วันนี้ (18 มิถุนายน) ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศโครงการพัฒนาระบบต้นแบบการชำระเงินโดยใช้สกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) ร่วมกับภาคธุรกิจเอกชนเป็นครั้งแรกในระบบซัพพลายเชนของ SCC โดยมี บริษัท ดิจิทัล เวนเจอร์ส ในเครือ SCB เป็นผู้พัฒนาระบบดังกล่าวร่วมทดสอบ เริ่มเดือนกรกฎาคมนี้ คาดทดสอบแล้วเสร็จภายในปี 2563
ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศโครงการพัฒนาระบบต้นแบบการชำระเงินโดยใช้สกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (Central Bank Digital Currency: CBDC) ร่วมกับภาคธุรกิจเอกชน ซึ่งเป็นการต่อยอดการพัฒนาจากโครงการอินทนนท์ เพื่อศึกษาความเป็นไปได้และแนวทางในการเชื่อมต่อ CBDC กับนวัตกรรมที่พัฒนาโดยภาคเอกชน เพื่อยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันและความพร้อมของภาคธุรกิจที่เข้าสู่ยุคดิจิทัล ซึ่งโครงการนี้เป็นก้าวแรกที่สำคัญในการนำ CBDC ไปเชื่อมสู่ภาคธุรกิจที่มีขอบเขตการใช้ประโยชน์ที่กว้างขึ้น
ในการทดสอบ CBDC จะถูกเชื่อมต่อกับระบบการบริหารการจัดซื้อและการชำระเงินระหว่าง บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) กับคู่ค้า (Suppliers) ในห่วงโซ่อุปทาน โดยมี บริษัท ดิจิทัล เวนเจอร์ส จำกัด ซึ่งเป็นผู้พัฒนาระบบดังกล่าวร่วมทดสอบ โดยธนาคารแห่งประเทศไทยคาดหวังว่าระบบต้นแบบการชำระเงินนี้จะรองรับนวัตกรรมทางการเงินของภาคธุรกิจที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการชำระเงิน เช่น มีความยืดหยุ่นในการโอนเงินมากขึ้น เพิ่มความเร็วและความคล่องตัวในการชำระเงินระหว่างกัน
จันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายสื่อสารและความสัมพันธ์องค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้อธิบายเพิ่มเติมถึงการใช้สกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) ในซัพพลายเชนของบริษัทปูนซิเมนต์ไทย (SCC) ว่า
“เป็นการใช้เงินบาทในรูปดิจิทัล เพราะฉะนั้นจะมีค่าเท่ากับเงินบาทที่เป็นธนบัตร เพียงแต่ในรูปดิจิทัลสามารถจะเขียนสัญญา Smart Contract ให้ทำอย่างอื่น Execute Functions อื่นๆ ได้ด้วยในการสั่งซื้อขายสินค้าจากคู่ค้าและซัพพลายเออร์”
ทั้งนี้การทดสอบดังกล่าวจะเริ่มต้นในเดือนกรกฎาคม และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2563 ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยจะเผยแพร่ผลการทดสอบและแนวทางการดำเนินงานต่อไป
นอกจากนี้ โครงการอินทนนท์ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทยและสถาบันการเงิน 8 แห่งที่ร่วมกันศึกษาและทดสอบการใช้สกุลเงินดิจิทัลในการชำระเงินระหว่างธนาคาร (Wholesale CBDC) ได้ดำเนินการสำเร็จลุล่วงแล้ว รวมทั้งได้ทดสอบการโอนเงินระหว่างประเทศร่วมกับธนาคารกลางฮ่องกง (Hong Kong Monetary Authority: HKMA) เสร็จสิ้นในเดือนมกราคม 2563 ปัจจุบันธนาคารแห่งประเทศไทยและ HKMA ร่วมกับสถาบันการเงินสมาชิก อยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อขยายขอบเขตการทดสอบการโอนเงินระหว่างประเทศโดยใช้ CBDC ซึ่งจะมีการประกาศในรายละเอียดต่อไป
ธนาคารแห่งประเทศไทยเชื่อมั่นว่ากระบวนการพัฒนานวัตกรรมทางการเงินร่วมกับภาคธุรกิจเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการเตรียมเข้าสู่โลกดิจิทัลทางการเงินในอนาคต โดยธนาคารแห่งประเทศไทยยังคงเปิดกว้างสำหรับภาคธุรกิจที่สนใจร่วมพัฒนานวัตกรรมต่างๆ เพื่อนำไปสู่การใช้ประโยชน์ในวงกว้างต่อไป
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
เรียบเรียง: ณัฐเศรษฐ ตุ้ยดา
ติดตามข่าวสารการลงทุนเพิ่มเติมได้ที่: www.efinancethai.com