×

B2S เป่าเทียนครบรอบ 24 ปีที่ ‘โต มา ด้วย กัน’ กับคนไทย และก้าวต่อไปสู่ ‘Passion Store’ พื้นที่ส่งเสริมการเรียนรู้และความคิดสร้างสรรค์ [ADVERTORIAL]

โดย THE STANDARD TEAM
04.11.2024
  • LOADING...
B2S

อาจพูดได้ว่า B2S (บีทูเอส) ธุรกิจในเครือเซ็นทรัล รีเทล คือร้านจำหน่ายหนังสือและเครื่องเขียนใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีสินค้าที่ตอบโจทย์การเติบโตของลูกค้าในทุกช่วงอายุ จึงเป็นมากกว่าร้านหนังสือ แต่เป็นแหล่งรวมความสุข พื้นที่สร้างแรงบันดาลใจและการเรียนรู้ ที่เติบโตเคียงข้างคนไทยมาโดยตลอด

 

 

เนื่องในโอกาสครบรอบ 24 ปี จิตรลดา หาญวรวงศ์ชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มธุรกิจบีทูเอสและออฟฟิศเมท ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เปิดโอกาสให้ THE STANDARD พูดคุยเจาะลึกในหลายแง่มุม ตั้งแต่แนวคิดการทำธุรกิจให้เติบโตไปพร้อมกับลูกค้าทุกช่วงวัย บทเรียนที่ได้ในช่วงวิกฤต กิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจใน B2S Club ที่หลายคนไม่เคยรู้ ไปจนถึงเป้าหมายต่อไปในขวบปีที่ 25 ที่จิตรลดาบอกว่า “เรามุ่งที่จะ ‘ส่งเสริมการเรียนรู้และความคิดสร้างสรรค์’ (Inspire Learning & Creativity) เพื่อขับเคลื่อนบีทูเอสจากร้านหนังสือและเครื่องเขียนสู่ ‘Passion Store’ พื้นที่สร้างประสบการณ์ที่มากกว่าการช้อปปิ้ง แต่จะช่วยเพิ่มศักยภาพด้านต่างๆ ให้กับลูกค้าไปพร้อมกับสร้างแรงบันดาลใจและต่อยอดแพสชันที่ต่างกัน

 

“ตลอด 24 ปี เราไม่หยุดที่จะเรียนรู้และพัฒนา เพื่อปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมลูกค้า ไม่เฉพาะการคัดสรรหนังสือ แต่ยังมีสินค้าที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ถ้ายังจำกันได้ยุคแรกเราเป็นร้านที่มีมุมขายซีดีและให้ลองฟัง มี Talking Dict จำหน่าย สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจากการที่เราปรับตัวไปพร้อมกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค และเป็นคีย์สำคัญที่ทำให้บีทูเอสเติบโตไปด้วยกันกับพวกเขา”

 

ข้อได้เปรียบของการดูแลลูกค้าที่มีความหลากหลายทำให้บีทูเอสต้องเรียนรู้และปรับตัวตลอดเวลา “การที่เราสามารถคัดสรรสินค้าที่ตอบโจทย์การเติบโตของลูกค้าในทุกช่วงอายุได้นั้นเกิดจากการเรียนรู้ลูกค้าในทุกด้าน ต้องชำนาญในหลายเรื่อง และต้องศึกษาทุกตลาด”

 

จิตรลดาบอกว่า ในอดีตการทำความเข้าใจพฤติกรรมลูกค้าดูได้จากพฤติกรรมการซื้อ การแสดงความคิดเห็น กิจกรรมการตลาด แต่ปัจจุบันมีการนำ Customer Insight จาก The 1 ซึ่งเป็น Loyalty Program ของเซ็นทรัลกรุ๊ป รวมถึง Social Listening มาใช้วิเคราะห์ข้อมูลและหาแนวทางปรับกลยุทธ์ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้า

 

“การมี Loyalty Platform ที่แข็งแกร่งอย่าง The 1 ช่วยให้บีทูเอสมีระบบฐานข้อมูลลูกค้าที่ดีและปลอดภัย ปัจจุบันมีกลุ่มลูกค้า The 1 ที่ช้อปสินค้าที่บีทูเอสมากกว่า 3,800,000 ราย และในปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตของสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 13% โดยพบว่าลูกค้าที่เป็นสมาชิกมียอดเฉลี่ยการใช้จ่ายที่บีทูเอสสูงกว่าลูกค้าทั่วไปถึง 66% ที่สำคัญคือช่วยให้เข้าใจลูกค้าได้ดียิ่งขึ้นว่าลูกค้าเราชอบอะไร ซื้ออะไร หรือเขาอยู่ใน Stage of Life ไหน เช่น มีลูกอายุเท่าไรก็ดูได้จากหนังสือที่ซื้อหรือกิจกรรมที่เข้าร่วม ทำให้เราสามารถมอบสิทธิประโยชน์ที่ตรงใจและตอบโจทย์”

 

B2S

 

แต่ความท้าทายคือทำอย่างไรถึงจะตอบโจทย์ลูกค้าทุกเจเนอเรชันที่มีความต้องการและไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างได้

 

“อย่างการสร้างความสุขให้กับนักอ่านที่มีความชอบต่างกัน หรือคนต่างวัยก็มีความสนใจที่ไม่เหมือนกัน พอเราปักธงว่าจะทำให้บีทูเอสเป็น Learning Destination, Kids Destination และ Art Destination มีสินค้าหลากหลาย ครบครัน ทันสมัย สิ่งที่ตามมาคือเราต้องให้ความสำคัญกับการคัดสรรสินค้ามากขึ้น เช่น กลุ่มลูกค้านักเรียน นักศึกษา เราจะคัดหนังสือเตรียมสอบที่จะช่วยให้เขาเดินทางไปถึงจุดหมายในทุกสเต็ปการเรียน หรือมุมหนังสือสำหรับเด็ก เราเป็นพาร์ตเนอร์กับ Asia Books ตอบโจทย์เด็กอินเตอร์และเด็กที่เรียนสองภาษา บางช่วงเราจัดมุมตามธีม เช่น วันฮาโลวีน วันวาเลนไทน์ หรือหนังสือฮีลใจ”

 

ความแตกต่างของผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่ทำให้กว่า 130 สาขาทั่วประเทศจะต้องคัดสรรหนังสือและสินค้าที่ต่างกัน “บางสาขาจะมีหนังสือเรียนจำหน่ายมากหน่อย บางสาขาเน้นเรื่องการดูแลสุขภาพ บางสาขานิยายจะทำยอดขายได้ดี และถ้าพื้นที่ไหนมีชาวต่างชาติอยู่เยอะก็จะเน้นขายหนังสือภาษาอังกฤษ ขณะเดียวกันก็มี e-Reader จำหน่าย เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าบางกลุ่ม”

 

 

และบีทูเอสไม่ได้เป็นเพียงร้านหนังสือ แต่มีสินค้าอื่นๆ จำหน่าย เป็นที่มาของการปรับโครงสร้างโซนต่างๆ ในรูปแบบ Shop in Shop ให้มีความไดนามิกมากขึ้น และยังสอดคล้องไปกับทิศทางการปรับตัวในปีที่ 25 สู่การเป็นแหล่งรวมความสุขและแรงบันดาลใจของทุกคน (Center of Passion Community, Center of Happiness)

 

“เราพัฒนารูปแบบร้านบีทูเอสด้วยกลยุทธ์ Shop in Shop จับมือกับแบรนด์ชั้นนำมาช่วยเติมเต็มความต้องการของลูกค้า นำเสนอสินค้าที่ครบครัน สร้างประสบการณ์ที่ดี ซึ่งการเลือกพาร์ตเนอร์เราดูความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก อย่าง Asia Books จะเข้ามาช่วยตอบโจทย์เทรนด์การอ่านหนังสือต่างประเทศ หรือ Yaakz!!! SHOP ทำให้เรากลายเป็นแหล่งรวมการ์ตูนออกใหม่ที่วางจำหน่ายเร็วที่สุด หรือ Ergotrend ร้านเฟอร์นิเจอร์เพื่อสุขภาพที่มีสินค้าตอบโจทย์วัยเรียนและวัยทำงาน”

 

นอกจากนี้ยังมี Board Game Café ศูนย์รวมคนเล่นบอร์ดเกมและรวมบอร์ดเกมจากทุกมุมโลก, Pokémon PLAYLAB แห่งแรกในไทยที่รวมสินค้าคอลเล็กชันโปเกมอนสุดพรีเมียมให้เลือกช้อปก่อนใคร, Bigknit’s Community พื้นที่รวมตัวสำหรับคนรักงานถักที่มาพร้อมเวิร์กช็อปดีๆ และอุปกรณ์มากมาย รวมไปถึงช็อปอื่นๆ สำหรับคนรักศิลปะอย่าง HHK shop, DG Art shop และ Caran d’Ache Corner

 

“ปัจจุบันเราพยายามจะมีให้ครบทุก Category ในเกือบทุกสาขา เพียงแต่พื้นที่ที่ต่างกันทำให้สัดส่วนของสินค้าที่วางจำหน่ายต่างกัน การเลือกว่าสาขาไหนจะออกแบบ Shop in Shop ในรูปแบบไหน มีโซนอะไรบ้าง เรายึด Customer Centric เป็นโจทย์หลัก โดยใช้ Customer Insight จาก The 1 และ Data ที่ได้จากเจ้าของพื้นที่ว่ากลุ่มลูกค้าเป็นใคร ช่วงอายุเท่าไร แล้วจึงนำ Data มาประมวลว่าโซนนั้นมีลูกค้ากลุ่มไหนบ้างและสัดส่วนเท่าไร เพื่อคัดสรรสินค้าให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่สุด หลังจากวางสินค้าแล้วเรายังดู Data จาก The 1 ต่อด้วยว่าลูกค้าที่มาซื้อคือใคร สินค้าอะไรขายดี เพื่อหาโมเดลว่าสินค้าแบบไหนตอบโจทย์ลูกค้า”

 

โดยบีทูเอสเพิ่งปรับโฉมสาขาเมกาบางนาให้เป็น Passion Store ที่มีสินค้าหลากหลาย ครบครัน ทันสมัย และมีแผนจะปรับโฉมสาขาอื่นๆ เช่น เซ็นทรัลลาดพร้าว, เซ็นทรัลพระราม 9, เซ็นทรัลเวิลด์

 

 

“เราพยายามเชื่อมโยงบีทูเอสกับลูกค้าด้วยกิจกรรม เพื่อให้ความผูกพันของเรากับลูกค้าแข็งแรงและมั่นคงยิ่งขึ้น” จิตรลดาเล่าว่า ที่ผ่านมาบีทูเอสจัดกิจกรรมที่หลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่ต่างกัน และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของคอมมูนิตี้ที่ลูกค้าอยู่ ภายใต้ ‘B2S Club’

 

“B2S Club เป็นคอมมูนิตี้ที่เกิดขึ้นจากความสนใจที่หลากหลายของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ การเรียน ศิลปะ ครอบครัว นำมาสู่การส่งมอบประสบการณ์ใหม่ๆ สร้างความสัมพันธ์ระหว่างเรากับลูกค้าผ่านกิจกรรมต่างๆ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ไม่ว่าใครก็เป็นสมาชิกได้ฟรี ไม่จำเป็นต้องซื้อสินค้าจากร้านบีทูเอสก็มาร่วมทำกิจกรรมสนุกๆ จาก B2S และพันธมิตรอีกมากกว่า 20 ราย นอกจากนี้ B2S Club ยังเข้าไปทำกิจกรรมเพื่อการเรียนรู้ถึงในโรงเรียนหรือพื้นที่อื่นๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดอย่างสม่ำเสมอ ภายในปี 2567 คาดว่าจะมีสมาชิก B2S Club มากกว่า 450,000 คน”

 

ปัจจุบันคอมมูนิตี้หลักๆ ภายใน B2S Club ได้แก่ ‘คอมมูนิตี้รักการอ่าน’ นอกจากจะมีหนังสือหลากหลายให้เลือก ยังมุ่งส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนรักการอ่านทั้งอ่านเรียนและอ่านเล่น ด้วยการจับมือกับทุกภาคส่วนขับเคลื่อนการอ่านผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น เวทีเสวนาหนังสือ, กิจกรรม Book Fansign หนังสือดังที่นำไปสู่การทำซีรีส์และภาพยนตร์ที่เป็นกระแสแห่งปี, การประกวดเล่านิทานเด็ก ‘หนูน้อยร้อยเรื่องเล่า’

 

“อย่างกิจกรรม ‘หนูน้อยรักการอ่าน’ เป็นกิจกรรมที่เราจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ใน 3 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ และขอนแก่น ทำงานร่วมกับสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด, มูลนิธิหนึ่งอ่านล้านตื่น, สำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์ และสำนักพิมพ์ในเครือไอดีซี ให้นักเรียนเข้าร่วมแข่งขันอ่านหนังสือผ่านห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ B2S Club ซึ่งสามารถเข้าไปอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา เพื่อเปิดโลกการอ่านนอกห้องเรียน พร้อมมอบห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ให้คุณครูและนักเรียนได้อ่านฟรี! ซึ่งในเดือนพฤศจิกายนนี้เราจะจัดกิจกรรมหนูน้อยรักการอ่าน ครั้งที่ 4 ที่จังหวัดสงขลา”

 

B2S

 

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมส่งเสริมการอ่านสำหรับบุคคลทั่วไปอย่าง B2S Book Awards ที่เพิ่งจัดในปีนี้เป็นปีแรก เพื่อมอบรางวัลหนังสือดีเด่นจากสำนักพิมพ์ต่างๆ รวมถึงรางวัลผู้มีอิทธิพลบนโซเชียลมีเดียในหลากหลายสไตล์การนำเสนอทั้งสื่อและคอมมูนิตี้ ที่มีส่วนผลักดัน ส่งเสริม และเผยแพร่เรื่องราวเกี่ยวกับหนังสือทั้งทางตรงและทางอ้อม ทำให้วงการหนังสือเติบโตอย่างกว้างขวาง

 

‘คอมมูนิตี้สร้างแหล่งการเรียนรู้’ เป็นอีกหนึ่งความมุ่งมั่นของบีทูเอสที่จะเป็น Learning Destination ทั้งในและนอกโรงเรียนผ่านการจัดติวเตอร์โครงการ B2S SMART TO U (University) ให้กับนักเรียนในต่างจังหวัดหัวเมืองใหญ่ รวมถึงส่งเสริมการเรียนรู้จากราก โดยร่วมมือกับ Inskru (อินสครู) คอมมูนิตี้สำหรับคุณครู จัดกิจกรรม ‘ครูบ้า กล้าลอง’ เปิดพื้นที่ให้ครูได้นำเสนอความคิดสร้างสรรค์ ต่อยอดการสอน ยกระดับ และพัฒนาศักยภาพครู

 

 

‘คอมมูนิตี้คนรักเกม’ นอกจากจะเป็นแห่งแรกของไทยที่เปิด Pokémon PLAYLAB ที่ครบครันที่สุด ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด 6 แห่ง ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างคอมมูนิตี้โปเกมอนเทรดดิ้งการ์ดเกมด้วย LINE OpenChat ที่มีจำนวนเพื่อนมากกว่า 1,400 คน ยังต่อยอดสนับสนุนเด็กไทยสู่การแข่งขันโปเกมอนการ์ดบนเวทีโลกอย่างต่อเนื่องตลอด 3 ปี

 

“นอกจากนี้ เรายังจับมือกับพาร์ตเนอร์จัดแข่งขันบอร์ดเกมในระดับภูมิภาค และจัดประกวดออกแบบบอร์ดเกมโดยฝีมือคนไทย เพื่อสร้างโอกาสในการได้จัดจำหน่ายทั้งในร้านและส่งออกไปยังต่างประเทศ”

 

 

และสุดท้ายคือ ‘คอมมูนิตี้สร้างแรงบันดาลใจด้านศิลปะ’ เพื่อเป็น Art Destination สำหรับลูกค้า บีทูเอสจึงคัดสรรอุปกรณ์ศิลปะและงานคราฟต์จากแบรนด์ชั้นนำมาวางจำหน่าย พร้อมเปิดพื้นที่ในร้านให้เป็นพื้นที่แสดงผลงานด้านศิลปะ สนับสนุนการสร้างงานศิลปะของศิลปินและนักศึกษา

 

“ที่ผ่านมาเราจัดประกวดออกแบบกระดาษห่อของขวัญ Gift Wrapping Design Contest โดยจะนำผลงานของผู้ชนะมาผลิตเป็นกระดาษห่อของขวัญ, B2S Gift Card, ตกแต่งดิสเพลย์ร้านบีทูเอส รวมไปถึงจับมือกับแกลเลอรีออนไลน์ เพื่อเพิ่มโอกาสการแสดงผลงานให้ออกไปนอกร้าน นอกจากนี้ เรายังมีแผนที่จะร่วมงานกับศิลปินและคาแรกเตอร์ต่างๆ เพื่อสร้างความแตกต่างและสร้างแรงบันดาลใจให้กับลูกค้า”

 

นอกจากกิจกรรมต่างๆ ข้างต้น บีทีเอสยังมีกลยุทธ์สร้างความผูกพันกับลูกค้าด้วยการทำตลาดแบบ Omni-Channel เชื่อมโยงประสบการณ์การช้อปปิ้งผ่าน The 1 และโปรโมชันที่เหมาะสมในแต่ละช่องทาง เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมการซื้อที่แตกต่าง ให้ลูกค้าช้อปสะดวกได้ทุกที่ทุกเวลาอย่างไร้รอยต่อ

 

B2S

 

“ปัจจุบันเรามีสาขากว่า 130 สาขา พร้อมด้วยช่องทางออนไลน์หลายแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ https://www.b2s.co.th/, Facebook: B2S Thailand, LINE: b2sthailand, LINE Chat & Shop, Shopee: B2S Official Shop, Lazada: B2S Official และ TikTok: b2s_thailand ทั้งหมดนี้ก็เพื่อมอบประสบการณ์การช้อปที่เหนือกว่า ลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางไหนก็ได้โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางมายังสาขา หรือถ้ามาหน้าร้านแล้วสินค้าที่ต้องการอยู่สาขาอื่นก็มีบริการจัดส่งถึงบ้าน ในทางกลับกันจะสั่งผ่านออนไลน์แล้วมารับที่สาขาใกล้บ้านก็ได้ ตอนนี้เรากำลังพัฒนาเว็บไซต์ เพื่อให้ประสบการณ์การซื้อสินค้าของลูกค้าดียิ่งขึ้น”

 

จิตรลดามองว่าคู่แข่งที่ท้าทายไม่ใช่ผู้เล่นในอุตสาหกรรมเดียวกัน แต่เป็นร้านค้าออนไลน์ที่เล่นกันในสงครามราคา “เราเชื่อมั่นในจุดแข็งเรื่องการคัดสรรสินค้าคุณภาพจากพาร์ตเนอร์ที่เชื่อถือได้ มีการรับประกัน รวมถึงการมีพนักงานที่พร้อมให้บริการ อย่างก็ตาม การบริการยังเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนไทย ไม่ว่าจะสั่งสินค้าออนไลน์หรือซื้อหน้าร้านก็จะมีพนักงานคอยให้คำแนะนำอยู่เสมอ”


จิตรลดายังบอกด้วยว่า การตลาดแบบ Omni-Channel จะไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่เห็นหากธุรกิจไม่เจอวิกฤตโรคโควิด-19 “เนื่องจากเราทำธุรกิจค้าปลีกและร้านค้าเกือบทั้งหมดอยู่ในห้าง ช่วงวิกฤตโรคโควิด-19 กระทบกับธุรกิจโดยตรง เพราะต้องปิดร้าน จุดนั้นเองทำให้เรามองเห็นจุดบอดของธุรกิจที่พึ่งช่องทางการขายเดียว แต่นั่นก็กลายเป็นจุดเรียนรู้ เป็นบทเรียนที่ต้องหันมาจริงจังกับการตลาดแบบ Omni-Channel มากกว่านี้ เพิ่มช่องทางการขายทางออนไลน์เพิ่มขึ้น พร้อมกับการพัฒนาให้หน้าร้านสามารถขายสินค้าที่มากกว่าที่ร้านมี”

 

ไม่เฉพาะการปรับตัวด้านธุรกิจ แต่ยังได้ยกเครื่องคนในองค์กร ปลูกฝังเรื่องการปรับตัวและการคิดในมุมมองของลูกค้า สร้างพนักงานที่มี Growth Mindset คิดเสมอว่าทุกอย่างเรียนรู้ได้และไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ สังเกตทุกความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจที่ต้องปรับเปลี่ยนไปกับการเติบโตและไลฟ์สไตล์ของผู้คน ฉะนั้นเมื่อไรที่ไลฟ์สไตล์เปลี่ยน พฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยน เราก็ต้องเปลี่ยนตาม”

 

 

เมื่อถามถึงแนวทางต่อไปในวันที่บีทูเอสก้าวย่างสู่ปีที่ 25 จิตรลดาบอกว่า สิ่งที่ทำได้ทันทีคือการนำความสำเร็จมาต่อยอดให้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการขยายช่องการจำหน่ายสินค้า เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงง่ายและสะดวกที่สุด, การพัฒนาระบบที่ช่วยให้ทุกร้านของบีทูเอสสั่งสินค้าที่นอกเหนือจากในร้านได้ผ่านการสั่งซื้อกับพนักงานขายหน้าร้าน, การใช้ Loyalty Platform มาช่วยให้การบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าเป็นไปอย่างต่อเนื่อง

 

“สิ่งที่เราเน้นย้ำอย่างมากในปีนี้คือบีทูเอสจะเป็นแหล่งรวมความสุขและแรงบันดาลใจของทุกคน เราจึงต้องปรับเปลี่ยนตัวเองให้เป็นผู้นำด้านกิจกรรมและพัฒนาคอนเทนต์ที่สร้างสรรค์ผ่าน B2S Club รวมไปถึงการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน เพื่อสร้างความยั่งยืนด้านการส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านโรงเรียนในชุมชนที่สาขาไปเปิดร่วมกับพันธมิตรในหลากหลายธุรกิจ ทั้งกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน ทั้งในและนอกโรงเรียน”

 

นอกเหนือจากโปรโมชันดีๆ ที่มอบให้กับลูกค้า เนื่องในโอกาส B2S ครบรอบ 24 ปี จนถึงสิ้นปี 2567 ยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นงาน B2S ART & GIFT Festival ในวันที่ 8-17 พ.ย.67 B2S เซ็นทรัลเวิลด์ชั้น 4 และวันที่ 6-15 ธ.ค. 67 B2Sเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ชั้น 5 เพื่อให้การมอบของขวัญของลูกค้าพิเศษกว่าเดิม

 

“เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมนี้เป็นช่วงของเทศกาลแห่งความสุข เทศกาลของขวัญ เพื่อตอกย้ำความเป็น Art Destination เราจึงจัดงานอีเวนต์ที่รวมทั้งงานอาร์ตและงานคราฟต์ไว้ด้วยกัน มาทำของขวัญมอบให้คนพิเศษด้วยตัวเอง หรือมาเลือกซื้อของขวัญภายในงาน โดยจะครีเอตให้เป็น Art Market ให้ร้านค้าพาร์ตเนอร์มาร่วมออกร้าน และยังเป็นการเปิดพื้นที่ให้ครีเอเตอร์ไทยได้มาแสดงความสามารถ สำหรับโปรโมชันปลายปีก็ยังจัดเต็มแน่นอน”

 

ไม่ว่าปีนี้หรือปีต่อๆ ไป เวลาพูดถึงบีทูเอสเราอยากให้เขานึกถึงพื้นที่ส่งเสริมการเรียนรู้และความคิดสร้างสรรค์ ที่ไม่ได้มาแค่ซื้อของ แต่มาเพื่อเติมแรงบันดาลใจและมีความสุขไปด้วยกัน” จิตรลดากล่าวทิ้งท้าย

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising