เกิดอะไรขึ้น:
InnovestX Research จัดทำบทวิเคราะห์พรีวิวผลประกอบการใน 1Q68 ของกลุ่มธนาคาร โดยคาดว่ากำไรของกลุ่มธนาคารจะเพิ่มขึ้น 8% QoQ (opex ลดลงตามฤดูกาล) แต่จะอยู่ในระดับทรงตัว YoY (NIM ที่หดตัวลงจะถูกชดเชยโดย ECL ที่ลดลง) ทั้งนี้เมื่อเทียบ QoQ คาดว่าธนาคารต่างๆ จะมี credit cost ในระดับทรงตัว โดย NPL จะอยู่ในระดับทรงตัว NIM จะหดตัวลงจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ย สินเชื่อจะหดตัวลง non-NII จะอ่อนแอลง และ opex จะลดลงตามฤดูกาล ทั้งนี้ คาดว่า BBL จะเป็นธนาคารที่รายงานกำไรเติบโตแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มธนาคารที่ 14% YoY และ 16% QoQ
คุณภาพสินทรัพย์ทรงตัว แต่ความเสี่ยงสูงขึ้น โดยคาดว่าคุณภาพสินทรัพย์โดยรวมจะอยู่ในระดับทรงตัวใน 1Q68 และคาดว่า credit cost จะอยู่ในระดับที่ค่อนข้างทรงตัว QoQ แต่จะลดลง YoY (จากการตั้งสำรอง management overlay น้อยลง) ซึ่งคาดว่า credit cost ของกลุ่มธนาคารจะลดลง 17 bps ในปี 2568 อันเป็นผลมาจากการตั้งสำรอง management overlay น้อยลง อย่างไรก็ดี เล็งเห็นความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ที่สูงขึ้นจากสงครามการค้าและเหตุแผ่นดินไหว
ใน 1Q68 NIM ของกลุ่มธนาคารจะลดลง 4 bps QoQ (เทียบกับ ลดลง 6 bps QoQ ใน 4Q67) ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้หลังจากที่มีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายลดลง 25 bps ในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ธนาคารต่างๆ ก็ปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลดลง 10-25 bps (5-25 bps สำหรับ BBL) แต่ยังคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากไว้ไม่เปลี่ยนแปลง หลังจากที่มีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายลดลง 25 bps ในเดือนตุลาคม 2567 ธนาคารส่วนใหญ่ปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลดลง 12.5-25 bps (5-20 bps สำหรับ BBL) ขณะที่ปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ลดลง 5 bps (20 bps สำหรับ BBL) และปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำลดลง 10-35 bps (15-30 bps สำหรับ BBL)
ทั้งนี้ คาดว่า NIM ของกลุ่มธนาคารจะลดลง 15 bps ในปี 2568 โดยใช้สมมติฐานว่าจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายลดลง 50 bps และปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำลดลง 25 bps
ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2568 สินเชื่อของกลุ่มธนาคารหดตัวลง 0.9% QTD และ 1.4% YoY มีเพียง BBL และ SCB ที่พบสินเชื่อเติบโต YTD อย่างมีนัยสำคัญ โดยคาดว่าสินเชื่อจะลดลง 1% QoQ ใน 1Q68 และคาดว่าสินเชื่อจะเติบโต 1% ในปี 2568
ด้าน Non-NII ใน 1Q68 จะลดลง QoQ และ YoY โดยมีทิศทางที่แตกต่างกันในแต่ละธนาคารขึ้นอยู่กับกำไรจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน (FVTPL) ซึ่งคาดว่ารายได้ค่าธรรมเนียมจะอยู่ในระดับทรงตัว YoY และลดลงเล็กน้อย QoQ ตามฤดูกาล ขณะที่อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ ใน 1Q68 คาดว่าธนาคารส่วนใหญ่จะเห็นอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ลดลง QoQ ตามฤดูกาล และจะอยู่ในระดับทรงตัว YoY
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้นกลุ่มธนาคาร (SET BANK) ปรับขึ้น 2.80% ราคาหุ้น BBL ปรับลง 2.6% ขณะที่ SET Index ปรับลง 4.0% สู่ 1,155.05 จุด
แนวโน้มผลประกอบการปี 2568:
สำหรับปี InnovestX Research คาดว่ากำไรของกลุ่มธนาคารจะอยู่ในระดับที่ค่อนข้างทรงตัว โดยเกิดจากสินเชื่อที่เติบโต 1% NIM ที่หดตัวลง 15 bps credit cost ที่ลดลง 17 bps และ non-NII ที่เติบโตเล็กน้อย โดย BBL จะเป็นธนาคารที่รายงานกำไรเติบโตแข็งแกร่งที่สุด
กลยุทธ์การลงทุนและคำแนะนำ ยังคงเลือก BBL เป็นหุ้นเด่นของกลุ่มธนาคาร เนื่องจาก: valuation ถูกที่สุด, ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ต่ำที่สุด และ สินเชื่อมีแนวโน้มเติบโตสูงที่สุด
ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตาม คือ ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ไม่ทั่วถึง, ความเสี่ยงด้าน NIM จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก และ ความเสี่ยงด้าน ESG จากการให้บริการแก่ลูกค้าอย่างเป็นธรรม
หุ้นกลุ่มธนาคาร – พรีวิว 1Q68 คาดกำไรเพิ่มขึ้น QoQ, ทรงตัว YoY