โอเรเลียง ชูอาเมนี ‘มิดฟิลด์ร้อยล้าน’ ผู้ปฏิเสธ เจอร์เกน คล็อปป์ เพราะหัวใจอยู่ที่เรอัล มาดริด

ฤดูร้อน 2022 ถูกคาดหมายว่าจะเป็นฤดูร้อนที่เดือดที่สุดในตลาดการซื้อขายผู้เล่น เพราะนักเตะระดับซูเปอร์สตาร์ในระดับสูงสุดอย่าง เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ไปจนถึง ซาดิโอ มาเน ต่างอยู่ในกระแสข่าวการย้ายทีม

แต่หนึ่งในนักเตะที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มนี้ที่ได้รับการจับตามองอย่างยิ่งคือ โอเรเลียง ชูอาเมนี กองกลางดาวรุ่งทีมชาติฝรั่งเศสจากสโมสรอาแอส โมนาโก ที่เป็นที่หมายปองของหลายสโมสรใหญ่ในยุโรป ก่อนที่สุดท้ายจะมีรายงานข่าวว่าดาวเตะวัย 22 ปีจะเตรียมย้ายเข้าไปเป็นสมาชิกใหม่ของเรอัล มาดริด แชมป์ยุโรปทีมล่าสุด

โดยค่าตัวในการย้ายทีมของชูอาเมนี ตามรายงานข่าวรวมทั้งหมดอยู่ที่ 100 ล้านยูโร หรือกว่า 3.6 พันล้านบาทเลยทีเดียว โดยแม้ว่าค่าตัวในการย้ายทีมอย่างเดียวจะอยู่ที่ราว 80 ล้านยูโร (The Guardian) ส่วนที่เหลืออีก 20 ล้านคือเงินที่จะจ่ายตามเงื่อนไข แต่ก็สามารถเรียกได้ว่า ‘มิดฟิลด์ร้อยล้าน’

สิ่งที่น่าสนใจคือก่อนที่จะทำการตกลงกับเรอัล มาดริด ชูอาเมนีเป็นที่หมายปองของทั้ง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ยักษ์ใหญ่ของวงการฟุตบอลฝรั่งเศส แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่หวังกลับมาสร้างทีมยุคใหม่ และลิเวอร์พูล รองแชมป์พรีเมียร์ลีกและรองแชมป์ยุโรป ซึ่งในขณะที่ทีมแรกตัดสินใจถอนตัวจากการเจรจาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แต่ฝ่ายหลังสุดนั้นพยายามที่จะตามติดนักเตะรายนี้มาโดยตลอด

ความพยายามของลิเวอร์พูลนั้นถึงขั้นที่มีรายงานจากหลายสำนักระบุว่า เจอร์เกน คล็อปป์ ผู้จัดการทีมชาวเยอรมันได้มีการต่อสายตรงเพื่อหวังโน้มน้าวชูอาเมนีให้เลือกย้ายมาแอนฟิลด์มากกว่าที่จะย้ายไปซานติอาโก เบร์นาเบว

นั่นอาจหมายถึงนักเตะคนนี้เป็น ‘นักเตะพิเศษ’ ที่ไม่ใช่จะหาพบได้ทั่วไป

โดยตำแหน่งและสไตล์การเล่น ชูอาเมนีคือกองกลางตัวรับที่มีความแข็งแกร่งสูงมาก ผลงานในฤดูกาลที่ผ่านมาลงสนามไป 35 นัด และมีส่วนสำคัญในการทำให้โมนาโก สามารถคว้าอันดับที่ 3 ของฟุตบอลลีกเอิงในฤดูกาล 2021/22 ได้

มากกว่านั้นคือการที่เขาสามารถแทรกตัวเข้าไปยึดตำแหน่งตัวจริงในแดนกลางของทีมชาติฝรั่งเศสใต้การนำของ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ ได้ด้วย โดยนับจากที่ประเดิมสนามในนามทีมชาติไปเมื่อเดือนกันยายน 2021 ตอนนี้ชูอาเมนีลงเล่นในนาม ‘เลส์ เบลอส์’ ไปแล้ว 10 นัดด้วยกัน

นอกเหนือจากเกมรับที่แข็งแกร่งแล้ว ชูอาเมนีเป็นกองกลางที่มีความเร็วสูง มีความคล่องแคล่ว มีสเต็ปเท้าที่สามารถลากเลื้อยได้ดี เรียกว่าค่อนข้างครบเครื่องพอสมควร แม้ว่าในเกมรุกแล้วจะไม่ได้เด่นมากนักเพราะในฤดูกาลที่ผ่านมาทำได้ 3 ประตูกับอีก 2 แอสซิสต์

การตัดบอลแล้วควบขึ้นหน้าด้วยความเร็วและความแข็งแกร่งเป็นอีกจุดเด่นของ โอเรเลียง ชูอาเมนี

นักเตะกองกลางตัวรับในระดับนี้ถือว่าหายากในปัจจุบัน ซึ่งทำให้กองกลางที่โมนาโก ดึงตัวมาจากบอร์กโดซ์ ในวัย 19 ปี เมื่อเดือนมกราคมปี 2020 ด้วยค่าตัวแค่ 16 ล้านปอนด์ กลายเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างยิ่ง เพราะเชื่อว่าจะยืนระยะเป็นนักเตะระดับแถวหน้าสุดของโลกได้อีกนาน

ขณะที่ เคราร์ด โมเรโน อดีตสตาฟฟ์โค้ชโมนาโกและทีมชาติสเปน เปิดเผยกับ Sky Sports ถึงเบื้องหลังของชูอาเมนีกว่าจะมาเป็นสตาร์ว่า เมื่อครั้งโมนาโกต้องการหานักเตะเข้ามาเสริมแดนกลาง ตามข้อมูลแล้วนักเตะรายนี้มีความโดดเด่น

แต่สิ่งที่ทำให้ชูอาเมนีแตกต่างจากคนอื่นคือการที่จ้างผู้ฝึกสอนส่วนตัวมาช่วยพัฒนาการเล่นของตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่โมเรโนประทับใจเพราะมันแสดงให้เห็นว่านักเตะคนนี้มีความปรารถนาที่จะพัฒนาตัวเอง และหวังจะกลายป็นผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต

เมื่อได้มีการพูดคุยกันชูอาเมนี ทำให้โมเรโนมั่นใจได้ว่าเด็กคนนี้หวังจะเป็นนักเตะที่ยิ่งใหญ่ในอนาคตจริงๆ

และเมื่อได้มาอยู่ในทีมโมนาโกแล้ว ชูอาเมนีก็ได้ครูที่ดีอย่าง เชส ฟาเบรกาส กองกลางระดับตำนานทีมชาติสเปนที่ผ่านการขัดเกลาจาก ลา มาเซีย ของบาร์เซโลนา ก่อนจะสร้างชื่อกับอาร์เซนอล บาร์เซโลนา และเชลซี

ในการฝึกซ้อมเชสแม้จะเป็นเสือเฒ่าแต่ยังมีลายครามเหลืออยู่ สามารถฉกบอลจากเท้าของชูอาเมนีได้ตลอดเวลา แม้ว่าในหลายจังหวะจะเหมือนไม่ได้อยู่ในโซนนั้นด้วย ซึ่งสิ่งที่กองกลางจอมเก๋าสอนน้องก็คือการ Scan อ่านสถานการณ์โดยรอบที่เป็นสิ่งสำคัญอย่างมากในการเล่นฟุตบอลโดยเฉพาะสำหรับกองกลาง

ขณะที่โมเรโน ที่เป็นทีมโค้ชมองเห็นจุดนี้จึงฝึกเรื่องของ Peripheral Vision หรือการมองด้านข้าง และทำให้ชูอาเมนีพัฒนาความสามารถในการครอบครองบอล ไม่เสียบอลง่ายๆ อีก ทำให้สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ก่อนจะค่อยๆ พัฒนาตัวเองในด้านอื่นๆ จนก้าวขึ้นมาเป็นกองกลางแถวหน้าของลีกเอิงในปัจจุบัน

โดยจุดที่โมเรโนเชื่อว่าเขายังสามารถพัฒนาไปได้ไกลกว่านี้อีกคือเรื่องของการทำประตู เพราะชูอาเมนีมีพลังมากพอที่จะตะบันจากระยะไกลได้ และยังมีความสามารถในการเติมเข้ากรอบเขตโทษ รวมถึงรูปร่างสูงใหญ่ทำให้ขึ้นโหม่งได้ดี ซึ่งจุดที่จะทำให้ปลดล็อกได้คือการต้องปลดปล่อยตัวเองจากความคิดที่จะเล่นเป็นแค่กองกลางตัวรับเท่านั้น

และนั่นน่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้แฟนๆ เรอัล มาดริดตื่นเต้นได้ เพราะหลังจากที่ฝากทุกอย่างไว้กับ 3 นักเตะอาวุโสอย่าง คาเซมิโร (30 ปี), โทนี โครส (32 ปี) และ ลูกา โมดริช (36 ปี) ซึ่งจะประกาศการต่อสัญญาใหม่ในวันนี้ พวกเขาก็ได้นักเตะแห่งอนาคตมาเพิ่มอีกคน นอกจาก เอดูอาร์โด กามาวิงกา ไอ้หนูมหัศจรรย์วัย 19 ปีที่กำลังพัฒนาตัวเองขึ้นมาเช่นกัน

ที่สำคัญที่สุดคือชูอาเมนี ขอเลือกที่จะย้ายมาเรอัล มาดริดตามเสียงเรียกร้องของหัวใจตัวเอง และนั่นย่อมคาดหวังได้ว่าเขามาพร้อมกับความตั้งใจเกินร้อย ไม่ได้สนใจแค่เรื่องรายได้มหาศาลแต่อย่างใด

อ้างอิง: