บาร์เซโลนากำลังเผชิญวิกฤตซ้อนวิกฤต เมื่อมีรายงานข่าวจากหลายสำนักในสเปนระบุตรงกันว่า ถึงแม้จะมีการเปลี่ยนโค้ชใหม่จาก กีเก้ เซเตียน เป็น โรนัลด์ คูมัน ซึ่งเป็น ‘คนใน’ ของสโมสรเอง และตะเพิด เอริก อบิดัล ผู้อำนวยการสโมสรที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับ ลิโอเนล เมสซี

แต่ตามรายงานข่าวแล้ว ราชาลูกหนังชาวอาร์เจนไตน์ได้แจ้งทางคูมันว่ามีโอกาสที่เขาจะไปมากกว่าจะอยู่ ในวงเล็บว่าถึงจะรู้ว่าการย้ายออกจากคัมป์นูของตัวเองนั้นไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นได้ง่ายก็ตาม จากเงื่อนไขในการปลดสัญญาที่มีราคาถึง 700 ล้านยูโร

แม้กระทั่ง บิคตอร์ ฟอนต์ หนึ่งในตัวเต็งผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานสโมสรในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในเดือนมีนาคมปีหน้าเองก็ยอมรับว่า เวลานี้บาร์ซามีสิทธิ์จะเสียนักฟุตบอลอันดับหนึ่งของยุคสมัย และเป็นไปได้ที่จะเป็นนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลของสโมสรเข้าจริงๆ

เพราะคราวนี้เมสซีดูเหมือนจะไม่ใช่แค่ขู่ แต่ใจของเขาไม่เอาอะไรแล้วกับบาร์ซา

เรื่องนี้จึงเป็นความท้าทายที่สุดสำหรับทีม Blaugrana ว่าจะทำอย่างไรเพื่อเมสซีได้บ้าง ไม่ใช่จะมาคาดหวังอีกแล้วว่าเมสซีจะทำอะไรให้กับทีมได้บ้าง แม้ว่ามันจะดูเป็นเรื่องที่ผิดหลักการของสโมสรที่ยิ่งใหญ่ ที่ไม่ควรจะมีนักฟุตบอลคนไหนที่ยิ่งใหญ่กว่าทีมก็ตาม

ทางเลือกของเมสซี

สำหรับเมสซี ถ้าเขาจะไปจริงๆ ชีวิตหลังบาร์ซาจะมีหน้าตาอย่างไร?

ด้วยสถานะและด้วยข้อจำกัดทางการเงินแล้ว ถึงทุกทีมบนโลกจะอยากได้เมสซีไปร่วมทีม แต่ไม่ใช่ทุกทีมที่จะมีพลังอำนาจและแรงดึงดูดมากพอที่จะพาตัวเขาไปได้

เอาแค่เงื่อนไขในการปลดสัญญาก็มากถึง 700 ล้านยูโร ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่ ‘เป็นไปไม่ได้’ ที่จะหาสโมสรไหนจ่ายขนาดนี้กับนักเตะอายุ 33 ปีที่เหลือสัญญาอีกแค่ปีเดียว

อย่างไรก็ดี เราไม่สามารถประมาทสโมสรอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ หรือปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่มีอำนาจและอิสระทางการเงินอย่างไร้ขีดจำกัดได้

ที่สำคัญทั้งสองสโมสรต่างมีเหตุผลดีๆ ที่เป็นแรงดึงดูดให้สตาร์ชาวอาร์เจนไตน์ย้ายมาเล่นร่วมกันด้วย

กับแมนฯ ซิตี้ เขาจะได้ร่วมงานกับ เป๊ป กวาร์ดิโอลา นายใหญ่ที่เป็นคนปั้นให้เมสซีกลายเป็นสุดยอดนักเตะของโลก โดยเฉพาะการค้นพบครั้งสำคัญในการเปลี่ยนตำแหน่งจากปีกขวามาเล่น False 9 ซึ่งกลายเป็นปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของโลกฟุตบอล

แน่นอนว่ากับแมนฯ​ ซิตี้ เขาแทบจะการันตีความสำเร็จทุกปี อยู่ที่ว่าจะเป็นถ้วยเล็กหรือถ้วยใหญ่ โดยเฉพาะในถ้วยยุโรปที่เป็นความท้าทายที่เมสซีอาจต้องการ ไม่นับการได้เล่นในลีกที่ดีที่สุด และโหดที่สุดในโลกอีกแห่งอย่างพรีเมียร์ลีก

กับเปแอสเช ชื่อชั้นลีกอาจจะเป็นรองกว่า แต่เขาจะได้กลับมาเล่นร่วมกับเนย์มาร์ รุ่นน้องที่เมสซีรักที่สุด และพยายามอย่างสุดชีวิตเพื่อจะนำสตาร์ทีมชาติบราซิลกลับมาอีกครั้ง แต่ดวงชะตาก็ทำให้คลาดกันไปตลอด ซึ่งหากเขาเลือกไปเปแอสเชก็จะได้กลับมาเล่นร่วมกัน โดยยังมี คีเลียน เอ็มบัปเป ร่วมวงด้วย

และที่แน่ยิ่งกว่าแช่แป้ง คือการันตีแชมป์รายการภายในประเทศทุกปี

แล้วบาร์ซาจะทำอย่างไร?

ทางเลือกของบาร์ซา

สำหรับบาร์ซาถ้าเลือกได้พวกเขาจะพยายามทุกอย่างเพื่อจะรั้งเมสซีเอาไว้ให้ได้

อย่างน้อยคือการขัดขวางการย้ายทีมในครั้งนี้ และหวังว่าเมื่อมีการเลือกตั้งใหม่ หากมีการย้ายขั้วอำนาจจากฝั่งของ โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว มาเป็นฝั่งของ บิคตอร์ ฟอนต์ ทุกอย่างอาจจะดีขึ้น

โดยเฉพาะการมีโอกาสได้ ชาบี เอร์นานเดซ กลับมาทำทีมอีกครั้งหลังจบฤดูกาลหน้า ซึ่งอาจจะช่วยเปลี่ยนใจเมสซีได้บ้าง

ระหว่างนี้คือการฝากความหวังเอาไว้ที่คูมัน ว่าจะทำให้บาร์ซากลับมาเข้ารูปเข้ารอยได้อีกครั้งในระยะเวลาอันรวดเร็ว โดยนักเตะที่ได้รับการการันตีอนาคตอย่าง มาร์ค-อังเดร แทร์ สเตเกน, เนลสัน เซเมโด (เหลือเชื่อ!), แฟรงกี เดอ ยอง, เคลอมองต์ ลองเลต์, อุสมาน เดมเบเล, อองตวน กรีซมันน์ รวมถึงเมสซีเอง

และอาจจะรวมถึงคูตินโญที่อาจได้โอกาสกลับมาแจ้งเกิดภายใต้การคุมทีมของคูมันด้วยความจำเป็น

แต่ในความเป็นจริงแล้วจะค่อนข้างชัดว่าสิ่งที่กุนซือทีมชาติเนเธอร์แลนด์ต้องทำคือ การผ่าตัดใหญ่ที่อาจต้องใช้เวลาหลายปีกว่าที่บาร์ซาจะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง 

เอาแค่การถ่ายเลือดจากนักเตะตัวเก๋าอย่าง เคราร์ด ปิเก้ (สัญญาถึง 2022), เซร์คิโอ บุสเกตส์ (2023), หลุยส์ ซัวเรซ (2021 มีออปชันอีกปี), ฆอร์ดี อัลบา (2024), ซามูแอล อุมติตี (2023), อิวาน ราคิติช (2021) และ อาร์ตูโร วิดัล (2021) ก็ลำบากแล้ว

เรื่องตลกคือการที่คูมันเองเซ็นสัญญาแค่ 2 ปีเท่านั้น เพราะเขารู้ดีว่าเป็นไปได้สูงที่เขาจะได้ทำงานแค่ปีเดียว

แต่หากพยายามแล้วไม่สำเร็จ สิ่งที่บาร์ซาต้องทบทวนให้หนักคือพวกเขาจะเก็บเมสซีไว้ใช้ประคองสโมสรก่อนแล้วค่อยให้ย้ายฟรีในปีหน้า 

หรือจะขายทิ้งออกไปตอนนี้เพื่อนำเงินมาใช้ในการจุนเจือสโมสรที่กำลังลำบากในเวลานี้? เพราะต่อให้จะไม่ได้ค่าตัวในระดับสถิติใหม่ตลอดกาล แต่กับสัญญาที่เหลืออีก 10 เดือนน่าจะทำให้บาร์ซาได้เงินก้อนกลับมาไม่มากก็น้อย

ที่สำคัญคือการปลดภาระเงินค่าเหนื่อยที่ต้องจ่ายให้เมสซีที่เยอะติดอันดับโลกอีกด้วย

นั่นก็เป็นอีกทางเลือกที่ โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว ประธานสโมสรคิด แต่ไม่ได้พูดออกมา

สิ่งที่คูมันต้องทำ

ถึงจะเคยเป็นอดีตแกนหลักของทีมในยุค ‘ดรีมทีม’ ภายใต้การนำของ โยฮัน ครอยฟ์ บิดาแห่งบาร์เซโลนายุคใหม่ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าทีมของโรนัลด์ คูมัน จะเล่นในแบบนั้น

สไตล์ของคูมันคือการปรับทีมเข้าหาผู้เล่นที่มีในมือ ซึ่งขัดต่อหลักการใหญ่ของบาร์ซาที่มี DNA ของสโมสรที่ชัดเจนภายใต้ฟุตบอลแบบครอยฟ์ ซึ่งหากใครออกนอกกรอบนั่นหมายถึงความล้มเหลวทันที

อย่างไรก็ดี มองอีกด้านแนวทางของคูมันก็อาจเป็นทางออกที่ดีสำหรับบาร์ซาในสถานการณ์นี้ อย่างน้อยทีมจะถูกสร้างโดยมีเมสซีเป็นศูนย์กลางแบบเต็มร้อย และนั่นหมายถึงอย่างน้อยสตาร์ชาวอาร์เจนไตน์จะได้เล่นตามใจตัวเอง

ความท้าทายอยู่ที่การจะผสมผสานระหว่างตัวเก๋าที่เหลือ กับนักเตะรุ่นใหม่ที่เต็มไปด้วยพลังได้อย่างไร เพื่อจะช่วยปลดปล่อยศักยภาพในตัวของเมสซีให้ได้มากที่สุด

หนึ่งในนักเตะที่คาดว่าจะได้ฉายแสงคือเดอ ยอง ที่ถูกระบบของเซเตียนกดทับ และปรับตัวไม่ทันเพราะขัดกับธรรมชาติของตัวเอง 

แต่ความท้าทายนั้นจะเพิ่มขึ้นนับเท่าพันทวีทันที หากมีสักทีมที่สามารถโน้มน้าวใจ (และมีเงินมากพอ) ให้เมสซีตัดสินใจทิ้งชีวิตทั้งชีวิตที่บาร์ซาได้

เรื่องที่ทุกคนบนโลกเคยคิดว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ กำลังเป็นเรื่องที่จะเป็นบทพิสูจน์ว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นบนโลกใบนี้

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์