จากกรณีเกิดเหตุรุนแรงต่อประชาชนในพื้นที่อำเภอจะแนะและอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส 2 เหตุการณ์ภายในระยะเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นหญิงชราอายุ 76 ปี และเด็กหญิงวัยเพียง 9 ขวบ นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกหลายรายนั้น ล่าสุด ผู้บัญชาการทหารบกและผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้ออกมาประณามการกระทำดังกล่าวอย่างรุนแรง พร้อมสั่งปรับมาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ทันที
วันนี้ (3 พฤษภาคม) พล.ต. วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พล.อ. พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (รอง ผอ.รมน.) ได้แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกล่าวประณามการกระทำอันโหดเหี้ยมและไร้มนุษยธรรมนี้อย่างถึงที่สุด โดยชี้ว่าการมุ่งทำร้ายเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้บริสุทธิ์ที่ไม่มีทางสู้ เป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้และขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง
พล.อ. พนา ยังได้เน้นย้ำว่า “ถึงเวลาแล้วที่เราต้องร่วมกันต่อสู้ โดยอาศัยองค์ประกอบต่าง ๆ ที่มีอยู่ในระบบ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน และกลไกกระบวนการยุติธรรม มาเป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน”
พร้อมทั้งได้สั่งการไปยังกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (กอ.รมน.ภาค 4) ให้ดำเนินการปรับมาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่โดยเร่งด่วน ทั้งในเชิงรับและเชิงรุก ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยให้ความสำคัญกับการสกัดกั้นการก่อเหตุต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์และเจ้าหน้าที่ เพิ่มความเข้มงวดของจุดตรวจและการลาดตระเวน ควบคู่กับการใช้มาตรการด้านการข่าวเพื่อติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด
ขณะเดียวกัน พล.ท. ไพศาล หนูสังข์ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (ผอ.รมน.ภาค 4) ได้สั่งการให้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุดในพื้นที่ เน้นการทำงานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ ผู้นำท้องถิ่น และผู้นำศาสนา กำชับให้ประชาชนระมัดระวังในการเดินทางในพื้นที่เสี่ยง และให้ตรวจสอบเสริมกำลังในจุดที่อาจมีกำลังไม่เพียงพอ
โดยเฉพาะในช่วงเวลาละหมาดค่ำ (เวลาประมาณ 19.00-20.00 น.) ซึ่งมักเป็นช่วงเวลาที่ผู้ก่อเหตุฉวยโอกาส ปัจจุบัน เจ้าหน้าที่มีเบาะแสและร่องรอยของผู้กระทำผิดแล้ว และกำลังเร่งติดตามจับกุม พร้อมกันนี้ ผอ.รมน.ภาค 4 และคณะ ได้เข้าเยี่ยมติดตามอาการของผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างใกล้ชิดแล้ว
กอ.รมน. ขอเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนในสังคมร่วมกันประณามการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ และยืนหยัดต่อต้านการก่อเหตุร้ายที่มุ่งทำลายความสงบสุข พร้อมทั้งขอเน้นย้ำว่า ผู้ให้การสนับสนุนกลุ่มผู้ก่อเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการซ่อนเร้น ให้ที่พักพิง หรือสนับสนุนด้านอื่นๆ อาจเข้าข่ายมีความผิดตามกฎหมาย และจะถูกดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด
ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา หากพบเบาะแสหรือบุคคลต้องสงสัย สามารถแจ้งข้อมูลได้ทันทีที่สายตรง แม่ทัพภาคที่ 4 / ผอ.รมน.ภาค 4 โทร. 06 1173 2999 หรือสายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า โทร. 1341 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ภาพ: สำนักงานประชาสัมพันธ์ จ.นราธิวาส / Facebook