×
SCB Omnibus Fund 2024

หุ้นกลุ่มธนาคาร-การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จะสร้าง Upside เล็กน้อยต่อประมาณการ NIM และประมาณการกำไรปี 2565

30.09.2022
  • LOADING...
หุ้นกลุ่มธนาคาร

เกิดอะไรขึ้น:

เมื่อวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา BBL เป็นธนาคารพาณิชย์แห่งแรกที่ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก 0.5% สู่ 0.75% เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2565 และ 1% เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2565 ซึ่งคาดว่าธนาคารอื่นๆ จะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นตาม BBL 

 

ทั้งนี้ BBL ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยมีผลทันทีดังนี้

 

อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก: ออมทรัพย์ ปรับขึ้น 0.20% เป็น 0.45%, 3 เดือน ปรับขึ้น 0.175% เป็น 0.55%, 6 เดือน ปรับขึ้น 0.15% เป็น 0.65%, 12 เดือน ปรับขึ้น 0.30% เป็น 0.80% และ 24 เดือน ปรับขึ้น 0.50% เป็น 1.0%

 

อัตราดอกเบี้ยเงินกู้: MOR ปรับขึ้น 0.375% เป็น 6.250%, MLR ปรับขึ้น 0.40% เป็น 5.65% และ MRR ปรับขึ้น 0.30% เป็น 6.25%

 

กระทบอย่างไร: 

เมื่อวันที่ 28 กันยายน ราคาหุ้นกลุ่มธนาคาร (SETBANK) ปรับลดลง 0.44%DoD ดีกว่า SET Index ที่ปรับลดลง 0.70%DoD 

 

แนวโน้มผลประกอบการในปี 2565:

การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้ดีกว่าที่ InnovestX Research คาดการณ์ไว้ เนื่องจากส่วนต่างระหว่างการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้น้อยกว่าคาด ทั้งนี้ ใช้สมมติฐานการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังนี้

 

  • อัตราดอกเบี้ยนโยบาย สำหรับปี 2565 ที่ 0.50% และปี 2566 ที่ 1.0%
  • อัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ สำหรับปี 2565 ที่ 0.25% และปี 2566 ไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
  • อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ สำหรับปี 2565 ที่ 0.50% และปี 2566 ที่ 1.0%
  • อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ สำหรับปี 2565 ที่ 0.25% และปี 2566 ที่ 0.50%
  • ซึ่งจะส่งผลทำให้ประมาณการ NIM ปรับเพิ่มขึ้น 2-3 bps และประมาณการกำไรปรับเพิ่มขึ้น 1-4% ในปี 2565 สำหรับปี 2566 ประมาณการ NIM จะปรับเพิ่มขึ้น 12-17 bps และประมาณการกำไรจะปรับเพิ่มขึ้น 6-17%

 

และเมื่ออิงกับข้อมูลทางการเงิน 2Q65 จากการวิเคราะห์ความอ่อนไหวของ NIM ต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย บ่งชี้ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลดีต่อ NIM ของธนาคารขนาดใหญ่ (BBL, KBANK, KTB และ SCB ตามลำดับ) มากที่สุด ในขณะที่จะส่งผลกระทบต่อ NIM ของ TISCO และ TTB

 

โดยจะทำให้ NIM เพิ่มขึ้น 2-3 bps ในปี 2565 และ 23-25 bps ในปี 2566 ในขณะที่ NIM ของ TISCO และ TTB จะได้รับผลกระทบราว 1-2 bps ในปี 2565 และ 6-10 bps ในปี 2566 

 

นอกจากนี้ คาดว่าประโยชน์จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะมากพอชดเชยการปรับอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนฟื้นฟูฯ เพิ่มขึ้น 23 bps (สู่ระดับปกติ) ในปี 2566 สำหรับธนาคารขนาดใหญ่ ซึ่งจะส่งผลทำให้ NIM อยู่ในระดับที่ค่อนข้างทรงตัวในปี 2566 ในขณะที่คาดว่าธนาคารขนาดเล็กจะมี NIM หดตัวลงในปี 2566

 

สำหรับหุ้นเด่นของกลุ่มธนาคาร InnovestX Research เลือก KTB, BBL และ KBANK เพราะมีแนวโน้มที่จะได้รับประโยชน์มากที่สุดจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และ Valuation น่าสนใจ


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising