแฟมันก็คือบทสนทนา”