Barçagate คืออะไร? ตอบคำถามสำคัญในคดีอื้อฉาวของสโมสรบาร์เซโลนา

ย้อนกลับไปเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เกิดข่าวใหญ่ในวงการฟุตบอลขึ้น เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วย Mossos ได้บุกเข้าจับกุมตัวเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนาถึงที่ทำการของสโมสร พร้อมกับตรวจค้นเอกสารและหลักฐานต่างๆ

โดยที่ในเวลาเดียวกัน อีกสายหนึ่งเจ้าหน้าที่ได้บุกรวบตัวของ โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว อดีตประธานสโมสรถึงบ้านพัก

นั่นเท่ากับทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวบาร์โตเมวและพวกอีก 3 คน ได้แก่ ออสการ์ เกรา ซีอีโอของสโมสร, โรมัน โกเมซ ปอนติ หัวหน้าฝ่ายกฎหมาย และ เชาเม มาสเฟร์เรร์ ซึ่งเป็นมือขวาของอดีตประธานสโมสร ได้เป็นที่เรียบร้อย และทั้งหมดถูกนำตัวไปสอบสวนจากความผิดที่กระทำขึ้นเมื่อปีที่แล้ว

ความผิดในเรื่องอื้อฉาวที่ถูกขนานนามว่า ‘Barçagate’

ที่มาของเรื่องเป็นอย่างไร? ใครที่ได้รับผลกระทบบ้าง และจะมีผลต่อการเลือกตั้งตำแหน่งประธานสโมสรที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้าหรือไม่ และสิ่งที่แฟนบอลอยากรู้ที่สุดคือจะส่งผลต่อการตัดสินใจของ ลิโอเนล เมสซี ว่าจะอยู่หรือไปจากสโมสรหรือไม่?

มาร่วมหาคำตอบไปพร้อมกัน

สาเหตุของการจับกุม

ตามรายงานข่าวจากสถานีวิทยุ Cadena SER แห่งแคว้นกาตาลุญญา เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปฏิบัติการจับกุมตัวบาร์โตเมวและพวกเมื่อเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา

โดยล่าสุดบาร์โตเมวเพิ่งได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว

สำหรับความผิดของทั้ง 4 คน เกิดจากเรื่องของการว่าจ้างบริษัทสื่อออนไลน์ที่ชื่อว่า I3 Ventures ให้โพสต์โจมตีกับ ‘กลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับวิสัยทัศน์ของเขาที่มีต่อสโมสร’ ซึ่งในกลุ่มที่ว่านั้นมีชื่อของ ลิโอเนล เมสซี และภรรยา อันโตเนลา, เคราร์ด ปิเก รวมถึงอดีตนักฟุตบอลระดับตำนานของสโมสรอย่าง การ์เลส ปูโยล, ชาบี เอร์นานเดซ รวมถึงคู่แข่งตำแหน่งประธานสโมสรอย่าง บิกตอร์ ฟอนต์ และ โจน ลาปอร์ตา

งานของ I3 Ventures คือหาทางโจมตีกลุ่มคนเหล่านี้ให้ภาพลักษณ์เสียหาย ยกตัวอย่างเช่น กรณีของเมสซีที่มีรายงานข่าวว่าชะลอการเจรจาเรื่องสัญญาฉบับใหม่กับสโมสร ทั้งๆ ที่ไม่เป็นความจริง

ในเรื่องนี้มีการเปรียบเทียบว่าคล้ายกับกรณีคดี Cambridge Analytica ที่มีส่วนช่วยให้ โดนัลด์ ทรัมป์ พลิกสถานการณ์ในการเลือกตั้งตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2016

แต่ทางด้านบาร์เซโลนายืนกรานว่า พวกเขาไม่ได้ ‘กระทำผิด’ ร่วมกับ I3 Ventures ซึ่งได้รับมอบหมายหน้าที่ในการ ‘สร้างความเห็น’ ผ่านบัญชีโซเชียลมีเดีย

อย่างไรก็ดี ตามรายงานข่าวแล้วมีจุดที่น่าสงสัยอีกอย่างและอาจเป็นการทุจริตคือ การที่บาร์ซาว่าจ้าง I3 Ventures ด้วยมูลค่าสูงกว่าราคาตลาดทั่วไปถึง 6 เท่า โดยตามการเปิดเผยของ AS สำนักข่าวกีฬาสเปน มีการจ้างด้วยงบ 980,000 ยูโร ทั้งๆ ที่ปกติแล้วควรจะอยู่ที่ 120,000-150,000 ยูโร

โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว อดีตประธานสโมสรผู้อื้อฉาว

จุดเริ่มต้นของ Barçagate

จุดเริ่มต้นของการสอบสวนเรื่องนี้มาจากรายการวิทยุที่ชื่อว่า ‘Què t’hi Jugues!’ ทางสถานี Cadena SER ซึ่งออกอากาศเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2020 โดยในรายการมีการเปิดเผยว่า มีข้อมูลเกี่ยวกับการว่าจ้างบริษัทนอกของบาร์เซโลนาในการปฏิบัติการโจมศัตรูของบาร์โตเมวและฝ่ายบริหาร (และในทางกลับกันก็ปกป้องฝ่ายบริหารด้วย)

โดยในรายการเปิดเผยว่ามี 6 บัญชีบน Facebook ที่ถูก I3 Ventures สร้างขึ้น ได้แก่ Més que un club (66,000 ผู้ติดตาม), Respeto y Deporte (56,000), Alter Sports (27,000), Sport Leaks (21,000), Justicia y Diálogo en el Deporte (8,500) and Jaume, un film de terror (5,000)

พูดให้เห็นภาพง่ายๆ คือเป็นงาน IO ฉบับสเปน

โดย Cadena SER สามารถเข้าถึงเอกสารความยาว 36 หน้า ซึ่งมีข้อมูลต่างๆ มากมาย แม้กระทั่งข้อมูลของผลกระทบต่างๆ ที่จะมีแต่แอดมินของเพจที่เข้าถึงได้

หลังจากนั้นไม่กี่วันทางด้านบาร์โตเมวได้ยกเลิกสัญญาที่ทำไว้กับ I3 Ventures ทันที และชี้แจงว่าสัญญานี้ทำไว้ตั้งแต่ปี 2017 และไม่ได้มีเจตนาเพื่อโจมตีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใด

อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้หยุดการสอบสวนแค่นั้น ได้สอบสวนต่อเพื่อตรวจสอบว่ามีการกระทำผิดหรือไม่ ก่อนจะนำไปสู่การจับกุมเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

ทำไมต้องจับกุมในเวลานี้?

การจับกุมมีขึ้นเพียงไม่กี่วันก่อนหน้าที่ โซซิโอ หรือสมาชิกของสโมสรบาร์เซโลนา สโมสรที่ใช้ระบบสมาชิกในการโหวตเลือกตั้งตำแหน่งประธานสโมสร จะลงคะแนนเพื่อเลือกประธานสโมสรคนใหม่ ซึ่งจะเป็นการเลือกตั้งครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์

เพราะภารกิจที่รออยู่ข้างหน้านั้นยิ่งใหญ่ ทั้งการนำพาสโมสรให้ผ่านพ้นวิกฤตหนี้สินมหาศาล และการตัดสินใจเกี่ยวกับ ลิโอเนล เมสซี นักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลของสโมสร ว่าจะปล่อยให้ไปเมื่อหมดสัญญา หรือจะพยายามรั้งไว้แต่ต้องแลกกับการจ่ายค่าเหนื่อยมหาศาล

ด้วยปัญหาที่เผชิญหน้าอยู่ ทำให้มีการคาดกันถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดการจับกุมตัวครั้งนี้มาจากการที่สโมสรบาร์เซโลนาเองต้องการที่จะ ‘ชำระล้าง’ สโมสรให้สะอาด เรียบร้อย ไร้มลทินใดๆ ก่อนที่จะเจรจากับธนาคารในการขอกู้เงินเพื่อนำมาใช้ฝ่าวิกฤตในอนาคตอันใกล้

ดังนั้นเรื่องอื้อฉาวทั้งหลายจึงต้องได้รับการจัดการ และ Barçagate เป็นหนึ่งในเรื่องเลวร้ายที่สุดที่บาร์โตเมวกระทำไว้ในฐานะอดีตประธานสโมสร

คำชี้แจงจากบาร์เซโลนา

จากปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทางบาร์เซโลนาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจาก ‘ยินดีให้ความร่วมมือ’ ในการสอบสวนคดีนี้ โดยพร้อมที่จะให้ตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ ตามที่ได้รับการร้องขอ

อย่างไรก็ดี ทางด้านสโมสรยืนยันว่า ไม่ได้มีเจตนาในการกระทำผิด และก่อนหน้านี้เคยว่าจ้างบริษัทตรวจสอบระดับโลกอย่าง PWC ในการตรวจสอบความสัมพันธ์ของสโมสรกับ I3 Ventures และไม่พบการกระทำผิดใดๆ

Barçagate กับอนาคตของเมสซี?

เรื่องวุ่นวายและกลิ่นเน่าเหม็นที่เกิดขึ้นภายในสโมสรส่งผลกระทบต่อความหวังของบาร์เซโลนาในการรั้งตัวนักฟุตบอลที่ดีที่สุดตลอดกาลของสโมสรเอาไว้

เพียงแต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะเป็นปัจจัยชี้ขาด

เดิมเมสซีประกาศชัดว่า เขาต้องการจะไปจากสโมสร เนื่องจากไม่มีความสุขกับบาร์ซาอีก และคิดว่าถึงเวลาที่ควรจะไป โดยเหตุผลลึกๆ มาจากการแตกหักไม่ลงรอยกับกลุ่มผู้บริหารของสโมสรชุดเดิมตั้งแต่บาร์โตเมวมาจนถึง เอริก อบิดัล อดีตเพื่อนร่วมทีมที่เคยเป็นผู้อำนวยการสโมสร และมีปัญหากันอยู่พักใหญ่

ผู้บริหารชุดเดิมได้ยอมลาออกจากตำแหน่งไปเรียบร้อยตั้งแต่เดือนตุลาคม แต่ก็ยังทิ้งปัญหาระดับกาแล็กซีเอาไว้ให้คือ หนี้สินมหาศาลจากการบริหารงานที่เลวร้าย และทำให้เมสซีถูกปล่อยเอกสารลับสุดยอดเรื่องสัญญาส่วนตัวที่ได้รับค่าตอบแทนมหาศาลกว่า 555 ล้านยูโร

ค่าตอบแทนมหาศาลดังกล่าวคืออุปสรรคสำคัญสำหรับทางบาร์เซโลนา เพราะมีการเตือนว่า หากคิดจะรั้งเมสซีไว้ก็อาจทำให้สโมสรถึงคราวล่มจมได้จริงๆ เพียงแต่ตัวเต็งในการชิงตำแหน่งประธานสโมสรอย่าง โจน ลาปอร์ตา และ บิกตอร์ ฟอนต์ ประกาศจุดยืนก่อนหน้านี้ว่า ต้องการที่จะเก็บคนที่เป็นสัญลักษณ์ของสโมสรเอาไว้ให้ได้

ขณะที่เมสซียังไม่ประกาศการตัดสินใจใดๆ ในเวลานี้ โดยคาดว่าจะรอดูท่าทีก่อนประกาศการตัดสินใจว่าจะเอาอย่างไรดีในอนาคต เพราะความหวังในการจะย้ายไปเล่นกับ เนย์มาร์ ที่ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ก็ชักไม่แน่ไม่นอนเหมือนกัน

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับวิกฤตของสโมสรบาร์เซโลนา

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

อ้างอิง: