วันนี้ (14 ธันวาคม) ศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ในวันนี้คุณภาพอากาศในพื้นที่ กทม. มีแนวโน้มแย่ลง เนื่องจากการเดินทางสัญจรของประชาชนกลับจากการท่องเที่ยวในวันหยุดยาว ทำให้ปริมาณการจราจรหนาแน่นและติดขัด
ดังนั้น กรุงเทพมหานครจึงได้กำชับให้ทุกเขตเข้มงวดมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ดังนี้
- ตรวจวัดรถยนต์ควันดำทุกประเภทร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามแผนที่กำหนด
- ประสานสถานีตำรวจท้องที่อำนวยความสะดวกการจราจรหรือจัดการจราจรให้คล่องตัว
- รณรงค์ไม่ขับ…ช่วยดับเครื่อง
- ประชาสัมพันธ์ผู้ขับขี่รถยนต์หมั่นดูแลรักษาเครื่องยนต์
- ขอความร่วมมือให้ประชาชนลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว เปลี่ยนมาใช้ระบบขนส่งมวลชน
- ควบคุมสถานประกอบกิจการในพื้นที่ไม่ให้ปล่อยมลพิษอากาศเกินค่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนด อาทิ สถานประกอบกิจการประเภทการผลิตภาชนะด้วยโลหะ หรือแร่ การถลุงแร่ การเลื่อย ซอย ไสไม้ การผลิตสิ่งของเครื่องใช้จากไม้ การผลิต สะสม แบ่งบรรจุธูป การเผาถ่านหรือสะสมถ่าน กิจการที่มีการใช้หม้อต้มไอน้ำ (Boiler) ที่ใช้เชื้อเพลิงน้ำมันเตาหรือดีเซล และการสะสม ผสมซีเมนต์ หิน ดิน ทราย วัสดุก่อสร้าง รวมทั้งการขุด ตัก ดูด โม่ บด หรือย่อย ด้วยเครื่องจักร
- ควบคุมกิจกรรมที่ก่อให้เกิดฝุ่นละอองจากการก่อสร้างทุกประเภท ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย พร้อมทั้งดูแลไม่ให้นำรถที่มีควันดำมาใช้งานบนถนน
- ควบคุมไม่ให้มีการเผาขยะหรือการเผาในที่โล่งทุกประเภท
- กำชับเจ้าหน้าที่ผู้มีหน้าที่ฌาปนกิจศพให้ปฏิบัติตามขั้นตอนที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ
- เพิ่มความถี่ในการล้างและดูดฝุ่นถนน และฉีดล้างใบไม้
- ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ แนะนำวิธีป้องกันสุขภาพอนามัยผ่านสื่อออนไลน์ของสำนักงานเขต และสื่อประชาสัมพันธ์ต่างๆ ของกรุงเทพมหานคร การประกาศเสียงตามสายของชุมชนและแอปพลิเคชันไลน์ของหมู่บ้าน และโรงเรียนในสังกัด เป็นต้น
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครได้มีการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงอันตรายของฝุ่นละออง PM2.5 ให้ประชาชนได้รับทราบอย่างต่อเนื่องแบบเรียลไทม์ผ่านช่องทางต่างๆ ได้แก่ www.bangkokairquality.com, www.prbangkok.com, www.air4bangkok.com, Facebook: กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม, Facebook: กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์ และแอปพลิเคชัน AirBKK ซึ่งปัจจุบันมีความถี่การแจ้งเตือนวันละ 3 รอบเวลาคือ 07.00 น., 12.00 น. และ 15.00 น. เพื่อแจ้งเตือนและเน้นย้ำข้อควรปฏิบัติแก่ประชาชนในการเฝ้าระวังสุขภาพ และป้องกันตนเองจากฝุ่นละออง PM2.5 โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ เมื่ออยู่ในพื้นที่ที่คุณภาพอากาศอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ควรลดระยะเวลา หรืองดการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หากมีความจำเป็นควรสวมใส่หน้ากากอนามัย หรือหน้ากากป้องกันฝุ่นละอองทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน