หลังจากที่ปลายเดือนตุลาคม ปี 2020 วัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ ได้ออกมาเปิดเผยว่า ได้เตรียมเข้าซื้อกิจการโรงแรมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้บริหารต่อไปไม่ไหว โดยมีกว่า 100 โครงการเข้ามาเสนอขาย มีตั้งแต่หลักร้อยล้านบาทไปจนถึงหมื่นล้านบาท
ก่อนหน้านี้วัลลภายืนยันกับนักลงทุนถึงการเติบโตสูงกว่าแบบปกติผ่านกลยุทธ์การซื้อกิจการ ซึ่ง AWC ได้ตั้งงบประมาณสำหรับการซื้อกิจการไว้ที่ 5 หมื่นล้านบาทในระยะยาว เป้าหมายการซื้อกิจการคือสินทรัพย์ดำเนินงานในประเทศไทยเท่านั้น, ที่ดินที่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์, ความหลากหลายทางภูมิศาสตร์และราคาที่ถูกมาก (มีส่วนลดที่น่าสนใจถึง 50% หรืออาจมากกว่านั้น)
ล่าสุด AWC ได้ปิดดีลได้ 1 โรงแรมแล้ว โดยมีการแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ได้เข้าซื้อโครงการโรงแรมซิกมา รีสอร์ท จอมเทียน พัทยา ซึ่งเป็นโรงแรมที่มีอาคารสูง 14 ชั้น อยู่ติดถนนเลียบหาดจอมเทียน ประกอบด้วยห้องพักจำนวน 287 ห้อง ซึ่งเป็นการซื้อสินทรัพย์จากบริษัท เอเพ็กซ์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
โดยใช้วงเงินทั้งสิ้นประมาณ 550 ล้านบาท และต้องใช้งบประมาณเพิ่มเติมเพื่อปรับปรุงโครงการจำนวน 1,288 ล้านบาท รวมเป็นมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้น 1,838 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีการแจ้งด้วยว่า AWC ได้เข้าลงทุนในบริษัท ทีซีซี เวิ้งนาครเขษม จํากัด รวมมูลค่าประมาณ 8,265 ล้านบาท และต้องใช้เงินเพื่อลงทุนสําหรับการพัฒนาโครงการจํานวนประมาณ 8,247.8 ล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 16,595.5 ล้านบาท
จะเปิดดําเนินการโครงการมิกซ์ยูสในส่วนของที่จอดรถประมาณไตรมาสที่ 3 ปี 2569 พื้นที่รีเทลและโรงแรมประมาณไตรมาสที่ 1 ปี 2570 ห้องชุดบริหารโดยโรงแรม ห้องชุดปล่อยเช่าร่วม และห้องชุดโซโห ประมาณไตรมาสที่ 3 ปี 2570
นอกจากนี้ AWC ได้แจ้งผลประกอบการปี 2563 พบว่า มีรายได้จากการดำเนินงานรวม 6,133 ล้านบาท ลดลง 53.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยผลประกอบการประจำปี ขาดทุน 1,881 ล้านบาทด้วยกัน
ณ สิ้นปี 2563 AWC มีสินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้นเป็น 125,696 ล้านบาท โดยเติบโตจาก 99,549 ล้านบาทในปี 2562
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล