×

เลขาฯ UN เรียกร้องให้ทุกประเทศออกกฎห้ามอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงฟอสซิลโฆษณา ชี้เป็นตัวการร้ายทำโลกร้อนรุนแรง

07.06.2024
  • LOADING...
เชื้อเพลิงฟอสซิล

เลขาธิการ UN ประกาศกร้าวถึงอุตสาหกรรมน้ำมัน ก๊าซ และถ่านหิน ทำแคมเปญโฆษณาอย่างไร้ยางอาย พร้อมเรียกร้องให้ทุกประเทศสั่งแบนและออกกฎห้ามอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงฟอสซิลโฆษณา ตัวการร้ายทำโลกร้อนระยะยาว

 

จากข้อมูลด้านสภาพอากาศของสหภาพยุโรประบุว่า การทำกิจกรรมต่างๆ ของคนในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ปล่อยก๊าซทำให้โลกร้อน ซึ่งทำให้สถิติอุณหภูมิโลกสูงขึ้นจนเกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

สอดคล้องกับนักวิทยาศาสตร์ รายงานถึงภาวะโลกร้อนที่เกิดจากฝีมือมนุษย์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนสะท้อนได้ว่าโลกกำลังเข้าสู่ภาวะโลกร้อนในระยะยาว

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

 

ทั้งหมดส่งสัญญาณให้ António Guterres เลขาธิการสหประชาชาติ ออกมาเรียกร้องให้ทุกประเทศแบนโฆษณาจากธุรกิจเชื้อเพลิงฟอสซิล และสั่งห้ามไม่ให้มีการโฆษณา ทำให้เหมือนกับกฎหมายสั่งห้ามการโฆษณายาสูบ เพราะเป็นภัยคุกคามต่อสุขภาพ ตอนนี้ก็ควรนำไปใช้กับเชื้อเพลิงฟอสซิลให้เร็วที่สุด เพื่อช่วยเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของโลกให้ดีขึ้น 

 

พร้อมกล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาอุตสาหกรรมน้ำมัน ก๊าซ และถ่านหิน ได้ทำแคมเปญโฆษณาอย่างไร้ยางอาย ถึงขั้นเรียกอุตสาหกรรมผลิตเชื้อเพลิงฟอสซิลว่า ‘เจ้าพ่อที่สร้างความโกลาหลให้กับสภาพอากาศ’ ที่อยู่มานานหลายทศวรรษ

 

เรียกได้ว่าแสดงออกมาในมุมของการประณามหรือสาปแช่งอุตสาหกรรมที่เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดมลพิษทางอากาศ แม้ตอนนี้หลายๆ ประเทศพยายามรณรงค์ให้หยุดใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลไปแล้ว

 

ก่อนหน้านี้สหภาพยุโรปเพิ่งจะประกาศกฎหมายใหม่เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว แต่ยังไม่มีการบังคับให้ทำตามคำเรียกร้องของเลขาธิการสหประชาชาติแต่อย่างใด แน่นอนว่าในมุมของนักรณรงค์สิ่งแวดล้อมอาจมองว่าพยายามส่งเสริมบริษัทถ่านหิน น้ำมัน และก๊าซ จนเกิดประเด็นถกเถียงตามมาหลายด้าน  

 

เช่นเดียวกับงานเทศกาลหนังสือ Hay และ Edinburgh เพิ่งหยุดรับการสนับสนุนจากบริษัทการลงทุน Baillie Gifford หลังมีการโต้เถียงถึงความเกี่ยวข้องกันกับบริษัทเชื้อเพลิงฟอสซิล 

 

รวมไปถึงการจับตาดูมหกรรมกีฬาที่เรียกว่าเป็นพื้นที่ที่อุตสาหกรรมผลิตเชื้อเพลิงฟอสซิลใช้โฆษณามากที่สุด จนมีความสัมพันธ์กับนักกีฬาอย่างแน่นแฟ้น

 

ด้าน Carlo Buontempo ผู้อำนวยการของ Copernicus กล่าวต่อว่า โลกร้อนได้ทำลายสถิติไปแล้ว นั่นหมายความว่าอุณหภูมิเฉลี่ยในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ 1.63 องศาเซลเซียส สูงกว่าในช่วงปลายปี 1800 แน่นอนว่าเรากำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน และปัจจุบันใน 200 ประเทศทั่วโลกเร่งทำให้อุณหภูมิเพิ่มขึ้นต่ำกว่า 1.5 องศาเซลเซียส เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่เลวร้ายที่สุด

 

ทั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์ด้านสภาพอากาศประเมินว่า ตั้งแต่ต้นปี 2024 โลกสามารถปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) ได้อีกประมาณ 2 แสนล้านตันเท่านั้น สำหรับโอกาสในการรักษาภาวะโลกร้อนให้ได้ 1.5 องศาเซลเซียส มีเพียง 50% เท่านั้น

 

อย่างไรก็ตาม Megan Bloomgren รองประธานอาวุโสฝ่ายสื่อสารของมูลนิธิปิโตรเลียมอเมริกัน ออกมาแก้ตัวว่า อุตสาหกรรมของเราเน้นผลิตพลังงานที่มีประสิทธิภาพและราคาไม่สูง แต่ยังเจอความท้าทายด้านสภาพอากาศ และข้อกล่าวหาต่างๆ ไม่เป็นความจริง 

 

ภาพ: Tatiana Grozetskaya / Shutterstock

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

X
Close Advertising