×

ส่องกองทุน ARK ผลตอบแทนร่วงหนัก หลังเผชิญพิษเงินเฟ้อพุ่ง ดอกเบี้ยขึ้น กูรูแนะถือลงทุนยาว 3 ปี

05.12.2021
  • LOADING...
กองทุน ARK

HIGHLIGHTS

5 Mins. Read
  • บลจ.ทหารไทย เผยปีนี้ ARK ผลตอบแทนร่วงหนัก หลังเจอพิษเงินเฟ้อพุ่งแรง ดอกเบี้ยขาขึ้น ค่าแรงเพิ่ม ต้นทุนสูงขึ้น คาดเริ่มกลับมาฟื้นไตรมาส 4 ปี 2565 ขณะที่โอไมครอนระบาดหนักไม่กระทบกองทุน ARK
  • บลจ.แอลเอช แนะนักลงทุนในกองทุน ARK ต้องอดทนรอระยะยาว 3 ปีขึ้นไป เพื่อรับผลตอบแทนที่ดี คาดเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระยะยาว ส่งผลกระทบเกิดแรงกดดันต่อการลงทุนได้ 
  • มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) ระบุกองทุน ARK Innovation (ARKK) ช่วง 1 ปีและ 6 เดือนที่ผ่านมา ผลตอบแทน -20% และ -11% หากนักลงทุนที่สนใจต้องเข้าใจถึงความเสี่ยงที่มีความผันผวนสูง  

ย้อนกลับไปช่วง 2 ปีที่ผ่านมา กองทุน ARK Innovation ETF ถือเป็นอีกหนึ่งเมกะเทรนด์ที่เป็นดาวรุ่ง และสร้างสีสันให้กับวงการการลงทุนไม่น้อย เพราะนอกจากจะเป็นธีมการลงทุนที่ชัดเจนในหุ้นนวัตกรรมทั่วโลกแล้ว ผลตอบแทนยังดีที่สุดในโลกอีกด้วย 

 

แต่เมื่อเกิดวิกฤตเงินเฟ้อสหรัฐฯ เข้ามาแทรกแซงอย่างรุนแรง บวกกับ Fed มีการส่งสัญญาณเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ผลตอบแทนกองทุนติดลบหนักสุด ซึ่งหากดูความเคลื่อนไหวของกองทุนดังกล่าวที่ Bloomberg ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2564 มาจนถึง ณ ปัจจุบัน ลงมาอยู่ในกรอบราว 98-110 จุด จึงเกิดคำถามขึ้นว่า กองทุนนี้เริ่มหมดเสน่ห์ และขาดความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนไปแล้วหรือไม่

 

บดินทร์ พุทธอินทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย (TMBAM Eastspring) ให้ข้อมูลกับทีมข่าว THE STANDARD WEALTH ว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับผลตอบแทนของกองทุน ARK ในช่วงนี้เกิดจากปัญหาเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น บวกกับค่าแรงและต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นั่นแปลว่า ยอดขายเติบโต แต่กำไรติดลบ 

 

ซึ่งหากย้อนไปดูยอดขายของกองทุน ARK ในไตรมาสล่าสุดที่มีการประกาศออกมา พบว่า ARK ยังมียอดขายเติบโต ทั้งกองค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 40% แต่ผลตอบแทนติดลบ เพราะบริษัทที่ ARK เข้าไปลงทุนส่วนใหญ่เป็นบริษัทที่กำลังมีการขยายธุรกิจ จึงยังทำให้ไม่คัฟเวอร์ต้นทุนทั้งหมดได้ และหากย้อนกลับไปดูผลตอบแทนช่วง 6 เดือน จนถึง ณ วันที่ 1 ธันวาคม 2564 และจากรายงานของ Bloomberg และ Yahoo Finance จะเห็นว่า ARK ลงไปทดสอบอยู่ระดับความเคลื่อนไหวในกรอบ 98-120 จุดเท่านั้น ซึ่งถือว่าวิ่งอยู่ในกรอบ Sideway จึงส่งผลให้เกิดปัญหาความกังวลต่อการลงทุนได้

 

อย่างไรก็ตาม กองทุน ARK ยังดูน่าสนใจ ถ้าจะยกตัวอย่างให้เห็นภาพที่ชัดมากยิ่งขึ้น เทียบกับเหตุการณ์ในอดีตอย่างบริษัท เทสล่า มอเตอร์ ซึ่งถือว่ามีแพตเทิร์นเดียวกัน คือ Tesla ยอดขายเติบโต แต่กำไรเพิ่งจะมีได้ประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา แต่ราคาหุ้นก็ขึ้นมาล่วงหน้าแล้ว 6-7 ปี 

 

ARK จึงมีแพตเทิร์นคล้ายกับ Tesla ยอดขายเติบโตแต่ไม่มีกำไร แต่ความน่าสนใจอยู่ตรงที่จำนวนหน่วย ARK แม้ราคาจะตกลงมาตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่จำนวนหน่วยลงทุนมีเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ จากนักลงทุนทั่วโลกที่ทยอยซื้อเพิ่ม นั่นเอง

การคาดหวังจะได้ผลตอบแทนจากกอง ARK ในระดับ 40-50% เหมือนในช่วงแรกๆ อาจจะเป็นไปได้ยาก แต่ผลตอบแทนในระดับ Double Digit ต่อปียังมีโอกาสขึ้นด้วยเลข 1 และเลข 2 เนื่องจาก ARK เป็นกองทุนที่มีค่าเบต้าที่สามารถวัดผลตอบแทนได้ เช่น ถ้าตลาดหุ้นบวกไป 1 ARK ก็จะบวกมากกว่าตลาดประมาณถึง 2 เท่า หรือถ้าตลาดหุ้นลงไป 1 ARK ก็จะลงมากกว่าตลาด 2 เท่าเช่นกัน เพราะฉะนั้นถ้าหากตลาดเป็นขาขึ้น ตัว ARK ก็จะมีโอกาสปรับขึ้นแรงๆ ด้วยเช่นกัน 

 

“ปีนี้ ARK ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะตั้งแต่ต้นปีมีเซกเตอร์โลเคชัน อย่างกลุ่มพลังงาน กลุ่มแบงก์ ที่วิ่งได้ดีในไตรมาสแรก เพราะว่า PE ของ ARK แพง และปีที่แล้วกำไร 100% นักลงทุนจึงเริ่มมีการขายออกมา ไม่ใช่ว่าหมดเสน่ห์ลงไป แต่นักลงทุนขายออกไป และไปเล่นกลุ่มที่ถูกอยู่ เช่น กลุ่มพลังงาน กลุ่มธนาคารแทน ซึ่งจะเห็นได้ว่าครึ่งปีแรกจะเกิดเซกเตอร์โลเคชัน กลุ่มแบงก์ขึ้นมาแรงมาก แต่หลังจากนั้น ARK อยู่ในลักษณะ Sideway ที่วิ่งอยู่ในกรอบ คาดว่าผลตอบแทนจะกลับมาดีขึ้นในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2565”

 

นอกจากนี้ หากย้อนกลับไปดูช่วงวันที่ 1 ธันวาคม 2564 นักลงทุนอาจเกิดความตื่นตระหนกที่ ARK ร่วงลงแรง แต่อยากให้นักลงทุนได้ย้อนกลับไปดูต่อในช่วงวันศุกร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2564 ที่ตลาดหุ้นทั่วโลกต่างได้รับผลกระทบจากข่าวโอไมครอน ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ตกลงไป 2% ยุโรป 3% แต่กองทุน ARK ตกลงมาแค่ 0.2% เท่านั้น นั่นหมายความว่า ARK ไม่ได้กังวล ไม่ได้มีความตกใจจากโอไมครอนมากนัก 

 

ส่วนการปรับพอร์ตของนักลงทุนนั้น แนะนำว่าหากนักลุงท่านใดมีกองทุนนี้อยู่แล้ว และขาดทุนอยู่ประมาณ 20-30% วันนี้ถ้า Cut Loss ผมมองว่ามันสายเกินไป แต่อยากให้รอดูสถานการณ์ไปก่อน เพราะว่าพื้นฐาน ARK ไม่ได้แย่ แต่เกิดจากความแพนิกของตลาดเท่านั้น จึงไม่อยากให้นักลงทุนเล่นกับอารมณ์ของตลาด เพราะปรัชญาการลงทุนของ ARK คือการถือครองระยะยาว 3 ปีขึ้นไป โดยไม่สนใจข่าวในระยะสั้น 

 

ส่วนนักลงทุนที่กำลังจะเข้ามาลงทุน แนะนำว่าควรแบ่งไม้ลง สมมติว่าลงทุน 10% อาจจะแบ่งไม้ลงทุนรอบละ 3 ไม้ เพราะเราไม่รู้ว่าจะเกิด Technical Rebound เมื่อไร และนักลงทุนที่สนใจในกองทุน ARK อยากให้ประเมินความสามารถในการรับความเสี่ยงของตัวเองให้ได้ก่อน ถ้าคิดว่าสามารถรับความเสี่ยงได้ควรมีในพอร์ตไม่เกิน 5-7% 

 

ด้าน มนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้อำนวยการ บลจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (LH Fund) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับ THE STANDARD WEALTH ว่า กองทุน ARK เป็นการลงทุนระยะยาวที่นักลงทุนต้องมีความเชื่อมั่นต่อธุรกิจที่ ARK เข้าไปลงทุน เพราะส่วนใหญ่แล้วเป็นธุรกิจเทคโนโลยีสู่โลกอนาคตเกือบทั้งหมด ซึ่งเมื่อเวลาที่ดอกเบี้ยขึ้นจะมีปัญหาเกือบหมด บวกกับปัญหาเงินเฟ้อขึ้นก็จะได้รับผลกระทบตามมา 

 

ทั้งนี้ กองทุนเปิด แอล เอช อินโนเวชั่น ชนิดสะสมมูลค่า (LHINNO-A) ที่เปิดไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาก็ถือว่าได้รับผลกระทบเช่นกัน เพราะกองทุนดังกล่าวมีนโยบายการลงทุนในนวัตกรรมเปลี่ยนโลก ผ่านกองทุน ETF 3 กองทุน ได้แก่ ARK Innovation ETF, ARK Genomic ETF และ Invesco WilderHill Clean Energy ETF โดยมี 3 Class ให้นักลงทุนเลือกลงทุนได้ตามความเหมาะสม ได้แก่ Class A (ชนิดสะสมมูลค่า) Class D (ชนิดจ่ายเงินปันผล) และ Class E (ช่องทางอิเล็กทรอนิกส์) โดยในปีหน้าจะมีการปรับพอร์ตให้มี ESG เข้าไปด้วย

 

แต่อย่างไรก็ตาม การลงทุนในกองทุน ARK ควรเป็นการลงทุนระยะยาว 3 ปีขึ้นไป จึงอยากให้นักลงทุนอดทนรอเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนที่ดี ซึ่งนักลงทุนอาจตกใจ และเกิดความกังวลบ้างในช่วงที่ตลาดหุ้นตกแรงเมื่อช่วงวันอังคารที่ 1 ธันวาคม 2564 เนื่องจาก Fed ออกมาตอกย้ำเรื่องของการขึ้นอัตราดอกเบี้ย และเงินเฟ้อที่มาควบคู่กัน และคาดว่าปัญหาเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ในระยะยาว จึงเกิดปัญหาทำให้เกิดแรงกดดันต่อการลงทุนได้ 

 

“การลงทุนในระยะยาว สำหรับผมแนะนำว่า ควรลงทุนถือยาวอย่างน้อย 3 ปี เพราะเวลาที่เราเข้าไปซื้อกองทุน ARK ที่จะนำมาลงทุนในไทย จะมีการระบุในหนังสืออย่างชัดเจนว่า ควรถือครองประมาณ 3-5 ปี เพราะสิ่งที่กองทุน ARK เข้าไปลงทุนเป็นนวัตกรรมอนาคตทั้งสิ้น ที่ไม่สามารถเปลี่ยนข้ามเซกเตอร์การลงทุนได้ ซึ่งต่างจากกองทุนหุ้นญี่ปุ่น อินเดีย หรือสหรัฐฯ กองพวกนี้สามารถปรับเปลี่ยนการลงทุนได้หากมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดมากระทบ”

 

ด้าน ชญานี จึงมานนท์ นักวิเคราะห์อาวุโส บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) จำกัด ระบุกับ THE STANDARD WEALTH ว่า กองทุน ARK Innovation (ARKK) มีผลตอบแทนราว -20% และ -11% ในช่วง 1 ปีและ 6 เดือนที่ผ่านมา ตามลำดับ (ข้อมูล ณ วันที่ 1 ธันวาคม 2564) หากนักลงทุนที่สนใจควรทราบว่า กองทุนนี้เป็นกองทุนที่มีความผันผวนสูง ลักษณะการลงทุนเป็นไปตามแนวคิดว่าเทคโนโลยีจะปฏิวัติอุตสาหกรรมต่างๆ ทั่วโลก ซึ่ง ARK Invest มักจะชอบหุ้นที่ผันผวนสูง หรืออาจยังไม่มีกำไรก็ได้ นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยง Key-person Risk ซึ่งก็คือ Cathie Wood ที่มีผลต่อทิศทางกองทุนในอนาคต

 

กองทุนมีการลงทุนที่ค่อนข้างกระจุกตัว Top Holding 10 อันดับแรกจะอยู่ที่ 45-60% ของพอร์ต ซึ่งก่อนหน้านี้ในช่วงที่มีเงินเข้าลงทุนใน ARKK มากขึ้น ทำให้กองทุนมีความเสี่ยงเรื่องสภาพคล่องหุ้นที่ลงทุน และกระทบต่อผลตอบแทนในช่วงที่ผ่านมา 

 

ผลตอบแทนกองทุนนี้เริ่มหดตัวลงในช่วงเดือนมีนาคมที่ Bond Yield เริ่มขยับขึ้น และเกิดแรงขายหุ้นเทคโนโลยี โดยกองทุนนี้มีการลงทุนส่วนใหญ่ในหมวด Technology, Communication Services และ Healthcare ซึ่งส่วนใหญ่มีผลตอบแทนติดลบในปีนี้ ตัวอย่างหุ้นที่อยู่ใน Top Holding เช่น Teledoc, Zoom Video, Zillow Group, Exact Sciences โดยหุ้นเหล่านี้มีผลตอบแทนติดลบค่อนข้างมากในปีนี้ ซึ่งกระทบต่อผลตอบแทนกองทุนราว 8% (ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2564)

 

 

 

 

อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ปรับพุ่งขึ้น เป็นแรงกดดันให้ Fed ประกาศขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ บวกกับ Bond Yield อายุ 10 ปีของสหรัฐฯ ปรับสูงขึ้น การลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก อย่าง Global REITs จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีได้ ทีมข่าว THE STANDARD WEALTH ได้จัด 10 อันดับที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดตั้งแต่ต้นปี

 

ทั้งนี้ ก่อนตัดสินใจลงทุน ผู้ลงทุนต้องใช้วิจารณญาณในการพิจารณาข้อมูลรายละเอียด เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising