อาร์เน สลอต กุนซือของลิเวอร์พูล เปิดใจหลังบุกพ่ายพลีมัธ ทีมอันดับบ๊วยของลีกแชมเปียนชิป 0-1 ในเกมเอฟเอคัพรอบ 4 เมื่อคืนนี้ โดยกล่าวว่า “พลีมัธเล่นได้ยอดเยี่ยม มีแผนการเล่นที่ดี พวกเขาสมควรได้รับเครดิตทั้งหมดสำหรับผลงานนี้ ส่วนของเรามันไม่ใช่วันที่ดีของนักเตะ ทำให้เราได้ผลลัพธ์แบบนี้ในที่สุด
“ผมคิดว่าเราสามารถทำได้ดีกว่านี้ พลีมัธมีระบบและวิธีการเล่นที่ค่อนข้างยากที่จะสร้างโอกาสกับพวกเขา พวกเขาเล่นอย่างดุดันมากเมื่อเราได้บอล ผมคาดหวังว่าลูกทีมจะเล่นเกมได้ดีกว่านี้ แต่เราต้องยกเครดิตให้กับพลีมัธด้วยเช่นกัน
“มันทำให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับลิเวอร์พูลเจ็บปวด ไม่ว่าจะเป็นแฟนบอล ตัวผมเอง รวมถึงนักเตะ เราทุกคนต้องการอยู่ในเอฟเอคัพและแข่งขันให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ผลที่ได้คือความพ่ายแพ้”
อีกหนึ่งควันหลงในแง่สถิติของเกมที่ถูกขนานนามว่าเป็นเกมแห่ง ‘แจ็คผู้ฆ่ายักษ์’ เกมนี้ คือการที่พลีมัธเป็นทีมจากนอกลีกสูงสุดทีมแรกในรอบ 7 ปีที่เขี่ยจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกตกรอบได้ นับตั้งแต่วีแกนทำกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2018
และนี่เป็นครั้งแรกที่ลิเวอร์พูลตกรอบการแข่งขันเอฟเอคัพในรอบ 41 ปี จากฝีมือทีมนอกลีกสูงสุดในขณะที่ยังนำเป็นจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่เดือนมกราคม 1984 โดยตอนนั้นพวกเขาพ่ายต่อไบรท์ตัน 0-2 (ตอนที่ยังอยู่ดิวิชัน 2)
ทั้งนี้ ลิเวอร์พูลยังเหลือแชมป์ให้ลุ้นอีก 3 รายการ ประกอบด้วยพรีเมียร์ลีก ที่ยังครองจ่าฝูงในปัจจุบัน, แชมเปียนส์ลีก ได้เข้าไปรอในรอบ 16 ทีม ด้วยการเป็นอันดับ 1 รอบเก็บคะแนน และลีกคัพ (คาราบาวคัพ) ที่ได้เข้าถึงรอบชิงฯ ไปเจอกับนิวคาสเซิล
อ้างอิง: