ตลาดหุ้นเอเชียเปิดวันแรกของสัปดาห์ร่วงหนัก นำโดย ‘จีน-ฮ่องกง’ ดิ่งกว่า 2% จากแรงขายกลุ่มเทค หลังทางการจีนสั่ง Tencent ยกเลิกผูกขาดลิขสิทธิ์เพลง

ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ (26 กรกฎาคม) ส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงแรง นำโดยหุ้นของบริษัทจีนที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นฮ่องกง อาทิ Meituan ลดลง 4.69%, Tencent ลดลง 4.52% และ Alibaba ลดลง 3.61% กดดันให้ดัชนี Hang Seng ของฮ่องกงลดลงกว่า 2%

หนึ่งในแรงกดดันต่อหุ้นเหล่านี้มาจากกรณีที่ทางการจีนสั่งให้ Tencent ยกเลิกผูกขาดลิขสิทธิ์เพลงภายใน 30 วัน พร้อมปรับเงิน 2.5 ล้านบาท ฐานเอาเปรียบทางธุรกิจ

ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นๆ ในเชีย ได้แก่ ตลาดหุ้นจีนหลายดัชนีปรับตัวลดลงกว่า 2% โดยที่ดัชนี China A50 ลดลงไปถึง 3.8% ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ลดลง 1.3% ตลาดหุ้นไต้หวันลดลง 0.7% ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ลดลง 0.5% ขณะที่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 1.1% ส่วนตลาดหุ้นไทยปิดทำการวันนี้

นอกจากนี้หุ้นเทคโนโลยีของจีนยังมีแรงกดดันจากกรณีที่ทางการจีนกำลังพิจารณาที่จะเปลี่ยนธุรกิจติวเตอร์ที่อยู่ในจีนให้เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร ทำให้หุ้นเทคโนโลยีด้านการศึกษาหลายบริษัทร่วงลงมาอย่างหนัก อาทิ TAL Education ที่ดิ่งลงมาถึง 70% ภายในวันเดียว (23 กรกฎาคม)

Virginie Maisonneuve หัวหน้าฝ่ายการลงทุนในตลาดทุนของ Allianz Global Investors มองว่า ช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้จะขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน เพราะตลาดจะมีลักษณะที่เรียกว่า ‘Glass half full half empthy’ เพราะตลาดจะมีทั้งข่าวดีและข่าวร้ายออกมาพร้อมๆ กัน ขึ้นอยู่กับว่าตลาดจะเลือกมองฝั่งไหน

สำหรับด้านบวกจะมาจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่ฟื้นตัว แต่ในมุมกลับกันก็อาจจะเห็นเศรษฐกิจสหรัฐฯ และยุโรปเข้าสู่จุดพีก

ทั้งนี้ Virginie Maisonneuve กล่าวต่อว่า เรายังคงอยู่ในภาวะเศรษฐกิจที่เปราะบาง หลังการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์เดลตา ซึ่งแต่ละประเทศต่างยังคงเฝ้าระวังค่อนข้างมาก นอกจากนี้ยังมีประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่ยังคงต้องจับตาดูกันต่อไป

อ้างอิง: