×

‘บางจาก’ กับวิสัยทัศน์ Digital Transformation ที่มีเทคโนโลยี พาร์ตเนอร์ และคน เป็นส่วนสำคัญ

โดย THE STANDARD TEAM
09.10.2020
  • LOADING...
บางจาก Digital Transformation เทคโนโลยี

HIGHLIGHTS

4 mins read
  • หนึ่งในองค์กรที่มีการปรับตัวอย่างรวดเร็วและทำเรื่อง Digital Transformation อย่างจริงจังคือ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดยนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ควบคู่กับการพัฒนาคนให้มี ‘Digital Culture’ เพื่อรับมือกับโลกที่เปลี่ยนแปลงในอนาคต
  • เครื่องมือสำคัญของบางจากในการเชื่อมโยงข้อมูลจากเครือข่ายสำนักงานและคลังน้ำมันตามภูมิภาคต่างๆ ของประเทศ รวมถึงโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของบริษัทในกลุ่ม BCPG ที่กระจายตัวอยู่ในหลายจังหวัด คือการใช้บริการ SD-WAN จาก CAT หรือบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เพื่อส่งต่อข้อมูลมหาศาลมารวมอยู่ที่ศูนย์กลางด้วยความรวดเร็วและมีเสถียรภาพ 
  • นอกจากความท้าทายด้านเทคโนโลยีแล้ว ในอีกด้านที่บางจากพยายามมุ่งเน้นคือการสร้าง Digital Culture ให้เกิดขึ้นกับคนในองค์กร โดยพยายามปรับเปลี่ยนมายด์เซ็ตและรูปแบบการทำงานให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป

เมื่อความเปลี่ยนแปลงไม่เคยรอใคร โจทย์ใหญ่ขององค์กรยุคนี้คือการปรับตัวให้เท่าทันกับความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้น หนึ่งในวิธีการปรับตัวที่ได้ผลอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพที่ทุกองค์กรเร่งทำในตอนนี้ก็คือ Digital Transformation ที่แม้จะเป็นคำที่พูดกันบ่อยๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกองค์กรจะทำได้สำเร็จ

 

หนึ่งในองค์กรที่มีการปรับตัวอย่างรวดเร็วและทำเรื่อง Digital Transformation อย่างจริงจังคือ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ประกาศแนวคิดในการปรับเปลี่ยนองค์กรสู่โลกดิจิทัลมาตั้งแต่ปี 2018 เพื่อปรับกลยุทธ์องค์กรในการรองรับโอกาสและความสำเร็จทางธุรกิจที่เกิดขึ้นในอนาคต 

 

Digital Transformation สำคัญอย่างไร แล้วองค์กรใหญ่อย่าง ‘บางจาก’ ปรับตัวสู่ยุคแห่งความเปลี่ยนแปลงอย่างไร THE STANDARD พูดคุยกับ โชคชัย อัศวรังสฤษฎ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานบริหารและพัฒนาศักยภาพองค์กร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เพื่อถ่ายทอดมุมมองในฐานะผู้นำด้านธุรกิจพลังงานที่ยั่งยืน พร้อมทั้งวิธีการเลือกพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจในการปรับองค์กรไปสู่ยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง

 

Bangchak IT solution

 

รับมือกับโลกที่เปลี่ยนแปลงด้วย Digital Transformation  

ความท้าทายของธุรกิจน้ำมันทั่วโลกในขณะนี้ก็คือสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะองค์กรใหญ่อย่างบางจากที่นอกจากความเปลี่ยนแปลงในระดับประเทศทั้งนโยบายภาครัฐ พฤติกรรมผู้บริโภค และกลยุทธ์การแข่งขันของคู่แข่งแล้วยังต้องรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในระดับโลกด้วย ทั้งความขัดแย้งระหว่างประเทศผู้ผลิตน้ำมัน การเพิ่มขึ้นของรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงโควิด-19 ที่สร้างผลกระทบต่อธุรกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

ซึ่งนอกจากจะปรับมายด์เซ็ตของคนทำงานในองค์กรให้พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปแล้ว สิ่งที่บางจากทำมาตลอดในช่วงเวลาที่ผ่านมาคือการนำเครื่องมือด้าน IT Solution มาปรับใช้กับในหลายภาคส่วนขององค์กร เพื่อตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงอย่างถูกต้อง รวดเร็ว และฉับไว 

 

โดยโครงสร้างธุรกิจหลักของบางจากคือธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันและธุรกิจการตลาด ซึ่ง IoT หรือ Internet of Things ได้เข้ามามีบทบาทอย่างมากในธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน เพื่อช่วยในเรื่องการติดตามการทำงานของเครื่องจักรต่างๆ การตรวจเช็กประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยผลิต รวมถึงการแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาซ่อมบำรุง และการคาดการณ์ล่วงหน้า เพื่อให้การทำงานของโรงกลั่นราบรื่น ไม่ติดขัด โดยมีเซนเซอร์ติดอยู่ตามจุดต่างๆ 

 

ส่วนในแง่ธุรกิจการตลาด สิ่งที่บางจากนำมาใช้อย่างมากในช่วงเวลาที่ผ่านมาคือเรื่อง Data Analytics ที่นำข้อมูล Big Data มาสังเคราะห์ ก่อนจะรวบรวมเป็นข้อมูลที่ช่วยให้ผู้บริหารตัดสินใจเดินหน้าธุรกิจและวางกลยุทธ์อย่างแม่นยำภายใต้ระบบการเก็บข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะจากสถานีบริการกว่า 1,200 แห่งของบางจาก นอกจากนี้ยังมีการนำข้อมูลการใช้บริการของลูกค้ามาประมวลผลเพื่อทำการตลาดในลักษณะ Personal Offering รวมถึงการพัฒนานำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาให้บริการแก่ลูกค้า เช่น ระบบนวัตกรรม Bangchak Digital Payment ในการรับชำระค่าน้ำมันด้วย QR Code หรือบัตรเครดิตผ่านเครื่อง Mobile EDC ณ จุดเติมน้ำมัน ซึ่งใช้เวลาไม่ถึง 1 นาที และสามารถตรวจสอบความถูกต้องก่อนยืนยันการรับชำระเงินโดยลูกค้าไม่ต้องออกจากตัวรถ เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ลูกค้าเกิดความประทับใจสูงสุดในการใช้บริการด้วย 

 

“โจทย์สำคัญของธุรกิจในวันนี้คือทำอย่างไรเราจะตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว และหาโอกาสทางธุรกิจด้วยการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ การใช้เครื่องมือด้านไอทีและดิจิทัลสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจได้ โดยเฉพาะการวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคหรือข้อมูลการทำงานของเครื่องจักร เราไม่อยากตัดสินใจอะไรบนพื้นฐานของการคาดเดาหรือใช้ความรู้สึก ซึ่งเรื่องเหล่านี้เทคโนโลยีใหม่ๆ สามารถเข้ามาช่วยการทำงานของเราได้อย่างมาก” รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานบริหารและพัฒนาศักยภาพองค์กรกล่าว

 

Bangchak CAT SD-WAN

 

CAT SD-WAN พาร์ตเนอร์ด้านดิจิทัลคนสำคัญ

อีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญของบางจากในการเชื่อมโยงข้อมูลจากเครือข่ายสำนักงานและคลังน้ำมันตามภูมิภาคต่างๆ ของประเทศ รวมถึงโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของบริษัทในกลุ่ม BCPG ที่กระจายตัวอยู่ในหลายจังหวัด คือการใช้บริการ SD-WAN จาก CAT หรือบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เพื่อส่งต่อข้อมูลมหาศาลมารวมอยู่ที่ศูนย์กลางด้วยความรวดเร็วและมีเสถียรภาพ 

 

“เนื่องจากบางจากและบริษัทในเครือมีสาขาจำนวนมากที่กระจายอยู่ในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ดังนั้นการเชื่อมโยงข้อมูลจากสาขาต่างๆ มาที่สำนักงานใหญ่จึงเป็นเรื่องสำคัญมาก โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมาที่เราต้องใช้การเชื่อมโยงข้อมูลค่อนข้างเยอะ รวมถึงการประชุมผ่านระบบ Conference ซึ่งเครือข่าย SD-WAN ก็เข้ามาช่วยเราในการบริหารจัดการเครือข่ายให้มีความรวดเร็วและมีเสถียรภาพในการเชื่อมโยง ทำให้การดำเนินธุรกิจมีประสิทธิภาพมากขึ้น”

 

นอกจากจะตอบโจทย์ในแง่ประสิทธิภาพการทำงานแล้ว SD-WAN ยังมีบทบาทอย่างมากในการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องในอนาคต ด้วยจุดเด่นของระบบที่ติดตั้งสะดวกรวดเร็ว ที่สำคัญด้วยการบริหารระบบจากศูนย์กลาง สามารถกำหนดนโยบายการเข้าถึงเว็บไซต์หรือบริการต่างๆ ของงานระบบเครือข่ายสาขาได้ ทำให้จัดการเรื่อง Cyber Security ได้ดีขึ้น 

 

“การที่เราจะตามเทคโนโลยีให้ทันจำเป็นที่จะต้องมีพาร์ตเนอร์ด้านดิจิทัลที่มีความเข้มแข็ง อย่างในธุรกิจโรงกลั่นเราก็จำเป็นต้องจับมือกับพาร์ตเนอร์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัลเทคโนโลยีของกระบวนการผลิต เช่นเดียวกับ CAT ที่เป็นอีกหนึ่งพาร์ตเนอร์ที่เราไว้วางใจในการใช้บริการ ซึ่งมาช่วยบริหารจัดการเน็ตเวิร์ก การสื่อสาร ทำให้การทำงานมีความรวดเร็ว ปลอดภัย และรองรับการเติบโตขององค์กรในอนาคต” โชคชัยกล่าว

 

Bangchak Digital Culture

 

Digital Culture เพราะเรื่อง ‘คน’ สำคัญไม่แพ้ ‘เทคโนโลยี’

นอกจากความท้าทายด้านเทคโนโลยีแล้ว ในอีกด้านที่บางจากพยายามมุ่งเน้นคือการสร้าง Digital Culture ให้เกิดขึ้นกับคนในองค์กร โดยพยายามปรับเปลี่ยนมายด์เซ็ตและรูปแบบการทำงานให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป

 

“ผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ เพราะการที่เราลงทุนเรื่องเทคโนโลยีต่างๆ แต่ถ้าวิธีการทำงานและพฤติกรรมของการทำงานยังเหมือนเดิม มันก็ไม่คุ้มกับการลงทุน และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเหล่านั้นก็คงจะสูญเปล่า เพราะฉะนั้นเราจึงพยายามพัฒนาพนักงานให้มีความคุ้นเคย รู้เท่าทัน และสามารถสร้างโอกาสในการนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในทางธุรกิจและการทำงาน เช่น การนำเอาเทคโนโลยี RPA (Robotic Process Automation) เข้ามาช่วยงานที่มีลักษณะกระบวนการทำงานซ้ำๆ กับระบบคอมพิวเตอร์ เช่น การคีย์หรือการจัดรูปแบบข้อมูลแทนคน เพื่อให้พนักงานได้มีเวลาไปคิด พัฒนา และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ มากกว่าการที่จะทำในสิ่งที่หุ่นยนต์สามารถทำแทนได้ โดยการพัฒนา RPA นั้นเรายังได้มีการพัฒนาทักษะและความสามารถของพนักงานที่ไม่ใช่สาย IT หรือ User ให้สามารถเขียนโปรแกรมง่ายๆ ขึ้นมาใช้ได้ด้วยตัวเองจนกลายเป็น Super User ด้วย

 

และที่สำคัญอีกเรื่องคือความพร้อมในการยอมรับและปรับตัวกับความเปลี่ยนแปลง ภายใต้ค่านิยมซึ่งบริษัทได้พัฒนาปลูกฝังพนักงานคือ I AM BCP โดย I คือ Innovation หรือนวัตกรรมเพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ AM คือ Agility และ Mobility คือพร้อมใจเปลี่ยนแปลง ปรับตัวเองให้ทันกับสถานการณ์ ซึ่งเป็นค่านิยมใหม่เพิ่มเติมจากค่านิยมเดิม BCP ของเราที่มาจาก Beyond Expectation แสวงหาความเป็นเลิศ Continuous Development การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และ Pursuit of Sustainability การนำพาสู่ความยั่งยืน เชื่อว่าองค์ประกอบเหล่านี้จะสามารถทำให้องค์กรของเราก้าวข้ามความเปลี่ยนแปลงได้อย่างยั่งยืน” โชคชัยกล่าวทิ้งท้าย

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising