“รู้สึกตกใจตอนที่ทราบข่าว จากนั้นกลายเป็นถอนหายใจเพราะเรามีเวลาเตรียมตัวน้อยมาก ส่วนตัวมองว่าการที่ภาครัฐออกคำสั่งแบบนี้ออกมาช่วงกลางดึกวันเสาร์ดูจะใจร้ายไปหน่อย เพราะเท่ากับให้เวลาเราเตรียมตัวกันแค่วันเดียว” บุ๋ม-บุณย์ญานุช บุญบำรุงทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านการสร้างโอกาสทางการตลาด กลุ่มธุรกิจอาหาร บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด เจ้าของแบรนด์ บาร์บีคิวพลาซ่า กล่าวกับ THE STANDARD WEALTH เมื่อถูกถามถึงความรู้สึกและแผนการรับมือ หลังคำสั่งห้ามนั่งกินอาหารในร้านตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน ถูกนำกลับมาประกาศใช้อีกครั้งในช่วงกลางดึกที่ผ่านมา
บุณย์ญานุช เปิดเผยว่า เธอได้เรียกประชุมทีมงานด่วนในช่วงเช้าที่ผ่านมาเพื่อวางแผนรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเบื้องต้นได้ข้อสรุปว่าจะแบ่งทีมงานออกเป็นสองทีม คือ ทีมที่ดูแลด้าน Operation จะทำหน้าที่อุดหรือป้องกันความเสียหาย เช่น การเรียกคืนวัตถุดิบบางส่วนจากสาขากลับมาเก็บรักษาไว้ที่ส่วนกลาง เพราะแน่นอนว่าเมื่อลูกค้าไม่สามารถนั่งกินที่ร้านได้ยอดขายจะลดลง
ขณะเดียวกัน ฝ่ายอุดนี้จะดูแลบริหารจัดการสัดส่วนพนักงานให้เหมาะสมกับปริมาณ และจะเป็นฝ่ายที่ไปต่อรองขอลดค่าเช่าจากเจ้าของพื้นที่ของสาขาต่างๆ ด้วย
“จริงๆ เรากำลังอยู่ระหว่างทำแคมเปญใหญ่พอดี มีการเรียกพนักงานเข้ามาพอสมควรทั้งแบบ Full-time และ Part-time บางคนมาจากต่างจังหวัด พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นพวกเขาก็เท้งเต้งเลย เราคงต้องเข้าไปช่วยดูว่าจะจัดสรรงานให้เขาได้อย่างไร หรือช่วยหาที่พักให้ก่อน” บุณย์ญานุชกล่าว
สำหรับทีมงานอีกทีมซึ่งบุณย์ญานุชเรียกว่าฝ่ายลุยนั้นจะทำหน้าที่ดูแลด้านการตลาดเป็นหลัก โดยทีมนี้จะเข้าไปช่วยสาขาปรับบริการให้เน้นการขายแบบเดลิเวอรีมากขึ้น ขยายโครงการยืมคืนกระทะ ดูความเป็นไปได้ในการขยายสเกลฟู้ดทรัก คุยกับพาร์ตเนอร์ในส่วนที่เป็น Non-restaurant ว่าจะร่วมมือกันทำอะไรได้บ้าง
บุณย์ญานุชกล่าวว่า หนึ่งในโครงการที่บาร์บีคิวพลาซ่าจะเดินหน้าต่อคือตลาดนัดพี่ก้อน ซึ่งเป็นการชวนธุรกิจเอสเอ็มอีมาไลฟ์ขายของด้วยกันครั้งละ 5 แบรนด์ทุกวันศุกร์
“เวลานี้ Mindset ของคนทำธุรกิจร้านอาหารต้องลืมไปเลยว่าตัวเองมีสาขา มันมาถึงจุดนี้แล้ว เราต้องดิ้นรนทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองรอด เพราะไม่รู้ว่าจะต้องเผชิญกับภาวะเปิดๆ ปิดๆ แบบนี้อีกกี่ครั้ง ขนาดเราเป็นรายใหญ่เรายังรู้สึกหนักและเหนื่อย พอมองไปที่เพื่อนๆ ที่เล็กกว่า มีสายป่านสั้นกว่าเขาคงแย่กว่าเรา เราก็อยากให้กำลังใจพวกเขาและช่วยเท่าที่ช่วยได้” บุณย์ญานุชกล่าว
เมื่อถามถึงสิ่งที่อยากฝากไปยังภาครัฐ บุณย์ญานุชระบุว่า สิ่งเดียวที่อยากฝากคือเรื่องวัคซีน เพราะวัคซีนจะเป็นคำตอบสุดท้ายของทุกอย่าง โดยอยากให้ภายใน 30 วันนี้ภาครัฐเร่งกระจายวัคซีนให้ได้มากและหลากหลายที่สุด แล้วถ้าเป็นไปได้อยากให้จัดลำดับความสำคัญของการกระจายวัคซีนไปยังภาคธุรกิจด้วย เช่น ธุรกิจในภาคบริการที่ต้องสัมผัสกับคนควรจะได้รับวัคซีนก่อน หรือในพื้นที่ทางเศรษฐกิจ เช่น เมืองหลวงและจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญก็ควรจะได้รับการจัดสรรวัคซีนก่อนเช่นกัน
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์