แบรนด์ Aveda ประกาศความภูมิใจครั้งล่าสุดกับสัญลักษณ์ Leaping Bunny ที่ได้รับจากองค์กรต่อต้านการทดลองและการทารุณกรรมในสัตว์นานาชาติ ซึ่งสามารถผ่านมาตรฐานระดับ Gold Standard จากองค์กรที่เป็นที่ยอมรับระดับโลก ที่ผ่านมา Aveda ได้ต่อต้านการทำการทดลองในสัตว์ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งแบรนด์ในปี 2521 จนในที่สุดก็ได้รับสัญลักษณ์ Leaping Bunny ที่มีการอนุมัติให้ผ่านมาตรฐานภายใต้โครงการ Cruelty Free International Leaping Bunny Programme พร้อมได้รับสิทธิ์ในการแสดงสัญลักษณ์ Leaping Bunny เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สำหรับขั้นตอนในการได้รับอนุมัติจากองค์กร Leaping Bunny Cruelty Free International นั้น Aveda ได้รับการตรวจสอบแล้วว่าไม่ได้ดำเนินการหรือมีการว่าจ้างให้ทำการทดสอบในสัตว์สำหรับผลิตภัณฑ์ วัตถุดิบ หรือส่วนผสมใดๆ ซึ่งได้ผ่านการตรวจสอบภายใต้มาตรฐานอย่างเข้มงวดเป็นเวลาหลายปีจาก Cruelty Free International เพื่อตรวจสอบให้มั่นใจได้ว่าซัพพลายเออร์และผู้ผลิตได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ทุกข้อของ Leaping Bunny สำหรับการผลิตทั้งในส่วนของผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงส่วนผสมต่างๆ ของ Aveda ซึ่งได้มีการตรวจสอบอย่างต่อเนื่องทุกๆ 12 เดือนอีกด้วย
สำหรับผลิตภัณฑ์ Aveda มีวางจำหน่ายใน Aveda Experience Center รวมไปถึงร้านทำผม Aveda Salon กว่าหลายพันแห่งทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก นอกจากนี้ยังรวมไปถึงผลิตภัณฑ์ทำสีผมที่มีวางจำหน่ายและให้บริการในร้านทำผมในเครือข่ายของ Aveda เท่านั้นอีกด้วย
มิเชล ทิว ซีอีโอของ Cruelty Free International ได้กล่าวว่า “Aveda เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะได้รับการยกย่องในความมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรมและยั่งยืนมายาวนานกว่าหลายทศวรรษ ผมยินดีที่จะแจ้งให้ทราบว่าผลิตภัณฑ์ของ Aveda มีพันธกิจที่เน้นความงามที่ปลอดภัย, การจัดการวัตถุดิบอย่างมีความรับผิดชอบ, ความรับผิดชอบต่อบรรจุภัณฑ์, การปราศจากการทดลองและทารุณกรรมในสัตว์ รวมไปถึงการพัฒนาสูตรแกน 100% ขั้นตอนการผลิตที่คำนึงถึงโลก และการช่วยอนุรักษ์และจัดหาแหล่งน้ำสะอาดให้กับชุมชนและผู้คนที่ต้องการทั่วโลก ที่สำนักงานใหญ่ขนาด 58 เอเคอร์ของ Aveda ภายในพื้นที่ที่ได้รับการรับรองจากสหพันธ์สัตว์ป่าแห่งชาติในรัฐมินนิโซตา Aveda ได้ดำเนินงานภายใต้พันธกิจเพื่อดูแลโลก ซึ่งภายในประกอบด้วยอาณานิคมของผึ้งที่ทำรังอยู่ในพื้นที่ สวนผักที่ดูแลโดยพนักงาน สถานีชาร์จพลังงานของรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมทางวิ่งเพื่อออกกำลังกายยาวหลายไมล์ อีกทั้งตัวอาคารยังให้ความสําคัญกับความยั่งยืนโดยใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์และพลังงานลม พรมในตัวอาคารยังผลิตจากวัสดุรีไซเคิลที่ผ่านการใช้งานแล้ว มีถังขยะรีไซเคิลวางกระจายอยู่ทั่วบริเวณอาคาร และยังมีร้านกาแฟในแบบออร์แกนิกอีกด้วย”
ภาพ: aveda / IG
อ้างอิง: