×

หุ้นกลุ่มยานยนต์ – ข่าวอีซูซุเตรียมย้ายฐานการผลิตกระทบราคาหุ้น

09.06.2023
  • LOADING...
หุ้นกลุ่มยานยนต์

เกิดอะไรขึ้น:

รายงานข่าวจากสื่อในประเทศอินโดนีเซียและไทยเมื่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ระบุว่า กระทรวงอุตสาหกรรมของอินโดนีเซียเปิดเผยว่า บริษัท อีซูซุมอเตอร์ (ประเทศไทย) เตรียมย้ายฐานการผลิตรถบรรทุกออกจากประเทศไทยไปอินโดนีเซีย และจะเริ่มการผลิตในปี 2567 อย่างไรก็ดี ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน บริษัท อีซูซุมอเตอร์ (ประเทศไทย) ได้ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าว โดยระบุว่า ถึงแม้อินโดนีเซียจะเป็นตลาดที่สำคัญแห่งหนึ่งของอีซูซุ แต่บริษัทไม่มีแผนที่จะย้ายฐานการผลิตจากไทยไปยังอินโดนีเซีย 

 

InnovestX Research มองว่า ฐานการผลิตในประเทศไทยเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของบริษัท อีซูซุมอเตอร์ (ประเทศญี่ปุ่น) และบริษัท อีซูซุมอเตอร์ (ประเทศไทย) เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถกระบะขนาด 1 ตันชั้นนำในประเทศไทย โดยมีกำลังการผลิต 385,000 คันต่อปี หรือคิดเป็น 15% ของกำลังการผลิตรถยนต์ทั้งหมดในประเทศไทย (ประเมินได้ที่ 2.5 ล้านคันต่อปี) และประเทศไทยถือเป็นส่วนสำคัญในตลาดเอเชีย ซึ่งคิดเป็นประมาณ 30% ของยอดขาย และประมาณ 60% ของกำไร จากการดำเนินงานในปี FY2566 ของบริษัท อีซูซุมอเตอร์ (ประเทศญี่ปุ่น) 

 

ขณะที่อุตสาหกรรมยานยนต์ในอินโดนีเซีย การผลิตรถยนต์ส่วนใหญ่เป็นรถ MPV (รถอเนกประสงค์) ที่ประมาณ 52% ของกำลังการผลิตรถยนต์ทั้งหมด รุ่นที่ได้รับความนิยมคือ Toyota Avanza, Daihatsu Sigra, Honda Brio และ Mitsubishi Xpander โดยอีซูซุมีส่วนแบ่งเพียงประมาณ 3% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ในอินโดนีเซีย ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2566

 

สำหรับชิ้นส่วนที่ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทยผลิตให้กับบริษัท อีซูซุมอเตอร์ (ประเทศไทย) ส่วนใหญ่เป็นชิ้นส่วนสำหรับรถกระบะขนาด 1 ตัน และรถ SUV โดย AH เป็นผู้ผลิตฐานรถกระบะรายหลักให้กับอีซูซุ และอีซูซุก็เป็นลูกค้าหลักของ AH โดยคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 25-30% ของยอดขายของ AH ในขณะที่อีซูซุคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 10% ของยอดขายของ SAT (เพลาข้าง) และประมาณ 5% ของยอดขายของ STANLY (ชุดโคมไฟ) 

 

ทั้งนี้ หลังจากที่ได้พูดคุยกับบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ บริษัทเหล่านี้ยังไม่พบการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในคำสั่งซื้อที่ยืนยันแล้วหรือคาดการณ์ไว้ และการผลิตตามคำสั่งซื้อของอีซูซุก็ยังเป็นไปตามปกติ

 

กระทบอย่างไร: 

เมื่อวานนี้ (8 มิถุนายน 2566) ราคาหุ้น AH ปรับลดลง 7.0%DoD ขณะที่ SET Index ปรับเพิ่มขึ้น 1.7%DoD 

 

กลยุทธ์การลงทุน:

ในบรรดาหุ้นผู้ผลิตส่วนยานยนต์ ราคาหุ้น AH ผันผวนมากที่สุดเมื่อวานนี้ สืบเนื่องมาจากข่าวข้างต้น เนื่องจากบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากอีซูซุค่อนข้างสูง ทั้งนี้ หลังจากราคาหุ้นกลุ่มยานยนต์ร่วงลงระหว่างวัน 10-29% หุ้นทุกตัวก็ได้ปรับตัวกลับขึ้นมา ยกเว้น AH ที่ปิดตลาดราคาลดลง 7% ซึ่งมองว่าเป็นการปรับตัวลดลงมากเกินไป 

 

ทั้งนี้ InnovestX Research ประมาณการว่า กำไรปกติของ AH จะเติบโต 8% สู่ 1.8 พันล้านบาทในปี 2566 ในขณะที่ยอดผลิตรถยนต์ของไทยจะเติบโตปานกลางในปี 2566 โดยกำไรของ AH จะได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อชิ้นส่วน OEM ใหม่ที่รวมถึงชิ้นส่วนรถ EV ยอดขายชิ้นส่วนรถ EV อยู่ที่ประมาณ 700 ล้านบาทในปี 2565 (3% ของยอดขาย) และ AH คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเท่าตัวในปี 2566 โดยอิงกับคำสั่งซื้อที่บริษัทมีอยู่ในมือ 

 

หุ้นกลุ่มยานยนต์เลือก AH เป็นหุ้นเด่น เนื่องจาก Valuation น่าสนใจ ปัจจุบันราคาหุ้น AH (เรตติ้ง Outperform) เทรดที่ P/E ปี 2566 ระดับ 7.1 เท่า ต่ำกว่า SAT (เรตติ้ง Underperform) ที่ 8.3 เท่า และ STANLY (เรตติ้ง Neutral) ที่ 8.8 เท่า โดย AH มีราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 อยู่ที่ 44 บาทต่อหุ้น อ้างอิง P/E 8.6 เท่า (ค่าเฉลี่ยในปี 2560-2561 ซึ่งเป็นช่วงที่กำไรของบริษัทเติบโตตามปกติ)

 

ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือ 1. ความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น และอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการซื้อรถยนต์ 2. การขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งส่งผลทำให้ห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมยานยนต์หยุดชะงัก และ 3. ระดับของการปรับตัว เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านจากรถ ICE ของผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ดั้งเดิม

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising