รายงานชิ้นใหม่เตือน ประชาชนนับ 375 ล้านคนทั่วโลกอาจจะต้องเปลี่ยนอาชีพภายในปี 2030 เหตุถูกแทนที่ด้วยเครื่องจักรอัตโนมัติ
สถาบันแมคคินซีย์ โกลบอล (McKinsey Global Institute) เปิดเผยว่า อาชีพใช้แรงงานอย่างการเตรียมอาหารฟาสต์ฟู้ดมีความเสี่ยงอย่างมาก ไม่เพียงเท่านี้ บรรดาอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลอย่างนักบัญชีก็อยู่ในกลุ่มเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม รายงานคาดการณ์ว่า เครื่องจักรอัตโนมัติจะไม่สามารถทดแทนอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการคน การปฏิสัมพันธ์ทางสังคม หรือทักษะประยุกต์
เพื่อให้มีงานทำต่อไป ผู้คนจำเป็นต้องอ้าแขนรับสาขาวิชาต่างๆ โดยทางฝ่ายรัฐบาลและเอกชนจำเป็นต้องช่วยเหลือเพื่อให้การเปลี่ยนผ่านเป็นไปอย่างราบรื่นด้วย
ซูซาน ลุนด์ (Susan Lund) ผู้ร่วมเขียนรายงานชิ้นนี้มองว่า “รูปแบบการเรียนหนังสือในช่วง 20 ปีแรกของชีวิต แล้วทำงานต่อไป 40-50 ปี มันไม่ได้ผลแล้ว…เราต้องคิดหาวิธีการเรียนรู้และฝึกฝนตลอดชีวิตการทำงานของเรา”
การเปลี่ยนผ่านนี้จำเป็นต้องมีการลงทุนขนาดใหญ่ทั้งภาครัฐและเอกชนเพื่อรองรับให้มีโครงการฝึกทักษะและการเปลี่ยนผ่านของกำลังแรงงาน พร้อมทั้งลงทุนในเรื่องโครงสร้างพื้นฐานและพลังงานหมุนเวียนเพื่อเร่งการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจด้วย
นักวิจัยเชื่อว่า การเปลี่ยนแปลงที่จะมาถึงนี้อาจใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ต้นยุค 1990 ที่เปลี่ยนจากการทำไร่ทำนามาสู่ภาคอุตสาหกรรมมากขึ้น
ถึงอย่างนั้น รายงานยังคาดการณ์ต่อไปอีกว่า แรงงานจะยังสามารถเปลี่ยนผ่านได้โดยมีอาชีพรองรับ เช่นเดียวกับสถานการณ์เมื่อครั้งคอมพิวเตอร์เข้ามาแทนที่ แต่ก็เกิดอาชีพใหม่ๆ เช่นเดียวกัน ตราบใดที่คนงานพร้อมจะเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ
“คำถามใหญ่ไม่ใช่ว่า จะมีงานทำรึเปล่า” ลุนด์ย้ำ “คำถามใหญ่คือ คนที่ตกงานจะมีความสามารถในการได้งานใหม่รึเปล่า”
อ้างอิง: