×

‘แพง จน พัง’ หมอชลน่าน ดาบแรกอภิปรายทั่วไปประยุทธ์ ชี้วิกฤตประเทศทั้งหมดคือตัวนายกฯ ขอลาออก-ยุบสภา คืนอำนาจประชาชน

โดย THE STANDARD TEAM
17.02.2022
  • LOADING...
Chonlanan Srikaew

วันนี้ (17 กุมภาพันธ์) ที่อาคารรัฐสภา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดน่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร แถลงเปิดญัตติการอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 โดยไม่มีการลงมติว่า วันนี้ปรากฏข้อเท็จจริงว่าสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจของประเทศขณะนี้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างรุนแรง ข้าวของแพง ค่าแรงถูก อันสืบเนื่องจากการบริหารราชการแผ่นดินที่ล้มเหลวผิดพลาดทุกด้านของรัฐบาลนี้ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจที่ตกต่ำและทรุดตัวอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ยึดอำนาจมาจนถึงรัฐบาลปัจจุบันซึ่งเป็นรัฐบาลเดียวกัน มีการก่อหนี้สาธารณะสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่หนี้ครัวเรือนของประชาชนและอัตราการว่างงานของนักศึกษาจบใหม่สูงขึ้น เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโควิด มาตรการแก้ปัญหากลับไม่มีความชัดเจน ซึ่งแน่นอนว่ายิ่งทำให้เศรษฐกิจของประเทศดิ่งเหว การท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง 

 

นอกจากนี้การจัดการจัดหาวัคซีนยังล่าช้าไร้ประสิทธิภาพ ต่อมาเกิดการแพร่ระบาดของโรคระบาดในสัตว์ และเกิดเชื้อแอฟริกาในสุกร ทำให้สุกรขาดตลาด เนื้อสุกรราคาสูงขึ้นมาก แต่รัฐบาลกลับปกปิดข้อมูลการระบาดของโรคจนทำให้การะบาดกระจายไปทั่วประเทศ เกษตรกรได้รับความเสียหายเดือดร้อนในวงกว้าง แต่กลับมีข้อมูลเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนรายใหญ่ การแก้ปัญหาโรคระบาดทั้งคนและสัตว์ขาดความรู้ภูมิปัญญา

 

นพ.ชลน่านกล่าวต่อไปว่า ปัญหาสิ่งแวดล้อมนับวันยิ่งทวีความรุนแรง ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยประชาชน แม้เกิดขึ้นซ้ำซากทุกปี แต่รัฐบาลไม่มีการแก้ปัญหาที่เหมาะสม มีการนำงบประมาณไปแลกเปลี่ยนใช้จ่ายแก้ปัญหาในการกระทำที่ผิดพลาดของนายกรัฐมนตรีกรณีเหมืองทองอัครา การแก้ปัญหาประมงที่ล้มเหลว การปฏิรูปการเมืองที่กำหนดในรัฐธรรมนูญและยุทธศาสตร์ชาติไม่มีความคืบหน้า เหตุเพราะรัฐบาลขาดความจริงใจ วิสัยทัศน์ผู้นำที่ไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก ทำให้ไทยต้องสูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจมหาศาล และสูญเสียโอกาสที่จะได้จากความร่วมมือในกลุ่ม APEC การบริหารราชการแผ่นดินส่อในทางทุจริต หลายเรื่องส่งผลกระทบต่องบประมาณแผ่นดิน ซึ่งจากรายงานของวุฒิสภาและหน่วยงานภายนอกพบว่ารัฐบาลนี้มีการทุจริตสูงมาก ส่งผลให้การทุจริตคอร์รัปชันในประเทศสูงขึ้น รวมถึงปัญหายาเสพติดขยายวงกว้างในหลายพื้นที่ และเป็นแหล่งส่งออกไปต่างประเทศ ทำให้ประเทศเสียหาย ถือได้ว่าขณะนี้เป็นวิกฤตของประเทศ จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจึงเป็นกรณีจำเป็นที่ ส.ส. ในฐานะผู้แทนปวงชนชาวไทย ต้องสอบถามข้อเท็จจริงต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการแก้ปัญหาเรื่องต่างๆ และหาข้อสรุปเพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพตรงเป้าหมาย เพื่อประโยชน์ของประชาชนต่อไป

 

นพ.ชลน่านกล่าวต่อด้วยว่า ญัตตินี้ไม่ต้องมีมติ มีลักษณะเหมือนกระทู้แต่ไม่ใช่กระทู้ เป็นการซักถามข้อเท็จจริงและเสนอต่อ ครม. ไม่ได้มุ่งหมายต่อรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่ง เพื่อประโยชน์ของประชาชนเจ้าของอำนาจอธิปไตยที่ต้องการรู้ว่าทำไมถึงตอนนี้พวกเขามีความทุกข์ลำบากยากแค้น ถือเป็นญัตติแพงทั้งแผ่นดิน จนพังทั้งแผ่นดิน นี่คือการทำงานร่วมกันเพื่อบ้านเมือง เพราะเราจะเสนอแนะรัฐบาลเพื่อนำไปแก้ไขให้กับประชาชน เราจะบอกปัญหาที่รัฐมนตรีไม่รู้ว่าเป็นปัญหาและไม่รู้ว่าจะแก้อย่างไร เพื่อประโยชน์ของประชาชนให้เร็วที่สุด โดยปัญหาเศรษฐกิจพี่น้องคนไทยทุกข์ระทมกับของแพงทั้งแผ่นดิน ส่วนรายได้แสนจะถูก ชีวิตความเป็นอยู่ยุ่งยากซับซ้อน จนเกิดปัญหาสังคมตามมา รวมถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการบริหารงานล้มเหลว และปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทั้งยังก่อให้เกิดปัญหาหนี้สาธารณะ หนี้ครัวเรือน จนหนี้ท่วมประชาชน นอกจากนี้ยังมีวิกฤตการใช้งบเงินกู้และการจัดสรรงบประมาณปี 2565 ที่ไม่เหมาะสม รัฐบาลบริหารล้มเหลวจนเกิดเงินเฟ้อของแพง ที่ไม่เหมือนกับประเทศอื่น เพราะเป็นเงินเฟ้อจากต้นทุนการผลิตที่สูง ค่าแรงถูก และคนตกงานทั้งแผ่นดิน เป็นความผิดพลาดจากนายกฯ และ ครม. ที่ใช้มาตรการผิดพลาดบกพร่อง

 

สิ่งที่จะต้องขุดต่อคือเรื่องความสามารถในการแข่งขันของไทย ที่มีความสามารถที่ย่ำแย่ ระบบการเงินที่ไม่เอื้อต่อการลงทุน ผู้ประกอบการรายย่อยล้มหายตายจาก ขณะที่การพัฒนาประเทศในยุคดิจิทัล ประเทศเราสูญเสียโอกาสมากในการบริหารงานด้านนี้ ซ้ำร้ายที่สุดคือมีกลไกการโกงการหาประโยชน์จากระบบนี้ด้วย รายได้จากภาคการท่องเที่ยวก็ล้มเหลวหดตัว เข้าใจได้ว่าเกิดสถานการณ์โควิด แต่เมื่อเปรียบเทียบประเทศอื่นๆ ทำไมเขาฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว สิ่งที่ต้องถามคือ ทำไมการระบาดของโควิดยังอยู่ถึงปัจจุบัน ท่านอาจจะโชคช่วยเพราะเกาะโรคเพื่อให้ท่านดำรงอยู่ ท่านจึงเลี้ยงโรคเลี้ยงไข้ ซึ่งโชคดีที่โอมิครอนเข้ามาช่วยชีวิตท่านไว้ 

 

นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า ความล้มเหลววิกฤตทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นภาพการสร้างธุรกิจการเมือง สภาเสื่อม มีทั้งกล้วย ทั้งฉีดวัคซีน 20-30 ล้านบาท ที่มีข่าวอยู่ในสังคมขณะนี้เป็นข้อสงสัยที่ท่านต้องตอบ ฝากถามนายกฯ ว่าทำไมจึงยอมให้เกิดภาพอย่างนี้ ทำไมต้องแจกกล้วย เพราะทำให้การปฏิรูปการเมืองล้มเหลว ส่งผลกระทบไปทุกเรื่อง ข้อผิดพลาดอีกเรื่องที่ต้องพูดคือทำไมท่านต้องออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การประมง พ.ศ. 2558 ท่านบอกออกเพื่อแก้ใบเหลืองจากเรื่อง IUU หรือประมงที่ทำผิดกฎหมาย แต่กลับก่อเกิดปัญหาอย่างมากมาย เพราะไร้การรายงานควบคุมตรวจสอบ ผู้ประกอบการได้รับความเสียหายปีละ 2 แสนล้านบาท ถ้าใช้สมอง สติปัญญาอย่างรอบคอบ คิดว่าท่านคงไม่กล้าออก พ.ร.ก.นี้ เพราะไม่คุ้ม แต่ยังส่งผลกระทบมาถึงปัจจุบัน แม้ว่าพี่น้องสมาคมชาวประมงจะขอแก้กฎหมาย แต่ถูกตีตกทั้งหมด นายกฯ ไม่ยอมเซ็นเข้าสู่สภา ทั้งหมดนี้ก่อให้ประเทศเกิดปัญหาแพงทั้งแผ่นดิน จนพังทั้งแผ่นดิน จนเกิดจากวิกฤตทางการเมือง 

 

เหตุของปัญหาอยู่ที่การเมือง ท่านยึดอำนาจเข้ามาสู่อำนาจ มุ่งสืบทอดอำนาจด้วยการวางโครงสร้างรัฐธรรมนูญ การใช้อำนาจหลังได้อำนาจก็ไม่ชอบธรรม เอื้อประโยชน์ ไม่เห็นหัวประชาชน ถ้าท่านใช้อำนาจถูกต้อง ‘แพง จน พัง’ จะไม่เกิดขึ้น ประชาชนจะไม่เดือดร้อนขนาดนี้ ระบบการตรวจสอบการใช้อำนาจบิดเบี้ยว บิดเบือน โดยเฉพาะสภาที่ทำหน้าที่ตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดินก็ทำงานได้ยากลำบาก ทั้งที่การตรวจสอบการควบคุมการบริหารเป็นหน้าที่ของสภา” นพ.ชลน่านกล่าว

 

นพ.ชลน่านกล่าวต่อไปว่า ตัวเลขการเลือกตั้งปี 2562 ท่านได้ 255 เสียง ท่านก็ใช้กลไกที่บัญญัติในรัฐธรรมนูญจัดการรวบรวมทุกวิถีทางทำให้ท่านได้เสียงถึง 275 เสียง รัฐธรรมนูญเปิดโอกาสบัตรใบเดียวให้พรรคขนาดเล็กเข้ามาในสภา ท่านก็เชื้อเชิญเข้ามาด้วยกลไกทำให้หลายพรรคเล็กต้องจำยอม แต่นั่นคือกับดักของการเข้าสู่อำนาจ เสมือนดี แต่คือการทำลายล้างประชาธิปไตย เพราะการที่ท่านพยายามรวบรวมเข้ามา และการยุบพรรคที่เขาได้ ส.ส. เยอะ ถ้าไม่เรียกว่าทำลายล้างจะเรียกว่าอะไร สิ่งเหล่านี้คือต้นเหตุของปัญหา นอกจากนี้การประชุมตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน 2563 องค์ประชุมฝ่ายรัฐบาลไม่เคยถึงกึ่งหนึ่งของที่ประชุม คือ 238 เสียง เมื่อองค์ประชุมไม่เคยถึง จึงเกิดวิกฤตขัดแย้งแบ่งอำนาจกันในพรรคร่วมรัฐบาล ผลพวงที่แย่ที่สุดคือเราได้ผู้บริหารที่ไร้ความสามารถ แย่ที่สุด เข้ามาบริหาร เราได้นักบริหารที่เป็นปัญหาจนสร้างปัญหา ‘แพง จน พัง’ สิ่งจำเป็นที่สุดที่ฝ่ายค้านต้องทำคือ พยายามบอกว่าองค์ประชุมเป็นหน้าที่ของรัฐบาลเพราะเป็นเสียงข้างมาก ระบบรัฐสภาคือระบบเสียงข้างมาก เคารพสิทธิเสียงข้างน้อย แต่ฝ่ายค้านกลับถูกกล่าวหาว่าไม่ทำหน้าที่ แต่เราไม่ถือสา 

 

“ถามว่าท่านจะยอมให้แก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ เราพยายามหลายครั้ง แต่ท่านตีตกตลอด แต่ผมมั่นใจว่าท่านไม่แก้แน่ การพิจารณากฎหมาย หากเป็นของฝ่ายค้านจะถูกอุ้มหายไปดองไว้ก่อน 60 วัน ท่านต้องแก้ปัญหาตรงนี้ ปัญหาเชิงโครงสร้างอยู่ในกระดาษ แต่พฤติกรรมการบริหารราชการแผ่นดินเป็นของนายกฯ ผมไม่โทษรัฐมนตรีท่านอื่น เพราะนายกฯ เป็น คสช. (คณะรักษาความสงบแห่งชาติ) มา จึงใช้กลไกพิเศษในการบริหารราชการแผ่นดินมาตลอด ในชีวิตการเป็นผู้บริหารของท่าน ท่านใช้อำนาจพิเศษที่เรียกว่าเผด็จการมาตลอด ถ้าท่านไม่แก้ตรงนี้บ้านนี้เมืองนี้จะอยู่ต่อไปไม่ได้แต่จะพัง ถ้าไม่แก้ที่ต้นเหตุคือตัวนายกฯ หยุดให้ประเทศนี้เลือดไหลออก หยุดทรมานพี่น้องประชาชน สร้างโอกาสให้เขาลืมตาอ้าปากได้ สิ่งที่จะหยุดได้คือตัวนายกฯ ผมมั่นใจและสัมผัสได้ว่าท่านรักประเทศและประชาชน แต่ท่านรักไม่ถูก วิธีการท่านไม่ชอบ แต่จิตใจท่านรัก จึงขอให้ท่านประกาศว่าขอออกจากตำแหน่งนี้ จะด้วยการลาออกก็ได้เพื่อแก้ปัญหาได้รวดเร็ว หรือประกาศยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชน นั่นคือการแก้ปัญหาโดยเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แพงจนพังทั้งแผ่นดินก็จะแก้ปัญหาได้” นพ.ชลน่านกล่าวในที่สุด

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising