แม้จะเป็นมาตรการที่ดู ‘รุนแรง’ ไปสักหน่อย แต่เพื่อปกป้อง ‘อะโวคาโด’ ที่ถูกยกย่องให้เป็น ‘ทองคำสีเขียว’ มาตรการตั้งแต่รั้วลวดหนามไปจนถึงกล้องอินฟราเรด ทีมรักษาความปลอดภัย และสุนัขติดตาม จึงเข้ามาเพื่อป้องกันการโจรกรรมที่มักจะเกิดขึ้นในเวลากลางคืน
Mark Alcock ชาวแอฟริกาใต้ผู้มีอาชีพปลูกอะโวคาโดขาย ได้ติดตั้งกล้องอินฟราเรดที่จับการเคลื่อนไหวกระจายอยู่ทั่วฟาร์มขนาด 170 เอเคอร์ ซึ่งตัวกล้องจะส่งการแจ้งเตือนผู้บุกรุกไปยังโทรศัพท์ของเขา โดยทั่วไปแล้วเสียงบี๊บจะปลุกเขาอย่างน้อย 1 ครั้งต่อชั่วโมงทุกคืน แต่ส่วนใหญ่แล้วมักเป็นหมูป่า เม่น หรือลิงบาบูน “แต่มีโอกาสเสมอที่จะมีคนมาขโมย” เขากล่าว
กล้องอินฟราเรดเป็นหนึ่งในมาตรการป้องกันที่มาพร้อมกับทีมที่พร้อมจะตอบสนองอย่างรวดเร็ว ด้วยเป็นอดีตทหารซึ่งจะมาพร้อมกับผู้เชี่ยวชาญที่มีสุนัขติดตามมาด้วย และเช่นเดียวกับ Mark Alcock ทางด้าน Howard Blight ผู้ซึ่งปลูกอะโวคาโด ถั่วแมคาเดเมีย และแก้วมังกรในฟาร์มเกือบ 350 เอเคอร์ ก็ปกป้องผลผลิตของเขาด้วยรั้วไฟฟ้าที่สูงเกิน 7 ฟุตและมีลวดหนาม กับยามลาดตระเวนฟาร์มวันละ 24 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
The Wall Street Journal รายงานโดยอ้างอิง Research and Markets ว่า ตลาดอะโวคาโดทั่วโลกคาดว่าจะเติบโตจากประมาณ 1.22 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 3.8 แสนล้านบาทในปี 2020 เป็น 1.79 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 5.6 แสนล้านบาทในปี 2025
โดยในประเทศแอฟริกาใต้ซึ่งเป็นผู้ส่งออกอะโวคาโดรายใหญ่ที่สุดอันดับ 6 ของโลก เกษตรกรกำลังพัวพันกับเกมแมวไล่จับหนู กับโจรที่เข้ามาขโมยผลผลิตและมักจะหลบหนีไปพร้อมกับผลผลิตหนักเป็นตันภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ข้อมูลจากสมาคมผู้ปลูกอะโวคาโดในแอฟริกาใต้ระบุว่า ในปี 2018 เกษตรกรผู้ปลูกอะโวคาโดในแอฟริกาใต้ต้องสูญเสียผลผลิตที่ประคบประหงมมาเป็นอย่างดีถึงปีละ 24 ล้านแรนด์แอฟริกาใต้ หรือราว 53 ล้านบาทด้วยกัน
ที่น่าสนใจคือ กลุ่มโจรเหล่านี้ไม่ใช่โจรธรรมดา แต่บางส่วนเป็นโจรที่พัวพันกับเครือข่ายอาชญากรรม ซึ่งเปลี่ยนผลไม้ที่ถูกโจรกรรมให้กลายเป็นเงินที่ถูกกฎหมาย ผ่านการนำผลไม้มาล้างทำความสะอาด บรรจุในกล่อง และเร่ขายในตลาดทั่วประเทศ โดยผลผลิตที่ขโมยมาส่วนใหญ่เป็นผลไม้ชั้นหนึ่งสำหรับส่งออกโดยเฉพาะไปยังยุโรป ซึ่งสามารถขายให้กับผู้ค้าส่งได้ในราคามากกว่า 2 ดอลลาร์สหรัฐ (63 บาท) ต่อปอนด์ (ประมาณ 2.2 ปอนด์เท่ากับ 1 กิโลกรัม)
ในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 ในปีที่แล้ว แอฟริกาใต้มีการหดตัวทางเศรษฐกิจที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ปี 1946 เป็นอย่างน้อย โดยอัตราการว่างงานอย่างเป็นทางการของประเทศแตะระดับ 33% ในไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เกิดอาชญากรรมเพิ่มมากขึ้น
ขณะเดียวกันการโจรกรรมอะโวคาโดกลายเป็นโอกาสที่สร้างรายได้ให้กับ Canine Security บริษัทที่เปลี่ยนธุรกิจจากการต่อต้านไม่ให้แรดมารุกล้ำพื้นที่มาเป็นปกป้องอะโวคาโดแทนเมื่อ 4 ปีก่อน
ปัจจุบัน Canine Security มีสัญญากับเกษตรกรผู้ปลูกเชิงพาณิชย์มากกว่า 30 ราย และดูแลพื้นที่ประมาณ 3,700 เอเคอร์ โดยทุกคืนทหารยามกว่า 100 คน พร้อมสุนัขจะออกลาดตระเวน เพื่อปกป้องผลผลิตไม่ให้ถูกขโมย
ภาพ: Jan Sochor / Getty Images
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: