‘เดอะมอลล์กรุ๊ป’ หนึ่งในยักษ์ค้าปลีกของไทยเตรียมทุ่มงบ 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งเท่ากับยอดขายประจำปีของบริษัทในการสร้าง Bangkok Mall ซึ่งคาดว่าจะเป็นศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บนพื้นที่ 1 ล้านตารางเมตรในย่านบางนา พร้อมเปิดตัวคอนเสิร์ตฮอลล์ขนาดใหญ่ รองรับผู้ชมได้ถึง 20,000 คน หวังดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยประสบการณ์ความบันเทิงระดับโลก
ศูนย์การค้าแห่งใหม่นี้จะประกอบไปด้วยพื้นที่สำนักงาน ที่พักอาศัย โรงแรม และคอนเสิร์ตฮอลล์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ซึ่งเดิมทีมีกำหนดเปิดให้บริการในปี 2566 แต่การก่อสร้างต้องหยุดชะงักลงชั่วคราวเนื่องจากการระบาดของโควิด ทำให้กำหนดการใหม่คาดว่าจะแล้วเสร็จระหว่างปี 2569-2570
ศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานเดอะมอลล์ กรุ๊ป กล่าวอย่างมั่นใจในการให้สัมภาษณ์กับ Nikkei Asia ว่า Bangkok Mall จะน่าตื่นเต้นจนผู้มาเยือน ‘นอนไม่หลับ’
เดอะมอลล์ กรุ๊ป ก่อตั้งขึ้นในปี 2524 และประสบความสำเร็จในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ระดับหรูหราหลายแห่งในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง The Emporium ห้างสรรพสินค้าหรูบนถนนสุขุมวิทที่เปิดตัวในปี 2540
การแข่งขันในธุรกิจศูนย์การค้าของไทยกำลังดุเดือด โดยเซ็นทรัลพัฒนาร่วมมือกับดุสิตธานี ในการร่วมทุนโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ซึ่งเป็นมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ที่ลงทุนกว่า 4.6 หมื่นล้านบนที่ดิน 23 ไร่ มุมถนนสีลม-พระราม 4 ซึ่งบางส่วนจะเริ่มเปิดในปีหน้า
ด้วยเหตุนี้เดอะมอลล์ กรุ๊ป จึงตั้งเป้าที่จะสร้างความแตกต่างด้วยการนำเสนอความบันเทิงและประสบการณ์ที่ EMSPHERE และ Bangkok Mall พร้อมกับเสริมสร้างกลยุทธ์ห้างสรรพสินค้าหรู ซึ่ง ยูจิ คาโตะ จาก Nomura Research Institute Thailand กล่าวว่า “กลยุทธ์ของเดอะมอลล์ กรุ๊ป ในการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกหรูหราใจกลางกรุงเทพฯ และที่อื่นๆ เป็นกลยุทธ์ที่ดี”
บริษัทหวังว่าจะใช้ศูนย์การค้าแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ เพื่อดึงดูดลูกค้าจากประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาประเทศไทยในช่วงเดือนมกราคมถึงเมษายนมีจำนวน 12.1 ล้านคน เพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ความต้องการด้านความบันเทิงยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องทั่วทั้งภูมิภาค เนื่องจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น ตลาดกิจกรรมดนตรีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 280 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1 พันล้านบาท) ในปี 2565 คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2 เท่าเป็น 560 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.05 หมื่นล้านบาท) ในปี 2571 จากข้อมูลของ Statista
เดอะมอลล์ กรุ๊ป ตั้งเป้าที่จะดึงดูดศิลปินที่มีชื่อเสียงมาจัดคอนเสิร์ตที่ศูนย์การค้าแห่งใหม่ เพื่อดึงดูดความต้องการด้านที่พักและการช้อปปิ้งจากแฟนๆ ที่จะเข้าร่วมชมการแสดง
Taylor Swift จัดคอนเสิร์ต 6 รอบในสิงคโปร์เมื่อต้นเดือนมีนาคม จำหน่ายบัตรได้ทั้งหมดกว่า 300,000 ใบ โดยมีแฟนๆ เดินทางมาจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ ซึ่งมีผลกระทบทางเศรษฐกิจ รวมถึงการใช้จ่ายในโรงแรมและร้านอาหาร คาดว่าจะสูงถึง 500 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 1.56 หมื่นล้านบาท)
ศุภลักษณ์กล่าวว่า ประเทศไทยสามารถเชิญ Taylor Swift มาจัดคอนเสิร์ตได้ โดยชี้ให้เห็นว่าประเทศไทยเคยเป็นเจ้าภาพจัดคอนเสิร์ตของศิลปินระดับโลกอย่าง Michael Jackson และ Bruno Mars มาก่อน
บริษัทได้ร่วมมือกับ Anschutz Entertainment Group (AEG) บริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ในการก่อสร้างและดำเนินงานคอนเสิร์ตฮอลล์ใน EMSPHERE และ Bangkok Mall โดย AEG เป็นผู้จัดคอนเสิร์ตของ Taylor Swift ในสิงคโปร์
อย่างไรก็ตาม ประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคนี้กำลังพยายามดึงดูดศิลปินรายใหญ่เช่นกัน รัฐบาลมาเลเซียได้ลดภาษีบันเทิงสำหรับรายได้บ็อกซ์ออฟฟิศของศิลปินต่างประเทศจาก 25% เหลือ 10% ขณะที่อินโดนีเซียกำลังพิจารณานโยบายเพื่อสนับสนุนการดึงดูดงานขนาดใหญ่
ศุภลักษณ์กล่าวว่า “เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ประเทศไทยมีปัญหาเรื่องสถานที่จัดคอนเสิร์ตและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไม่เพียงพอ” บริษัทวางแผนที่จะเรียกร้องให้รัฐบาลไทยปรับปรุงในส่วนนี้
ภาพ: Courtesy of The Mall Group
