วันนี้ (9 พฤษภาคม) สกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีของออสเตรเลีย ระบุว่า ออสเตรเลียยังไม่มีแผนจะเปิดชายแดนในอนาคตอันใกล้นี้
โดยมอร์ริสันให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ฉบับวันอาทิตย์ของ News Corp ว่า ชาวออสเตรเลียยังไม่มี ‘ความต้องการ’ ให้เปิดชายแดนประเทศเพื่อต้อนรับนักเดินทางต่างชาติ ในขณะที่โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องทั่วโลก
“ผมยังไม่เห็นความต้องการดังกล่าวในตอนนี้ ผมคิดว่าสถานการณ์ที่เราเห็นในตอนนี้คือชาวออสเตรเลียรู้สึกพึงพอใจที่ไม่เกิดการแพร่ระบาดใหญ่ในออสเตรเลีย สิ่งที่ผมรู้คือหากเราปล่อยให้โรคโควิด-19 กลับเข้ามา เราจะขับไล่มันออกไปไม่ได้อีก เพราะเราได้ก้าวข้ามจุดนั้นไปแล้ว” มอร์ริสันกล่าว
ก่อนหน้านี้รัฐบาลออสเตรเลียเคยระบุว่า ออสเตรเลียจะเปิดชายแดนอีกครั้งเมื่อประชากรวัยผู้ใหญ่ทุกคนฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว อย่างไรก็ตาม ในการสัมภาษณ์ครั้งนี้มอร์ริสันกล่าวว่า เขาไม่สามารถรับประกันว่าออสเตรเลียจะสามารถทำเช่นนั้นได้
มอร์ริสันระบุว่า ยังไม่มีหลักฐานทางคลินิกที่น่าเชื่อถือพอที่จะยืนยันว่าเราสามารถป้องกันการแพร่ระบาดได้ และเขาคิดว่าชาวออสเตรเลียต้องการรักษาวิถีชีวิตในปัจจุบันไว้
เมื่อนับถึงช่วงเช้าของวันนี้ ออสเตรเลียฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้ประชาชนแล้ว 2.63 ล้านโดส โดยก่อนหน้านี้รัฐบาลวางแผนฉีดวัคซีนให้ประชากรทั้งประเทศภายในเดือนตุลาคม แต่ความหวังนั้นได้พังทลายลงไปหลังประสบปัญหาขาดแคลนวัคซีนตั้งแต่ระยะแรกของการฉีด
ขณะเดียวกันมอร์ริสันระบุว่า รัฐบาลยังคงดำเนินการเพื่อยกระดับเสรีภาพของประชาชนที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว
“ขั้นตอนต่อไปที่เราสามารถทำได้คือ อนุญาตให้ชาวออสเตรเลียที่ฉีดวัคซีนแล้วและมีหลักฐานแน่ชัดว่าวัคซีนสามารถป้องกันการแพร่ระบาดได้ สามารถเดินทางเข้า-ออกออสเตรเลียได้โดยไม่ต้องกักตัวที่โรงแรม ซึ่งสิ่งที่เราหวังไว้คือพวกเขาสามารถกักตัวที่บ้านได้ภายใต้ข้อจำกัดที่ลดลง” มอร์ริสันกล่าวในที่สุด
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
- สำนักข่าวซินหัว