วันนี้ (17 กุมภาพันธ์) ที่อาคารรัฐสภา อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เดินทางมารัฐสภาก่อนเข้าร่วมอภิปรายวันนี้ โดยไม่ตอบคำถามถึงประเด็นที่ทักษิณ ชินวัตร หรือโทนี วู้ดซัม อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ ‘CARE คิด เคลื่อน ไทย’ ในหัวข้อ ‘จุดสิ้นสุดรัฐบาลตู่ พลิกเกมสู้ของแพง’ ตอนหนึ่งว่าให้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระวังว่าจะถูกไฮแจ็กเก้าอี้ วันนี้รัฐบาลกำลังทำให้ศรัทธาของประชาชนตกต่ำ บอกแต่เพียงว่าการเลือกตั้งครั้งหน้า “เราจะทำให้ดีที่สุด” ซึ่งมองว่าทักษิณได้ออกมาพูดแบบนี้หลายครั้ง อะไรที่เป็นคำแนะนำก็เอามาปรับใช้ ส่วนอะไรที่ไม่จริงก็พิสูจน์ให้เห็นแล้ว ยอมรับว่าทักษิณเคยเป็นผู้บังคับบัญชาและมีพระคุณในอดีต ยืนยันว่ายังมีความเคารพในฐานะผู้หลักผู้ใหญ่ และจะไม่ตอบโต้
ส่วนความพร้อมในการชี้แจงญัตติของฝ่ายค้านยืนยันว่ามีอยู่แล้ว ไม่ใช่แค่กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งตอนประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีคำแนะนำจากวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ว่าวิธีการที่รัฐบาลจะนำข้อมูลข่าวสารต่างๆ ไปสู่ฝ่ายค้านหรือประชาชนทั่วไปทำได้หลายทาง เช่น รัฐมนตรีต้องตอบคำถามบนบัลลังก์ หรือให้หน่วยงานราชการออกมาแถลงต่อฝ่ายค้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากข้อมูลการอภิปรายขัดต่อหลักข้อเท็จจริงก็พร้อมที่จะแก้ไขข้อมูลเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน
อนุทินกล่าวต่อไปว่า การอภิปรายครั้งนี้รัฐบาลต้องใจกว้าง เปิดให้ฝ่ายค้านซักฟอก โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พล.อ. ประยุทธ์ ได้แจกหนังสือสวดมนต์ของท่าน ว.วชิรเมธี ให้คณะรัฐมนตรีทุกคน ให้อ่านคู่มือการปฏิบัติตนให้เป็นคนใจกว้าง ซึ่งส่วนตัวได้อ่านแล้ว เป็นคนใจกว้างอยู่แล้ว ยืนยันว่าข้อมูลที่เตรียมมาแน่นมาก โดยศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย เป็นผู้ดูแลข้อมูล
นอกจากนั้นอนุทินยังกล่าวถึงตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดอยู่ในกรอบที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข คาดการณ์ไว้ และส่วนใหญ่เกิดขึ้นเฉพาะเมืองใหญ่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว แต่ประเทศไทยอยู่ในบริบทที่มีการบริหารจัดการวัคซีนได้ดี และประเทศไทยโชคดีที่โควิดสายพันธุ์โอมิครอนติดง่ายแต่ไม่มีความรุนแรง ยืนยันว่าตอนนี้ยังไม่เกิดความรุนแรงของจำนวนผู้ป่วย มองว่าจากสถิติยังถือว่าน้อยลงไปด้วยซ้ำ
ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตมีการตรวจตลอด ยอมรับว่ากังวล เนื่องจากไม่ต้องการให้มีผู้เสียชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ดังนั้นย้ำว่าหากฉีดวัคซีนจะไม่จำเป็นต้องวิตกกังวล ขอให้ใช้ชีวิตด้วยความปกติ แต่ระมัดระวังหลีกเลี่ยงงานปาร์ตี้ ของมึนเมา
อนุทินกล่าวด้วยว่า ส่วนสถานการณ์โควิดในเด็กตอนนี้ มีวัคซีนเพิ่งเข้ามาเดือนกุมภาพันธ์สัปดาห์ละ 300,000-600,000 โดส และเจ้าหน้าที่กำลังเร่งฉีดให้กับโรงเรียนต่างๆ หากฉีดวัคซีนได้เต็มที่ก็จะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ต่อเด็ก และจะไม่มีการแพร่กระจายเชื้อต่อยังสมาชิกในครอบครัว ขอความร่วมมือกับผู้ปกครองว่าอย่ากลัววัคซีน เพราะกว่าบุคลากรทางการแพทย์จะตัดสินใจฉีดวัคซีนให้กับเด็ก มีข้อมูลทางวิชาการสนับสนุน มีการประชุมหารือกันอย่างเข้มข้นหลายรอบ