×

ธปท. เผยดัชนีเชื่อมั่นธุรกิจเดือนกรกฎาคม ‘ทรุด’ หลายบริษัทเริ่มลดเงินเดือน บางแห่งสภาพคล่องหด คาดคนเริ่มกลับมาท่องเที่ยวไตรมาสแรกปี 2565

05.08.2021
  • LOADING...
ธนาคารแห่งประเทศไทย

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจ (BSI) เฉพาะกิจ ระหว่างวันที่ 1-22 กรกฎาคม 2564 ในเดือนกรกฎาคม 2564 พบว่า ระดับการฟื้นตัวของธุรกิจในภาพรวมปรับลดลงจากเดือนก่อนในทุกภาคธุรกิจ ตามการชะลอตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของโควิดในประเทศเป็นวงกว้าง และผลของมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดที่กลับมาเข้มงวดอีกครั้ง โดยเฉพาะภาคก่อสร้างที่ได้รับผลกระทบทันทีหลังมีคำสั่งปิดแคมป์คนงาน

 

เช่นเดียวกับภาคการท่องเที่ยวและภาคการค้าที่ได้รับผลกระทบจากการจำกัดการเดินทาง การปรับเวลาให้บริการ และห้ามนั่งรับประทานในร้าน ขณะที่ภาคการผลิตยังคงถูกกดดันจากการติดเชื้อเป็นคลัสเตอร์ในโรงงาน มีปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ ปัญหาการนำเข้าผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ ตลอดจนการปิดโรงงานของคู่ค้าที่เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน

 

ระดับการฟื้นตัวของการจ้างงานค่อนข้างทรงตัวทั้งด้านจำนวนแรงงานและรายได้เฉลี่ย ยกเว้นการจ้างงานในภาคท่องเที่ยวลดลงตามการปิดกิจการชั่วคราว และภาคก่อสร้างที่ลดลงตามกิจกรรมที่หยุดชะงักหลังมีคำสั่งปิดแคมป์ ส่งผลให้แรงงานบางส่วนเคลื่อนย้ายกลับภูมิลำเนา 

 

โดยธุรกิจส่วนใหญ่มีการใช้นโยบายสลับกันทำงานและลดชั่วโมงทำงานเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ขณะที่ธุรกิจบางส่วนเริ่มกลับมาใช้นโยบายลดเงินเดือนเพิ่มเติม โดยเฉพาะภาคที่ไม่ใช่การผลิต

 

สำหรับในเรื่องสภาพคล่อง พบว่า ธุรกิจส่วนใหญ่มีสภาพคล่องใกล้เคียงกับเดือนก่อน แต่เริ่มเห็นบางธุรกิจมีสภาพคล่องลดลง โดยเฉพาะภาคท่องเที่ยวและภาคก่อสร้าง สะท้อนจากสัดส่วนของธุรกิจที่มีสภาพคล่องไม่เกิน 3 เดือนเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับการฟื้นตัวของธุรกิจที่ปรับแย่ลง

 

ประเด็นพิเศษ ภาคธุรกิจส่วนใหญ่ประเมินว่า ประชาชนจะเริ่มออกไปใช้ชีวิตนอกบ้านและท่องเที่ยวตามปกติได้เมื่อมีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่น้อยกว่า 50 รายต่อวัน และเกิดได้ในไตรมาส 1 ปี 2565 ขณะที่บางส่วนมองว่า การเร่งฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพเพียงพอและทั่วถึงเป็นปัจจัยสำคัญมากกว่า 

 

ส่วนทางด้านผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการค้าปลีก (RSI) เดือนกรกฎาคม 2564 และแนวโน้ม 3 เดือนข้างหน้า ปรับลดลงมากและต่ำกว่าเดือนเมษายน 2563 ที่มีการประกาศล็อกดาวน์ครั้งแรกจากการแพร่ระบาดที่รุนแรงขึ้นและมาตรการควบคุมโรคที่เข้มงวด ส่งผลกระทบโดยตรงต่อรายได้ของผู้ประกอบการค้าปลีก ขณะที่แผนการกระจายวัคซีนที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมายและประสิทธิภาพของวัคซีนซ้ำเติมความเปราะบางของความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ

 

โดยความเชื่อมั่นทุกประเภทร้านค้าในภาวะปัจจุบันปรับลดลงมากจากเดือนก่อน โดยเฉพาะห้างสรรพสินค้าและร้านอาหารที่ถูกกระทบโดยตรงจากมาตรการควบคุมการระบาดที่เข้มงวด 

 

ส่วนกำลังซื้อผู้บริโภคนั้น จากสถานการณ์การระบาดที่รุนแรง ผู้ประกอบการ 90% ประเมินว่า กำลังซื้อจะปรับลดลงมากจากเดือนก่อน และไม่เห็นพฤติกรรมเร่งกักตุนแม้จะมีคำสั่งปิดห้าง ขณะเดียวกันประเมินว่า แนวโน้มการฟื้นตัวสู่ระดับปกติเลื่อนออกไปเป็นปี 2566 ล่าช้ากว่าที่เคยประเมินไว้อีก 1 ปี 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising