ในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 วันนี้ (3 พฤศจิกายน) ผู้นำอาเซียนพร้อมด้วย อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ได้ร่วมเปิดตัวศูนย์อาเซียนเพื่อการศึกษาและการหารือด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน (ASEAN Centre for Sustainable Development Studies and Dialogue – ACSDSD) ซึ่งตั้งอยู่ที่กรุงเทพฯ โดยศูนย์ดังกล่าวเป็นการสานต่อที่สาคัญของวิสัยทัศน์ผู้นำอาเซียนว่าด้วยการเป็นหุ้นส่วนเพื่อความยั่งยืน ซึ่งได้รับการรับรองโดยที่ประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 34 เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
โดยการพัฒนาที่ยั่งยืนเป็นประเด็นทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญของอาเซียน ศูนย์อาเซียนเพื่อการศึกษาและการหารือด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนจะมีบทบาทในการช่วยกระตุ้นการส่งเสริมความร่วมมือด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนในภูมิภาค และการเสริมสร้างความเกื้อกูลระหว่างวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน ค.ศ. 2025 และวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 ของสหประชาชาติ หรือเป็นที่รู้จักกันในนาม ‘ข้อริเริ่มความเกื้อกูลฯ’ (Complementarities Initiative)
ศูนย์ดังกล่าวเป็นหนึ่งในผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมภายใต้การเป็นประธานอาเซียนของไทยในปีนี้ โดยจะเป็นเวทีระดับภูมิภาคในการศึกษาและวิจัย เสริมสร้างขีดความสามารถของประเทศสมาชิกอาเซียน ตลอดจนส่งเสริมการหารือและความร่วมมือด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนและระหว่างอาเซียนกับภาคีภายนอก ผ่านการดำเนินโครงการความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน
ศูนย์ฯ จะตั้งอยู่และทำงานร่วมกับศูนย์วิจัยภาวะผู้นำเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Centre for Research on Sustainable Leadership) ที่วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่กรุงเทพฯ รวมทั้งจะร่วมมือและสร้างเครือข่ายกับศูนย์และสถาบันที่เกี่ยวข้องทั้งในอาเซียนและภูมิภาคอื่นๆ ด้วย
นอกจากนี้ผู้นำอาเซียนยังมีกำหนดการเปิดตัวศูนย์ฝึกอบรมอาเซียนด้านสังคมสงเคราะห์และสวัสดิการสังคม (ASEAN Training Centre for Social Work and Social Welfare – ATCSW) ที่อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี และศูนย์อาเซียนเพื่อผู้สูงอายุที่มีศักยภาพและนวัตกรรม (ASEAN Centre for Active Ageing and Innovation – ACAI) ที่กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมสนับสนุนแนวคิดหลักของการเป็นประธานอาเซียนของไทยในปี 2019 นี้ที่ว่า ‘ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน’
ภาพ: Manan Vatsyayana / AFP via Getty Images
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: