นักวิเคราะห์ของ บล.กรุงศรี มองกรณี Ashton Asoke จะได้ข้อสรุปภายในสิ้นปีนี้ คาดศาลปกครองสูงสุดอาจจะยืนตามคำตัดสินของศาลชั้นต้น ทำให้กรณีเลวร้ายที่สุด ‘อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์’ ต้องสำรอง 5-6 พันล้านบาท เพื่อจ่ายค่าชดเชยให้กับลูกค้า
พรุ่งนี้ (20 กันยายน) ศาลปกครองสูงสุดมีกำหนดพิจารณาคดีครั้งแรก ซึ่งคดีนี้เป็นคดีความเดิมที่ทางสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กับพวกรวม 16 คนยื่นฟ้อง รฟม. และ กทม. ตั้งแต่ปี 2016 โดยศาลปกครองชั้นต้นมีคำพิพากษาในคดีนี้ไปเมื่อปีที่แล้ว
คำพิพากษาของศาลปกครองส่งผลให้ต้องเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างของโครงการ Ashton Asoke ซึ่งส่งผลกระทบกับ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN และลูกค้าอีกกว่า 600 ราย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ลูกบ้านแอชตัน อโศก วอนขอความช่วยเหลือ เกรง ‘เงินที่ผ่อนไปจะเป็นการผ่อนฟรีหรือเปล่า’
- ลุ้นอย่างน้อย 3 ปี! ‘ชานนท์’ ซีอีโออนันดา เดินหน้าอุทธรณ์กรณี ‘แอชตัน อโศก’ ถูกถอนใบอนุญาตก่อสร้าง ย้ำ “ทำทุกอย่างถูกต้องและจะสามารถชนะคดีได้”
- ถอดบทเรียน ‘แอชตัน อโศก’ คอนโดหรูริมถนนสุขุมวิท กูรูอสังหาฯ ชี้กรณีเลวร้ายสุด อาจต้องคืนเงินพร้อมดอกเบี้ยให้ลูกบ้าน
ดังนั้น ANAN และลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจึงยื่นอุทธรณ์คำตัดสินดังกล่าว ทั้งนี้ หลังจากกรณีพิพาทที่ยืดเยื้อมาอย่างยาวนาน บล.กรุงศรีคาดว่าคดีนี้จะได้ข้อสรุปภายในสิ้นปีนี้
บทวิเคราะห์คาดว่าศาลปกครองสูงสุดจะยืนตามคำตัดสินของศาลชั้นต้นว่า รฟม. ไม่มีสิทธิ์อนุญาตให้ ANAN นำพื้นที่สาธารณะไปใช้ประโยชน์ ดังนั้น ใบอนุญาตก่อสร้างของโครงการ Ashton จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย และทำให้เชื่อว่า ANAN น่าจะยื่นฟ้อง รฟม. และ กทม. เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากคดีของ Ashton
อย่างไรก็ตาม คิดว่าการดำเนินการดังกล่าวยังต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะได้ข้อสรุป โดยในกรณีเลวร้ายที่สุด ANAN อาจจะต้องตั้งสำรอง 5-6 พันล้านบาทสำหรับการฟ้องร้องของโครงการ Ashton Asoke (มูลค่าโครงการ 6.5 พันล้านบาท) เพื่อจ่ายค่าชดเชยให้กับลูกค้า ซึ่งจะทำให้สถานะทางการเงินของบริษัทอ่อนแอลงอย่างมาก
ทั้งนี้ ANAN มีผลขาดทุนต่อเนื่องมา 4 ไตรมาสติดต่อกันแล้ว เพราะไม่มีโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ที่พร้อมโอน โดย ANAN มีกำหนดจะโอน 3 โครงการใหม่ในปีนี้ แต่ผลประกอบการจะยังเปราะบางอยู่ นอกจากนี้ บริษัทยังมีความเสี่ยงที่อาจจะต้องตั้งสำรองก้อนใหญ่จากคำพิพากษาศาลในคดี Ashton Asoke อีกด้วย
เว็บไซต์ Tyssen Global Management ระบุว่า โครงการ Ashton Asoke นั้น ANAN ได้พัฒนาร่วมกับ Mitsui Fudosan จากประเทศญี่ปุ่น เปิดตัวครั้งแรกในปี 2557 ขณะนั้นราคาเฉลี่ยเริ่มต้นคือ 1 แสนบาทต่อตารางเมตร ซึ่งการขายต่อสามารถขยับราคาเป็น 3 แสนบาทต่อตารางเมตร โดยขายหมด 100% ภายในหนึ่งเดือนหลังจากเปิดตัว
กระนั้นแม้จะยังไม่รู้ผลการตัดสิน แต่ที่แน่ๆ การฟ้องร้องจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์และบริษัท ตลอดจนความเชื่อมั่นจากนักลงทุน รวมทั้งลูกค้ารายใหม่ในอนาคต
ราคาหุ้นปิดตลาดในวันนี้ (19 กันยายน) ของ ANAN ลดลง 2.29% อยู่ที่ 1.28 บาท โดยมีมาร์เก็ตแคป ณ วันที่ 16 กันยายน อยู่ที่ 5,457 ล้านบาท ส่วนผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 2/65 มีรายได้ 1,029.7 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 159.6 ล้านบาท และขาดทุน 7.4 ล้านบาท ลดลง 44.1 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากรายได้จากการบริหารโครงการ และค่านายหน้าที่หดตัว และรายได้อื่นๆ ที่ลดลง
อ้างอิง:
- https://tgm.sg/ashton-asoke-condo-completed-and-transferred-why-was-the-license-revoked/
- https://www.krungsrisecurities.com/researchcontent/3/9/?id=20897
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP