กรุงเทพฯ ระทึก ระเบิดป่วนเมืองหลายจุดในวันเดียว
สรุปสถานการณ์ระเบิดป่วนกรุง
สืบเนื่องจากตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา เกิดเหตุระเบิดประมาณ 5 จุด และอีก 3 จุดที่พบวัตถุต้องสงสัยทั่วเขตกรุงเทพฯ จนเป็นผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บแล้วไม่ต่ำกว่า 2 คน ท่ามกลางความวิตกกังวลของประชาชนในกรุงเทพฯ
THE STANDARD สรุปสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา
ภาพประกอบ: Pichamon W.
15.00 น. พบวัตถุต้องสงสัยบริเวณท่าเรือยอดพิมาน ถนนจักรเพชร เบื้องต้นพบกระเป๋าต้องสงสัยวางอยู่ ขณะนี้มีการปิดกั้นพื้นที่เพื่อรอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุต่อไป
ผบ.ทบ. บอกกลุ่มเดิมๆ แนวคิดเดิมๆ ป่วนกรุง ดักคออย่าโยนรัฐสร้างสถานการณ์เอง
พลเอก อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (รอง ผอ.รมน.) กล่าวถึงเหตุระเบิดหลายจุดในกรุงเทพมหานครว่า ทางฝ่ายความมั่นคงได้มีการแจ้งเตือนมาระยะหนึ่งแล้ว โดยได้ประสานงานทั้ง กอ.รมน. เหล่าทัพ ตำรวจ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ แต่ก็ไม่คาดคิดว่าจะมาเกิดในช่วงนี้
ซึ่งหลังจากเกิดเหตุที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติในช่วงบ่ายวานนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้มีการสั่งการหน่วยงานความมั่นคง โดยโทรศัพท์สายตรงไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการเหล่าทัพ ให้ดูแลสถานการณ์ด้วย เหมือนว่านายกฯ กลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ในจุดที่ 2 และ 3 ตามมา
ทั้งนี้ ตั้งข้อสังเกตว่า ลักษณะรูปแบบการก่อเหตุคล้ายกับเหตุการณ์ในปี 2549 เป็นกลุ่มคนเดิมๆ แนวคิดเดิมๆ มาจากสำนักเดิมๆ ที่เคยระเบิดป้อมตำรวจหลายจุด
พลเอก อภิรัชต์ ยังบอกด้วยว่า สิ่งที่ตนเป็นห่วงก็คือ จะมีฝ่ายการเมืองหรือพวกที่ไม่หวังดีกับประเทศมาใส่ความว่า ฝ่ายความมั่นคงทำเรื่องแบบนี้กันเอง เพราะเรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ทั้งที่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นมาจากกลุ่มเดิมๆ ความคิดเดิมๆ คนสั่งการคนเดิม แต่คนลงมืออาจเป็นคนหน้าใหม่
“นี่คือสิ่งบอกเหตุทางการเมือง เกิดจากกลุ่มที่มีความคิดแบบนี้ และสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ถือเป็นสิ่งบอกเหตุว่า อาจจะมีครั้งต่อไปเกิดขึ้นอีก แต่ขอให้มั่นใจว่า นายกฯ และฝ่ายความมั่นคง สามารถควบคุมสถานการณ์ได้”
ขณะนี้ตำรวจจับได้สองคนแล้ว อยู่ระหว่างการขยายผล อย่างไรก็ตาม ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก และขอความร่วมมือหากพบบุคคลต้องสงสัย หรือสิ่งต้องสงสัย ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที แต่อย่าหลอกกัน เพราะยิ่งจะสร้างความปั่นป่วน ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ประเทศ โดยเฉพาะเรื่องของความเชื่อมั่น
ส่วนที่ผู้ตัองสงสัยสองคนมาจากภาคใต้นั้น พลเอก อภิรัชต์ กล่าวว่า ไม่ว่าจะเอาคนที่มาจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ขึ้นมาทำหรือไม่ก็ตาม แต่คนที่อยู่เบื้องหลังก็ยังเป็นกลุ่มเดิมๆ
“แต่ไม่ต้องห่วง ท่านนายกฯ ดูแลได้ พวกเราก็ดูแลอยู่ จะไม่ให้เกิดอีก”
เมื่อถามว่า เหตุที่เกิดขึ้นหน้าหน่วยทหาร ถือเป็นการท้าทายนายกฯ ที่คุมทหาร คุมตำรวจด้วยหรือไม่ พลเอก อภิรัชต์ บอกว่า อย่าเรียกว่าท้าทาย คนที่จะทำก็จ้องหาช่องโหว่อยู่แล้ว แต่มันเป็นสิ่งบอกเหตุว่า ต่อไปอาจจะมีการเอาเรื่องแบบนี้มาใช้หวังผลทางการเมืองมากขึ้น ขอให้ประชาชนช่วยกัน อย่าให้คนไม่หวังดีเหล่านี้มาทำร้ายประเทศเราได้
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
โฆษก กอ.รมน. ยืนยันไม่มีประกาศพื้นที่ควบคุมพิเศษในกรุงเทพฯ ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก
พล.ต. ธนาธิป สว่างแสง โฆษก กอ.รมน. ยืนยันว่า ยังไม่มีการประกาศพื้นที่ควบคุมพิเศษ หรือพื้นที่รักษาความสงบเรียบร้อยตามมาตรา 15 พ.ร.บ. รักษาความมั่นคง ปี 2551
มีการแชร์ข้อความเป็นเท็จว่า มีการประกาศพื้นที่ควบคุมพิเศษ 7 จุดที่แยกราชประสงค์, สยามสแควร์, อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย, สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินและบนดิน, สถานีหัวลำโพง, สถานีรถไฟหัวลำโพง และสถานีขนส่งทุกแห่ง
โฆษก กอ.รมน. ยืนยันว่า ในขณะนี้ให้เป็นหน้าที่ตำรวจเป็นหลัก ดูแลพื้นที่เกิดเหตุ 7 จุด รวมทั้งหน้าหน่วยทหารด้วย
“ขอพี่น้องประชาชนอย่าตื่นตระหนกใดๆ ถ้าพบบุคคลต้องสงสัยหรือสิ่งของต้องสงสัย ให้รีบแจ้งสายด่วน 1374 ตลอด 24 ชั่วโมง ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่จะทำงานอย่างเต็มขีดความสามารถ” พล.ต. ธนาธิป กล่าว
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
ตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยที่สีลม พบเป็นกล่องเปล่า
ภาพขณะเจ้าหน้าที่เก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิดเข้าเก็บกล่องวัตถุต้องสงสัยบริเวณใต้บันไดเลื่อนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสศาลาแดง ฝั่งซอยสีลม 2/1 เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. ของวันนี้ (2 ส.ค.) ภายหลังการตรวจสอบพบว่าเป็นเพียงกล่องกระดาษเปล่าที่มีผู้นำมาทิ้งไว้
14.00 น. พลตรี ธนาธิป สว่างแสง โฆษก กอ.รมน. ยืนยันว่า ยังไม่มีการประกาศพื้นที่ควบคุมพิเศษในกรุงเทพมหานคร ตามที่ปรากฏในโซเชียลมีเดียแต่อย่างใด
13.10 น. ความคืบหน้าหลังพบวัตถุต้องสงสัยบริเวณใต้ทางขึ้น BTS ศาลาแดง ล่าสุดเจ้าหน้าที่ EOD เดินทางมาตรวจที่จุดพบวัตถุต้องสงสัยแล้ว เบื้องต้นพบว่าวัตถุดังกล่าวเป็นเพียงกล่องเปล่าเท่านั้น
ภาพ: ฐานิส สุดโต
ผู้ว่าฯ กทม. สั่งตั้งศูนย์ติดตามสถานการณ์ หลังเหตุระเบิดป่วนทั่วกรุงรวม 11 เหตุ
ที่ห้องเจ้าพระยา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) แถลงข่าวภายหลังเกิดเหตุระเบิดทั่วกรุง ว่า ขณะนี้สถานการณ์ยังอยู่ระหว่างการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และต้องประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีเหตุเกิดขึ้นทั้งหมดรวม 11 จุด ได้แก่ ระเบิดในซอยพระราม 9 ซอย 57, ระเบิดใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสช่องนนทรี, มีเสียงระเบิดแถวคิง เพาเวอร์ 2 ครั้ง, มีเสียงระเบิด 3 ครั้ง พร้อมกับพบวัตถุระเบิดที่ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ, เจอวัตถุระเบิดที่อาคารมหานคร และล่าสุดเวลา 12.08 น. พบวัตถุต้องสงสัยบริเวณรถไฟฟ้าบีทีเอสศาลาแดง ส่วนเหตุไฟไหม้เกิดขึ้นที่อาคารดีดี เฮ้าส์ เพชรบุรี 19 (ประตูน้ำ), อาคารโฮฟวีไลน์ (ประตูน้ำ), โรงแรมอินทรา (ประตูน้ำ) และตึกใบหยก
พล.ต.อ. อัศวิน กล่าวว่า กรุงเทพมหานครได้ตั้งศูนย์อำนวยการเพื่อติดตามสถานการณ์ และตั้งทีมผู้บัญชาการเหตุการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่เที่ยงวันนี้เป็นต้นไป โดยให้รายงานความคืบหน้าและการประสานงานด้านต่างๆ รวมถึงการให้ข้อมูลข่าวสารเป็นระยะ
นอกจากนี้ยังมอบหมายสำนักการจราจรและขนส่งตรวจสอบและเชื่อมสัญญาณจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ทุกจุดให้พร้อมเรียกดูข้อมูลได้ตลอดเวลา โดยมีข้าราชการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักการจราจรและขนส่ง สำนักการโยธา สำนักการแพทย์ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อเตรียมความพร้อมในการรายงานข้อมูล หากฝ่ายความมั่นคงร้องขอ โดยเฉพาะภาพจากกล้อง CCTV ซึ่งกรุงเทพมหานครได้จัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว ยืนยันว่า กล้อง CCTV บริเวณที่เกิดเหตุสามารถใช้งานได้ทุกตัว ทั้งนี้ ได้รับการประสานจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ให้ กทม. จัดเตรียมข้อมูลทั้งภาพกล้อง CCTV เพื่อหาพยานและบุคคลต้องสงสัยไว้ด้วย เพื่อสนับสนุนข้อมูลหลักฐานให้กับฝ่ายความมั่นคง
พล.ต.อ. อัศวิน กล่าวว่า นอกจากนี้ยังได้ออกข้อความ (ว.8) ไปถึงผู้อำนวยการเขตทั้ง 50 เขต และผู้อำนวยการสำนักงานต่างๆ ให้ช่วยดูแลสอดส่องบุคคลและวัตถุต้องสงสัย หากพบสิ่งผิดปกติให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที ขณะเดียวกัน ขอความร่วมมือประชาชนให้ช่วยดูแลสอดส่องบุคคลและวัตถุต้องสงสัย หากพบสิ่งผิดปกติให้แจ้งสำนักงานเขตในพื้นที่ หรือโทร. 191 ทั้งนี้ อย่าไปแตะต้อง สัมผัส หรือเคลื่อนย้ายวัตถุผิดปกติ เนื่องจากอาจเกิดอันตรายได้
อย่างไรก็ตาม ได้รายงานสถานการณ์ต่อ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.) รับทราบสถานการณ์เรียบร้อยแล้ว พร้อมได้มอบหมายให้ นพ.พิชญา นาควัชระ รองปลัดกรุงเทพมหานคร นำกระเช้าดอกไม้ไปเยี่ยมให้กำลังใจแก่ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
12.40 น. ความคืบหน้าหลังพบวัตถุต้องสงสัยบริเวณใต้ทางขึ้น BTS ศาลาแดง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดกั้นบันไดเลื่อนทางขึ้น BTS ศาลาแดง ซอยสีลม 2/1 เป็นการชั่วคราวเพื่อรอเจ้าหน้าที่ EOD เข้าตรวจสอบ แต่ตัวสถานีรถไฟฟ้า BTS ยังคงเปิดให้ประชาชนใช้บริการได้ตามปกติ
ภาพ: ฐานิส สุดโต
12.00 น. โดยประมาณ สวพ.FM91 รายงานว่าพบวัตถุต้องสงสัยใต้บันไดทางขึ้น BTS ศาลาแดง บริเวณสีลม ซอย 2/1 ซึ่งนับว่าเป็นจุดที่ 6 ของวันนี้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ปิดกั้นพื้นที่ EOD และกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวแล้ว
11.40 น. นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกรัฐบาล เผยว่า นายกฯ ได้สั่งการเพิ่มเติม และฝากสื่อสารถึงประชาชนว่า “จะเห็นว่ามีคนไม่ดีสร้างสถานการณ์ก่อเหตุรุนแรงขึ้นอีกในช่วงนี้ ช่วงที่ประเทศชาติและรัฐบาลกำลังเดินหน้าด้วยดี ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก ช่วยกันเฝ้าระวัง ช่วยถ่ายรูปบุคคล เหตุการณ์ ผู้ต้องสงสัยที่พบเห็น เพื่อประโยชน์ในการสืบสวนต่อไป แจ้งเจ้าหน้าที่ทหารช่วยกันเฝ้าระวัง ยกระดับการรักษาความปลอดภัย สถานที่สำคัญ สถานที่ราชการ พื้นที่ธุรกิจ ฯลฯ เราต้องแสดงให้เห็นว่า คนไทยทุกคนจะร่วมมือกัน ไม่ให้ใครก็ตามที่มุ่งร้ายต่อประเทศชาติมีที่ยืนในสังคมไทยได้ ต้องร่วมมือกันนะครับ”
11.16 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทวีตข้อความประณามผู้ก่อเหตุ โดยระบุว่า “เหตุการณ์ระเบิดวันนี้ ผมขอประณามผู้ที่อยู่เบื้องหลังการสร้างสถานการณ์ที่ทำลายความสงบสุขและภาพลักษณ์ประเทศ ผมได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของประชาชนและผู้ได้รับผลกระทบโดยเร่งด่วนแล้ว”
10.55 น. คืบหน้าเหตุระเบิดซอยพระรามเก้า 57/1 พบผู้บาดเจ็บ ขณะนี้ได้ลำเลียงผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลแล้ว ประกอบด้วย คิสนา ผ่องใส ได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้า, สุนทร รอดเสียงล้ำ มีบาดแผลที่คอ และศศินิภา เพชรทองหลาง แก้วหูแตก ทั้ง 3 คนเป็นเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดของ กทม. โดย เรณู ซื่อสัตย์ ผู้อำนวยการเขตสวนหลวงได้ลงพื้นที่แล้ว ขณะที่เวลา 11.30 น. พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. เตรียมประชุมติดตามสถานการณ์ร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
10.50 น. มีรายงานว่าเกิดเหตุระเบิดอีกจุดที่บริเวณหน้าสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ถ.ศรีสมาน เจ้าหน้าที่กำลังเร่งตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว
10.28 น. คืบหน้าเหตุระเบิดบริเวณบีทีเอสช่องนนทรี เจ้าหน้าที่พบวัตถุต้องสงสัยอีก 1 ชิ้น หลังเหตุระเบิดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยหน่วย EOD ได้เคลื่อนย้ายวัตถุดังกล่าวไปทำลายด้วยปืนฉีดน้ำแรงดันสูง ก่อนจะพบว่าไม่ใช่วัตถุระเบิด และเคลียร์พื้นที่เรียบร้อยแล้ว
หลังจากเหตุพบชายผู้ต้องสงสัยวางวัตถุต้องสงสัยเข้าไปบริเวณใต้ป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติเมื่อวานนี้ แม้ท้ายที่สุดเจ้าหน้าที่จะควบคุมเหตุการณ์ด้วยการใช้ปืนแรงดันน้ำฉีดทำลายวัตถุดังกล่าว ก่อนที่จะเข้าจับกุมชายต้องสงสัยจำนวน 2 ราย ได้บนรถขนส่งผู้โดยสาร บขส. ขณะเข้าจุดตรวจปฐมพร ถนนเพชรเกษม ต. วังไผ่ อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร
ล่าสุด ช่วงเช้าของวันนี้ (2 ส.ค.) มีการรายงานจากหลายสำนักสื่อ เผยว่า พบเหตุระเบิดทั่วเขตกรุงเทพฯ แล้ว 3 จุด โดยจุดแรกเกิดขึ้นเวลาประมาณ 07.00 น. เกิดเหตุระเบิดบริเวณสวนหย่อมหน้าศูนย์ราชการอาคารบี แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร เบื้องต้นไม่มีการรายงานถึงผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุดังกล่าว โดยมีเพียงซากหลุมระเบิดจากโพรงต้นไม้เท่านั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ปิดล้อมพื้นที่ดังกล่าวไว้หมดแล้ว
ต่อมาในเวลา 09.00 น. โดยประมาณ เกิดเหตุระเบิดอีกครั้งในจุดที่ 2 แต่คราวนี้เกิดขึ้นที่หน้าอาคารมหานคร บริเวณใกล้บีทีเอสช่องนนทรี หรือพงหญ้าใต้บันไดบีทีเอส ในเบื้องต้นตอนนี้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว และมีการรายงานว่า ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
ส่วนจุดที่ 3 เกิดเหตุภายในซอยพระรามเก้า 57/1 เข้าซอยประมาณ 150 เมตร พร้อมทั้งพบผู้บาดเจ็บเป็นพนักงานทำความสะอาดของสำนักงานเขตสวนหลวง หญิง 2 คน จากการสอบถามผู้บาดเจ็บให้การว่า ขณะกำลังทำความสะอาดถางหญ้าอยู่ข้างทาง ได้ไปถูกวัตถุที่มีเทปดำพันอยู่โดยบังเอิญ จนเป็นเหตุทำให้เกิดระเบิดขึ้น และได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเป็นระเบิดปิงปอง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบปืนปากกา 1 กระบอก และมีดอีก 2 เล่ม ซุกซ่อนอยู่บริเวณพงหญ้าดังกล่าว ขณะนี้กั้นพื้นที่เกิดเหตุรอเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมตรวจสอบ ส่วนผู้บาดเจ็บ 2 ราย ถูกนำส่งโรงพยาบาลสิรินธรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นายกฯ รับรายงานเหตุป่วนกรุงหลายจุดแล้ว สั่งเพิ่มมาตรการความปลอดภัย ขอประชาชนอย่าตระหนก
ที่ทำเนียบรัฐบาล นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกรัฐบาล เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้รับรายงานเหตุการณ์เช้านี้แล้ว และได้สั่งการให้ดำเนินการสอบสวน เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย และติดตามเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
ขอความร่วมมือประชาชนอย่าตื่นตระหนกและร่วมมือในการเฝ้าระวัง พบเห็นสิ่งผิดปกติ ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่