ระเบิดกรุงเทพฯ นายกฯ ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง เชื่อดิสเครดิตรัฐบาล สั่งตำรวจคุมเข้ม ไม่ใช้กฎหมายพิเศษ

นายกรัฐมนตรียัน ยังไม่ใช้กฎหมายพิเศษควบคุมสถานการณ์ระเบิดกรุงเทพฯ สั่งตำรวจคุมเข้มดูแลความปลอดภัยสถานที่สำคัญ ไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง หลังเกิดเหตุระเบิดต่อเนื่อง 9 จุด แต่เชื่อว่าเป็นการดิสเครดิตรัฐบาล

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ระบุว่าเกิดเหตุระเบิดใน 5 พื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ รวม 9 จุด สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 2 คนที่จังหวัดชุมพร ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลว่ามีความเชื่อมโยงกับสถานการณ์ใดบ้าง โดยจะเทียบเคียงกับคดีในอดีต เช่น ปี 2548, 2553 และ 2558 

พร้อมยืนยันว่ายังไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้ง แต่เชื่อว่าอาจเป็นไปได้ว่าต้องการลดความน่าเชื่อถือของรัฐบาล ส่วนประเด็นที่ตนเองมากำกับดูแลตำรวจจะเป็นชนวนเหตุหรือไม่ เชื่อว่าทุกคนมีสิทธิ์ที่จะคิด แต่ยืนยันว่าส่วนตัวกับตำรวจมีความรักใคร่กลมเกลียวกัน เป็นพี่น้องกัน 

ทั้งนี้ขอประชาชนว่าอย่าตื่นตระหนก และอยากให้ประชาชนเป็นแนวร่วมในการช่วยสอดส่องดูแลประเทศ หากพบเห็นสิ่งแปลกปลอมหรือหลักฐานที่เป็นภาพถ่าย สามารถส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เพื่อใช้เป็นหลักฐานคลี่คลายคดี

ยืนยันไม่ประกาศกฎหมายพิเศษเพิ่มเติม เนื่องจากเชื่อว่ากฎหมายปกติสามารถควบคุมสถานการณ์และบังคับใช้กับกลุ่มผู้ไม่หวังดีได้ 

นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังระบุว่าได้สั่งการคุมเข้มสถานที่ราชการ สถานที่เชิงสัญลักษณ์ สถานทูต และสถานที่ท่องเที่ยวทุกจุดแล้ว และกำชับให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเข้มงวดตรวจตรา

พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่าสั่งการตั้งชุดเฉพาะกิจคลี่คลายระเบิด 9 จุด 5 พื้นที่รอบกรุงเทพฯ ประกอบด้วย 

• ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ บริเวณอาคาร B และหน้ากองบัญชาการกองทัพไทย จำนวน 4 ลูก
• หน้าอาคารมหานคร BTS ช่องนนทรี จำนวน 2 ลูก
• พระรามเก้า ซอย 57/1 จำนวน 1 ลูก
• หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (1 ส.ค.) จำนวน 2 ลูก 
• หน้าสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ถนนศรีสมาน เป็นเหตุสปอตไลต์ระเบิด   

โดยมอบหมายให้ พลตำรวจเอก ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่เคยเป็นหัวหน้าชุดคลี่คลายระเบิด โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า และเหตุระเบิดราชประสงค์ เข้ามาดำเนินการตรวจสอบและดำเนินการ เบื้องต้นได้มีการตรวจสอบเหตุระเบิด พบว่ามี 2-3 จุดเชื่อมโยงกัน เพราะมีส่วนประกอบและจุดก่อเหตุคล้ายกัน แต่ยังต้องรอผู้ชำนาญการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่เชื่อมั่นว่าผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มเดิม ไม่ใช่คนรุ่นใหม่ที่ไม่มีประวัติเป็นผู้ดำเนินการ

ส่วนผู้ต้องสงสัยที่จับกุมได้ 2 คนที่จังหวัดชุมพร ตำรวจสามารถจับกุมได้ภายใน 24 ชั่วโมง แม้ว่าทั้งสองคนเชื่อมั่นว่าตนเองจะหลบหนีไปได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเชื่อมโยงกับกลุ่มที่ก่อเหตุที่หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และจุดอื่นๆ 

ส่วนสาเหตุในการก่อเหตุขณะนี้ ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานและขยายผลหาผู้ร่วมกระบวนการ ยังไม่สามารถระบุได้ว่ามีจำนวนมากน้อยเพียงใด

ทั้งนี้เชื่อว่าประชาชนจะเชื่อมั่นในการคลี่คลายคดีของตำรวจ และเชื่อว่าจะไม่กระทบกับภาคเศรษฐกิจและสังคม แม้ว่าจะมีฝ่ายตรงข้ามออกมาปล่อยข่าวดิสเครดิตทำให้ประชาชนสับสน ตำรวจจึงจำเป็นต้องออกมาแถลงข้อเท็จจริงเพื่อให้ประชาชนมั่นใจ

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์