หลังประสบปัญหา ‘นักท่องเที่ยวล้นเมือง’ (Overtourism) เฉกเช่นจุดหมายปลายทางอื่นๆ ทั่วโลก ตอนนี้รัฐบาลท้องถิ่นบาหลีกำลังพิจารณาร่างกฎหมายเก็บภาษีนักท่องเที่ยวเพื่อใช้บำรุงรักษาเกาะ
The Jakarta Post สื่อท้องถิ่นอินโดนีเซีย รายงานว่ารัฐบาลท้องถิ่นบาหลีเริ่มพิจารณาเก็บภาษีตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว โดยกำหนดเก็บเป็นจำนวน 10 เหรียญสหรัฐ หรือราว 320 บาท สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางออกนอกประเทศ ซึ่งรายได้ส่วนนี้จะถูกนำไปเข้าหน่วยงานใหม่ที่ก่อตั้งเพื่อใช้จัดสรรงบประมาณไว้บำรุงเกาะโดยเฉพาะ
จากตัวเลขล่าสุดของรัฐบาลอินโดนีเซียระบุว่า ในปี 2017 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวบาหลีมากกว่า 5.7 ล้านคน และคาดว่าจะมากกว่า 6 ล้านคนในปี 2018 ในแต่ละวันมีขยะมากถึง 3,800 ตัน และมีเพียง 60% เท่านั้นที่ถูกกำจัด
บาหลีไม่ใช่จุดหมายปลายทางแรกที่เก็บภาษีท่องเที่ยวกับนักท่องเที่ยวเนื่องจากปัญหานักท่องเที่ยวล้นเมือง ก่อนหน้านี้มีภาษีการเดินทางของญี่ปุ่นที่เพิ่งบังคับใช้เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี ก็เก็บภาษีจำนวน 11 เหรียญสหรัฐสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าเมืองทางเรือและเยี่ยมชมแบบ One-day Trip เมืองในยุโรปอย่างดูบรอฟนิกและบาร์เซโลนาก็เก็บภาษีในลักษณะคล้ายคลึงกัน
อย่างไรก็ดี ก่อนมีการเสนอร่างภาษีท่องเที่ยวเพื่อพิจารณา มหาวิทยาลัยอูดายานา (Udayana University) ได้ทำการสำรวจเรื่องความพึงพอใจในการจ่ายภาษีของนักท่องเที่ยว และมากกว่า 60% ตอบว่ายินดีที่จะจ่ายเพื่อใช้บำรุงรักษาเกาะ
อ่านเรื่อง หรือเราควรจะหยุดเที่ยว? ไขปัญหาภาวะ ‘นักท่องเที่ยวล้นเมือง’ ทั่วทุกมุมโลกได้ที่นี่
Photo: Shutterstock
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: