บมจ. เพาเวอร์ ลุยขยายธุรกิจพลังงานทดแทน บุกอิตาลีประกาศเข้าซื้อกิจการ LT06 S.r.l. เจ้าของโรงไฟฟ้าโซลาร์ขนาด 80.9 เมกะวัตต์ มูลค่า 10,000 ยูโร
ฮาราลด์ ลิงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2566 บริษัท RES Company Sicilia S.r.l. ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ได้เข้าซื้อหุ้นทั้งหมดในบริษัท LT06 S.r.l. ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นภายใต้กฎหมายของสาธารณรัฐอิตาลี จากบริษัท LT Service S.r.l. ซี่ง ไม่ใช่บุคคลที่เกี่ยวโยงกัน โดยมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 10,000 ยูโร
LT06 S.r.l. เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในสาธารณรัฐอิตาลี และมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินและตั้งบนระบบหมุนตามดวงอาทิตย์ (Tracking System) ที่อยู่ระหว่างพัฒนาชื่อ ‘Ortanova’ มีกำลังการผลิต 80.9 เมกะวัตต์ (MWp) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของสาธารณรัฐอิตาลี
ทั้งนี้เมื่อรวมโครงการดังกล่าวแล้ว บี.กริม เพาเวอร์ จะมีโครงการโรงไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนรวมขนาด 250-300 เมกะวัตต์ ที่อยู่ระหว่างพัฒนาในสาธารณรัฐอิตาลี โดยบริษัทยังคงมุ่งมั่นในการหาโอกาสพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนในภูมิภาคยุโรปอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ GreenLeap-Global and Green ของบริษัท
การขยายการลงทุนในธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานทดแทนในครั้งนี้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ GreenLeap-Global and Green ที่มุ่งยกระดับความร่วมมือทางธุรกิจระดับโลกกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ
ในปีนี้ บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ ได้ประกาศการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนภายใต้บริษัทลูกและบริษัทร่วมทุนอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ การได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ผลิตและขายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนให้กับรัฐบาลไทยรวม 339.3 เมกะวัตต์, การลงทุนเพิ่มเติมในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในมาเลเซียรวม 90 เมกะวัตต์ (MWdc) และการเข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 98.99 เมกะวัตต์ ในสาธารณรัฐเกาหลี
ด้านทิศทางการดำเนินธุรกิจของ บี.กริม เพาเวอร์ มุ่งเน้นขยายการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมีโครงการโรงไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนที่อยู่ระหว่างก่อสร้างและพัฒนาโครงการในหลายประเทศทั้งเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น เวียดนาม ฟิลิปปินส์ กัมพูชา กรีซ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และซาอุดีอาระเบีย รวมทั้งประเทศไทย
การขยายการลงทุนในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการมุ่งหน้าสู่เป้าหมายเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนมากกว่า 50% เพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนของราคาก๊าซธรรมชาติในระยะยาวและยังเป็นการขยายความร่วมมือทางธุรกิจเพื่อสร้างพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อการต่อยอดและสร้างโอกาสทางธุรกิจซึ่งถือเป็นกลยุทธ์สำคัญในการดำเนินธุรกิจเสมอมา โดยมุ่งสู่เป้าหมายการเติบโตกำลังผลิตไฟฟ้า 10,000 เมกะวัตต์จากโครงการที่เปิดดำเนินการแล้วและอยู่ระหว่างพัฒนาในปี 2573 และการเป็นองค์กรที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net-Zero Carbon Emissions ภายใน ค.ศ. 2050 หรือ พ.ศ. 2593