×

แอสตัน วิลลา กับปัญหา ‘เสื้อแฉะ’ ที่ทำแบรนด์ Castore สะเทือน

29.09.2023
  • LOADING...
Aston Villa player

HIGHLIGHTS

3 MIN READ
  • ปัญหาอลวนดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่มีกระแสข่าวว่านักฟุตบอลแอสตัน วิลลา ไม่ว่าจะทีมหญิงหรือทีมชายต่างร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาคุณภาพของชุดแข่งขันที่ระบายเหงื่อได้แย่มาก
  • แบรนด์กาสตอร์ หรือชื่อเต็มๆ ว่า J. Carter Sporting Club Limited นั้นเพิ่งถือกำเนิดขึ้นในปี 2015 และเติบโตอย่างรวดเร็วจนได้รับการยกย่องว่าจะเป็น ‘Disruptor’ ของวงการนี้ ที่จะแย่งส่วนแบ่งจากมหาอำนาจอย่าง adidas, Nike, Puma เลยทีเดียว
  • ปกติแล้วแบรนด์กีฬาจะผลิตชุดแข่งออกมาต้องใช้เวลาอย่างน้อย 6-8 เดือน ตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนจบกระบวนการผลิต โดยไม่มีทางลัดใดๆ การเปลี่ยนชุดจึงเป็นเรื่องที่ยากมาก

ในช่วง 2-3 ฤดูกาลที่ผ่านมาหากใครเป็นแฟนฟุตบอลพรีเมียร์ลีกน่าจะพอสังเกตได้ ถึงการปรากฏตัวของแบรนด์กีฬาใหม่อย่างกาสตอร์ (Castore) ที่เป็นสปอนเซอร์ชุดแข่งของวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส, นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด และแอสตัน วิลลา

           

กาสตอร์เป็นแบรนด์กีฬาที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง เพราะเพิ่งก่อตั้งมาไม่ถึง 10 ปีดี และมีการเติบโตที่น่าสนใจ นอกจากจะมาโชว์ตัวบนลีกฟุตบอลที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลกอย่างพรีเมียร์ลีกแล้ว ยังเป็นชุดแข่งของทีมฟอร์มูลาวัน แม็คลาเรน และเรดบูลล์ เรซซิง, ทีมรักบี้ดังอย่างซาราเซนส์ ข้ามไปถึงทีมจักรยานดังอย่าง INEOS Grenadiers

   

แต่ตอนนี้แบรนด์น้องใหม่นี้กำลังเผชิญกับสถานการณ์ลำบากเสียแล้ว เมื่อชุดแข่งของพวกเขากำลังถูกตั้งคำถามใหญ่เมื่อมีภาพนักฟุตบอลของทีมแอสตัน วิลลาที่ใส่ชุดแข่งของกาสตอร์อยู่นั้น เสื้อเต็มไปด้วยเหงื่อจนเปียกแฉะ

           

ปัญหา ‘เสื้อแฉะ’ เกิดขึ้นได้อย่างไร และมันเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนั้นจริงหรือ?

           

เรื่องราวปัญหาอลวนดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่มีกระแสข่าวว่านักฟุตบอลแอสตัน วิลลา ไม่ว่าจะทีมหญิงหรือทีมชายต่างร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาคุณภาพของชุดแข่งขัน

 

ชุดแข่งของ Aston VIlla ที่แฉะ

           

โดยชุดแข่งนั้นดูจะมีปัญหาในเรื่องของการระบายเหงื่ออย่างมาก ซึ่งสังเกตได้ตั้งแต่ในช่วงของพรีซีซันที่จะเห็นเสื้อชุดแข่งฤดูกาล 2023/24 ของนักเตะวิลลาดูเปียกชุ่มตลอดเวลา

           

ในตอนนั้นเองทางสโมสรและแบรนด์ขอให้มีการรอให้พ้นช่วงฤดูร้อนไปก่อน ขอให้สภาพอากาศเย็นลงสักหน่อยแล้วจะมีการพิจารณากันอีกครั้ง

           

แต่ปรากฏว่าผ่านมาถึงตรงนี้ปัญหาดังกล่าวไม่ได้ลดลงไปเลย เสียงร้องเรียนจากนักเตะภายในทีมดังขึ้นเรื่อยๆ เพราะนักฟุตบอลเชื่อว่าชุดแข่งที่ไม่ระบายเหงื่อนี้จะส่งผลต่อการทำผลงานในสนาม ชุดที่เปียกชุ่มยังมีส่วนในการรบกวนสมาธิในการเล่นด้วย

           

ไม่เพียงแต่เฉพาะทีมชาย ทีมหญิงของวิลลาเองที่กำลังจะเริ่มต้นฟุตบอลลีกหญิงฤดูกาลใหม่ ‘ซูเปอร์ลีก’ ในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ (1 ตุลาคม) ก็กังวลเช่นกัน เพราะชุดที่เปียกชุ่มทำให้เสื้อผ้ามันดูแนบเนื้อไปหมด ทั้งอึดอัดและดูไม่ค่อยดีนัก

           

เรื่องนี้เลยกลายเป็นประเด็นขึ้นมาในคำถามต่อ ‘คุณภาพ’ ชุดแข่งขันของแบรนด์น้องใหม่ไฟแรง

           

ว่าแต่กาสตอร์นี่มาจากไหนกัน?

 

โลโกร้าน Castore ที่เป็นผู้สนับสนุนให้ Aston Villa

 

ตามประวัติแล้วแบรนด์กาสตอร์ หรือชื่อเต็มๆ ว่า J. Carter Sporting Club Limited นั้นเพิ่งถือกำเนิดขึ้นในปี 2015 ที่ผ่านมา โดยสองพี่น้อง โธมัส และฟิลิป เบียโฮ ที่มีอายุเพียงแค่ 25 และ 22 ปีตามลำดับในเวลานั้น โดยถือเป็นแบรนด์สัญชาติอังกฤษแท้ๆ ที่มีฐานการผลิตใหญ่อยู่ที่เมืองแมนเชสเตอร์ เมืองที่เคยโด่งดังในเรื่องของสิ่งทอในอดีต

           

โธมัสเคยเป็นนักฟุตบอลระดับเยาวชนของทีมทรานเมียร์ โรเวอร์สมาก่อน ขณะที่น้องชายฟิลก็เคยเล่นคริกเก็ตให้กับทีมในแถบแลงคาเชียร์ ซึ่งหลังจากที่เลิกเล่นกีฬาในปี 2013 ทั้งคู่ได้ย้ายมาอยู่ลอนดอน โดยแม้จะทำงานด้านการเงินแต่พี่น้องเบียโฮมีความฝันที่จะสร้างแบรนด์กีฬาของตัวเองขึ้นมา

           

ในระหว่างที่ทำงานในลอนดอนทั้งคู่ได้พยายามศึกษาวิจัยตลาดของชุดแข่งดังกล่าวผ่านการสัมภาษณ์นักกีฬามากมาย ก่อนที่จะนำข้อมูลเหล่านี้ไปเสนอขายต่อนักลงทุนในแวดวงแฟชั่นและชุดแข่งกีฬา ทำให้ได้ทุนมาสร้างแบรนด์กาสตอร์ขึ้น และมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2016

           

กาสตอร์เริ่มจำหน่ายสินค้าของตัวเองผ่านระบบออนไลน์เป็นหลัก และถือว่าได้รับการตอบรับที่ดี ด้วยงานดีไซน์ที่ถือว่าสวยและมีเสน่ห์เรียบหรู จนทำให้นิตยสาร Forbes เคยยกย่องให้ทั้งคู่อยู่ในลิสต์ ‘30 Under 30’ มาแล้วในปี 2019

           

ในปีเดียวกันนั้นเองกาสเตอร์เริ่มใช้กลยุทธ์ในการจับมือเหล่ากับนักกีฬาชื่อดัง โดยนักกีฬาคนแรกที่พวกเขาเป็นสปอนเซอร์อย่างเป็นทางการให้คือ เซอร์ แอนดี มาร์รีย์ นักเทนนิสขวัญใจเบอร์หนึ่งของชาวอังกฤษ ที่ในเวลาต่อมาได้กลายมาเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นด้วย ก่อนที่จะขยายอิทธิพลไปเรื่อยๆ

           

ในปี 2020 พวกเขาได้รับเงินทุน 7.5 ล้านปอนด์จากนักลงทุนที่ไม่ต้องการเปิดเผยตัวเพื่อให้เจาะตลาดกีฬาฟุตบอลในระดับสูงสุด และทำให้ได้กลายเป็นสปอนเซอร์ของทีมกลาสโกว์ เรนเจอร์ส ในสัญญาระยะเวลา 5 ปี ที่เชื่อว่ามีมูลค่าถึง 25 ล้านปอนด์

           

ก่อนจะขยายมาถึงทีมรถแข่งแม็คลาเรน, ทีมวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส, ทีมรักบี้ซาราเซนส์, ทีมนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด และทีมคริกเก็ตอังกฤษ ในปี 2021 และขยายตัวอย่างต่อเนื่องรวมถึงข้ามประเทศไปยังทีมเซบียาในสเปน, ไบเออร์ เลเวอร์คูเซนในเยอรมนี และเจนัวในอิตาลี

           

ดีลใหญ่ล่าสุดของพวกเขาคือการจับมือทีมเรดบูลล์ เรซซิง ทีมรถแข่งหมายหนึ่งของวงการสำหรับฤดูกาล 2023 ที่กำลังแข่งขันอยู่

 

การเติบโตอย่างรวดเร็วและมีกลยุทธ์แบบนี้ทำให้กาสเตอร์ถึงกับถูกยกย่องว่าจะเป็น ‘Disruptor’ ของวงการนี้ที่จะแย่งส่วนแบ่งจากมหาอำนาจอย่าง adidas, Nike, Puma เลยทีเดียว

 

           

แต่กระแสข่าวกับทีมวิลลาในตอนนี้ได้ทำลายชื่อเสียงของแบรนด์พอสมควร

           

เนื่องจากสำหรับนักกีฬาอาชีพในยุคปัจจุบัน รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ทุกอย่างล้วนมีผลต่อการแข่งได้เสมอ ซึ่งรวมถึงคุณภาพของชุดแข่งขันด้วย การที่มีข่าวว่านักเตะแอสตัน วิลลา ไม่พอใจคุณภาพชุดแข่งของกาสตอร์ส่งผลกระทบอย่างมาก

           

ก่อนหน้านี้แบรนด์ก็เสียทีมที่กำลังมาแรงอย่างนิวคาสเซิลที่ขอยกเลิกสัญญากับพวกเขาเพื่อไปรับเงินก้อนใหญ่กว่าจาก adidas ตั้งแต่ฤดูกาลหน้าเป็นต้นไป

           

สำหรับปัญหาชุดแข่งที่ทำมาจากโพลีเอสเตอร์ 90 เปอร์เซ็นต์ กับอีลาสเทน (Elastane) อีก 10 เปอร์เซ็นต์นั้น ทางวิลลาเรียกร้องขอชุดแข่งที่จะสามารถระบายเหงื่อได้ดีขึ้นโดยที่ยังคงน้ำหนักเบาและสวมใส่สบายอยู่

           

โดยขอเปลี่ยนเป็นการเร่งด่วน!

 

           

แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่แก้ไขได้ง่ายนัก เพราะปกติแล้วแบรนด์กีฬาจะผลิตชุดแข่งออกมาต้องใช้เวลาอย่างน้อย 6-8 เดือน ตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนจบกระบวนการผลิต โดยไม่มีทางลัดใดๆ ยิ่งแบรนด์ที่เกิดไม่นานอย่างกาสตอร์แล้ว เรื่องนี้ถือว่าเป็นปัญหาที่ใหญ่มาก

           

ส่วนแนวคิดที่จะขอให้มีการเอาชุดแบบ Replica ซึ่งเป็นเกรดวางขายทั่วไปมาใส่นั้นก็ยิ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะชุดแข่งแบบนี้มีน้ำหนักมากกว่าชุดสำหรับนักกีฬาอาชีพมาก และไม่ได้มีอะไรการันตีว่าใส่แล้วจะสบายตัวขึ้น ระบายเหงื่อได้ดีขึ้น ซึ่งในทางเทคนิคเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว และผลลัพธ์อาจออกมาแย่ลงกว่าเดิมด้วย

           

อย่างไรก็ดีคงต้องรอดูกันว่ากาสตอร์จะหาทางจัดการแก้ไขปัญหาให้กับวิลลาได้หรือไม่ ด้วยวิธีการไหน ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับรายละเอียดในสัญญาที่ทำไว้ระหว่างกันว่ามีการตกลงกันเอาไว้ว่าอย่างไร

           

แต่เอาเข้าจริงถึงเสื้อจะแฉะ แต่ผลงานของวิลลาในฤดูกาลนี้ภายใต้การนำของอูไน เอเมรี ถือว่าเปิดตัวมาได้อย่างสวยงามมาก

           

ชนะ 4 จาก 6 นัดในพรีเมียร์ลีก

           

ถ้าเสื้อจะแฉะแต่ผลงานดีแบบนี้ เชื่อว่ายังมีอีกหลายทีมที่อยากจะใส่เสื้อแบบนี้บ้างก็ได้

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

X
Close Advertising