เมื่อวานนี้ (20 เมษายน) กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้ชี้แจงความคืบหน้าการดำเนินคดีสถานบริการย่านทองหล่อ จากกรณีที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เข้าใช้บริการที่ร้านคริสตัลคลับและเอมเมอรัลด์ จนกลายเป็นจุดแพร่ระบาดไปในวงกว้าง
พนักงานสอบสวนได้ทำหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอเอกสารประกอบสำนวนการสอบสวน ประกอบกับการรวบรวมพยานวัตถุและพยานเอกสารจากสถานที่เกิดเหตุทั้งหมด จนนำไปสู่การออกหมายเรียกพยานวัตถุ พยานเอกสาร จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งบริษัทต่างๆ
ซึ่งเมื่อวันศุกร์ที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา ได้มีการเข้าตรวจสถานที่เกิดเหตุเพื่อเก็บพยานหลักฐาน โดยขอความร่วมมือสำนักงานเขตวัฒนา, สำนักอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กองพิสูจน์หลักฐานกลาง (พฐก.) และผู้ดูแลร้าน เข้าร่วมตรวจผลการปฏิบัติ ได้ตรวจยึดเครื่องบันทึกภาพ ส่งตรวจ พฐก. ดำเนินการตรวจสอบต่อไป
ในส่วนของการรวบรวมพยานหลักฐานอื่น เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมภาพนิ่ง คลิปภาพเคลื่อนไหวที่เกี่ยวข้อง ที่ปรากฏในโซเชียลและสื่อนำเสนอ เพื่อพิสูจน์ทราบว่าเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในคดีนี้ อีกทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งโดยรอบอาคารที่เกิดเหตุทั้งสองแห่งและสถานที่ใกล้เคียง
มีการสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องจำนวน 2 ปาก ได้แก่ เจ้าหน้าที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และเจ้าหน้าที่สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร สำหรับพยานบุคคลในที่เกิดเหตุ อยู่ระหว่างการคัดกรอง กำหนดวันที่เหมาะสม ปลอดภัย ในการเรียกมาสอบสวนต่อไป
จากการสอบสวนเจ้าหน้าที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และการรวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับนิติบุคคล พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหาจำนวน 2 ราย ได้แก่ เกียรติพงษ์ คำต่าย และ เดชา พิลาลี ในฐานะเป็นกรรมการผู้จัดการนิติบุคคลที่บริหารร้านคริสตัลคลับและร้านเอมเมอรัลด์ ตามลำดับ ในข้อหาตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต และฝ่าฝืนข้อกำหนดออกตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ ให้มาพบพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจนครบาล (สน.) ทองหล่อ ในวันจันทร์ที่ 3 พฤษภาคม 2564
ทั้งนี้เหตุที่พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกในข้อหาตาม พ.ร.บ. สถานบริการ และ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน เพียง 2 ข้อหานั้น เนื่องจาก บช.น. รับผิดชอบการออกใบอนุญาต ตาม พ.ร.บ. สถานบริการ จึงมีข้อมูลในเรื่องสถานบริการที่ได้รับอนุญาตอยู่แล้ว ในส่วนของความผิดตามกฎหมายอื่นๆ จะต้องมีการรวบรวมพยานเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการใช้สถานที่ การประกอบกิจการต่างๆ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการออกใบอนุญาตนั้นมีจำนวนหลายหน่วยงาน หากพนักงานสอบสวน หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบแล้วพบว่าสถานที่ใดไม่ได้มีการขออนุญาตดำเนินกิจการต่างๆ ที่ถูกต้อง ก็จะได้ประสานผู้รับผิดชอบมาให้ข้อมูล ร้องทุกข์กล่าวโทษ ดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วนต่อไป
