×

เจาะลึกกองทุน ARK ปมเหตุทำปีนี้ติดลบหนัก ด้าน Morningstar หั่นเรตติ้งอยู่ในกลุ่มทำผลงานได้แย่สุด

02.05.2022
  • LOADING...
กองทุน ARK

หนึ่งในบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เชื่อว่าจะต้องมีชื่อของ ARK Invest ภายใต้การบริหารจัดการของ แคธี วูด อยู่ด้วย ด้วยการเติบโตโดยเฉพาะเมื่อปี 2020 ซึ่งกองทุนหลักอย่าง ARK Innovation ETF (ARKK) นับเป็นกองทุนหลักของบริษัทที่สร้างผลตอบแทนสูงถึง 170% ส่งผลให้ในช่วงที่พีคที่สุดกองทุน ARKK สามารถสร้างผลตอบแทนได้ถึงประมาณ 700% นับแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อปี 2014 

 

นอกจากกองทุน ARKK แล้ว ARK Invest ยังมีกองทุนหลักอื่นๆ ในตระกูล ARK อีก 5 กองทุน คือ ARK Next Generation Internet ETF (ARKW), ARK Genomic Revolution ETF (ARKG), ARK Autonomous Tech & Robotics ETF (ARKQ), ARK Fintech Innovation ETF (ARKF) และ ARK Space Exploration & Innovation ETF (ARKX) 

 

แต่หลังจากก้าวเข้าสู่ปี 2021 ภาพของกองทุนภายใต้การบริหารของ ARK กลับพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ อย่างราคาหน่วยลงทุนของกองทุน ARKK ที่เคยสูงถึงประมาณ 160 ดอลลาร์ ค่อยๆ ไหลลงมาต่อเนื่องจนมาเหลือเพียง 48-49 ดอลลาร์ และเฉพาะตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ราคาของ ARKK ก็ลดลงมาแล้วถึง 51% 

 

ขณะที่กองทุนอื่นๆ ภายใต้การบริหารงานของ ARK Invest ต่างก็ติดลบหนักเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ดี หากย้อนกลับไปดูผลตอบแทนของแต่ละกองทุนนับแต่จัดตั้งกองทุน ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีของแต่ละกองทุนยังคงเป็นบวกได้

 

 

กองทุน ARK

 

 

Morningstar ได้จัดทำบทวิเคราะห์กองทุน ARK Innovation ETF (ARKK) โดยเป็นการประเมินกองทุนเชิงคุณภาพใน 3 ด้าน คือ Process People และ Parent ซึ่งกองทุน ARKK ได้เรตติ้งลดลงจากระดับ Neutral มาเป็น Negative หมายถึงกองทุนอยู่ในกลุ่ม 30% ที่แย่ที่สุดของกองทุนที่คาดว่าจะสร้างผลตอบแทนส่วนเกินได้น้อยกว่าหรือเท่ากับศูนย์

 

สาเหตุสำคัญที่ทำให้กองทุน ARKK ลงมาอยู่ที่ระดับต่ำสุดคือ กองทุนยังมีความเสี่ยงในด้าน Parent และ People โดยมี แคธี วูด เป็นผู้จัดการกองทุนเพียงคนเดียวมาตั้งแต่จัดตั้งบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ประกอบกับทีมนักวิเคราะห์ที่ถือว่ายังขาดประสบการณ์เชิงลึกในแต่ละอุตสาหกรรมเมื่อเทียบกับคู่แข่งรายอื่น และขาดบุคลากรด้านบริหารความเสี่ยง 

 

บลจ. มีแผนการให้ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย เบรตต์ วินตัน รับช่วงต่อเพื่อรองรับความเสี่ยงจากการพึ่งพิงบุคคลสำคัญเพียงคนเดียว (Key-Person Risk) แต่ เบรตต์ วินตัน ยังไม่เคยเป็นผู้จัดการกองทุนในประสบการณ์ 15 ปีที่ผ่านมา 

 

ด้านการลงทุนของ ARK เน้นไปที่ 5 กลุ่ม คือ AI, Blockchain, DNA Sequencing, Energy Storage และ Robotics ซึ่งทีม ARK เชื่อว่าจะเป็นกลุ่มที่สร้างการเปลี่ยนแปลงต่อเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในอนาคต ซึ่งอาจเป็นธุรกิจขนาดเล็กที่ยังไม่ทำกำไรและขาดสภาพคล่อง และในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ARK ต้องเผชิญกับความท้าทายคือ กองทุนมีเงินไหลเข้าจำนวนมาก ทำให้การลงทุนในหุ้นขนาดเล็กเหล่านั้นมีปัญหาสภาพคล่องมากขึ้น 

 

พอร์ตโฟลิโอของกองทุน ARKK ล่าสุด มีจำนวนหุ้น 35 ตัว ซึ่งน้อยลงจากอดีตที่เคยสูงสุดในช่วงเดือนเมษายน 2021 ที่ 60 ตัว ทำให้กองทุน ARKK เป็นหนึ่งในกองทุนที่มีการลงทุนกระจุกตัวสูงมาก โดยหุ้น 10 อันดับแรก คิดเป็น 60% ของมูลค่าการลงทุน หากดูในส่วนรายธุรกิจพบว่าลงทุนใน Biotechnology 15% ของพอร์ต หรือมากกว่า Russell Midcap Growth Index ถึง 5 เท่า 

 

วิริยะชัย จิตตวัฒนรัตน์ รองผู้อำนวยการฝ่าย Private Wealth Management ธนาคารกรุงไทย มองว่า ด้วยความเสี่ยงในตลาดที่สูงขึ้นมาก โดยเฉพาะนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่เปลี่ยนไป ทั้งความเสี่ยงจากการขึ้นดอกเบี้ย การลดวงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจมาโดยตลาด ทำให้หุ้นเติบโตสูงอย่างหุ้นเทคโนโลยีได้รับประโยชน์มาตลอดเกือบ 10 ปี 

 

อย่างไรก็ตาม จะเห็นว่าหุ้นในพอร์ตของกองทุน ARK อย่างเช่น Teladoc ที่เพิ่งโดนเทขายหนัก หุ้นเหล่านี้เป็นหุ้นที่มีราคาค่อนข้างแพง ขณะที่กำไรยังต่ำ สะท้อนว่านักลงทุนคาดหวังต่อกำไรในอนาคตอย่างมาก แต่เมื่อกำไรจริงออกมาต่ำกว่าคาด จึงทำให้หุ้นเหล่านี้ถูกเทขายอย่างหนัก 

 

“ด้วยสไตล์ของกอง ARK จะเหมาะกับภาวะตลาดในช่วงก่อนหน้านี้มากกว่า แต่ขณะนี้เป็นช่วงท้ายของวัฏจักรเศรษฐกิจแล้ว ที่ผ่านมาจะเห็นว่ากองทุน ARK เคลื่อนไหวสอดคล้องกับดัชนี Nasdaq100 อย่างมาก ซึ่งคล้ายกับช่วงวิกฤตดอตคอมที่หุ้นอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นมาจากสตอรี แต่กำไรไม่สามารถทำได้อย่างที่คาดหวังไว้ ซึ่งหุ้นในพอร์ตของ ARK ตอนนี้คล้ายกับช่วงนั้น” 

 

วิริยะชัยกล่าวต่อว่า สำหรับนักลงทุนที่ยังมีเงินลงทุนใน ARK อยู่ โดยอาจจะขาดทุนมากน้อยต่างกัน หากลงทุนระยะยาวจริงๆ โดยมองไกล 5-10 ปี และเชื่อในเรื่องราวการเติบโตในหุ้นเหล่านี้ก็อาจจะถือต่อไปได้ 

 

แต่สำหรับนักลงทุนที่อาจจะมีมุมมองและความคาดหวังในระยะสั้น มีความเสี่ยงที่ราคาหน่วยลงทุนจะลดลงได้อีกในระยะสั้น เพราะฉะนั้นกองทุน ARK อาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนักสำหรับเงินลงทุนก้อนใหม่ 

 

“จากงานวิจัยที่ผ่านมา ช่วงที่ GDP เริ่มชะลอตัวลง หุ้นกลุ่มที่น่าสนใจคือ เฮลท์แคร์ เพราะธุรกิจนี้มีความสามารถในการคงราคาค่าบริการได้ ซึ่งสถิติที่ผ่านมาหุ้นกลุ่มนี้มักให้ผลตอบแทนดีกว่าตลาด นอกจากนี้หุ้นกลุ่มที่สามารถเติบโตอย่างยั่งยืนแต่อาจจะไม่หวือหวา และมี Branding แข็งแกร่งก็น่าสนใจ” 

 

อีกกลุ่มหนึ่งที่น่าสนใจคือกลุ่มพลังงาน ด้วยภาวะสงครามที่ยืดเยื้อ ทำให้ Demand และ Supply ยังไม่สมดุล ประกอบกับราคาน้ำมันที่เริ่มฟื้นตัวอีกครั้ง จึงแนะนำให้เข้าซื้อที่ราคาน้ำมัน WTI ใกล้ 100 ดอลลาร์ และขายทำกำไรบริเวณ 115-120 ดอลลาร์ โดยกำหนดจุดตัดขาดทุนประมาณ 7% จากจุดเข้าซื้อ 

 

ด้าน MarketWatch ระบุว่า 4 ใน 6 กองทุนหลักของ ARK ได้แก่ ARKF, ARKK, ARKW และ ARKG ติดอันดับ 15 กองทุน ETF ที่นักลงทุนขาชอร์ตสามารถทำกำไรได้มากที่สุดในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา 

 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าราคาของกองทุน ARK จะลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ Aniket Ullal หัวหน้าฝ่าย ETF Data & Analytics ของ CFRA Research กล่าวว่า ยังมีคนอีกจำนวนมากที่ยังคงลงทุนกับ แคธี วูด

 

ตั้งแต่ต้นปี 2565 จนถึง 26 เมษายนที่ผ่านมา นักลงทุนใส่เงินลงทุนเข้ามาเพิ่มในกองทุน ARKK ถึง 933.9 ล้านดอลลาร์ โดยในส่วนนี้เป็นเงินลงทุนที่เข้ามาเฉพาะเดือนเมษายน จำนวน 224 ล้านดอลลาร์ 

 

“ด้วยผลตอบแทนระดับนี้ (-48% จากต้นปี) การได้เงินทุนเข้ามาขนาดนี้ก็ถือว่าน่าประทับใจ ช่วงนี้เป็นช่วงที่การลงทุนที่มุ่งเน้นในหุ้นเติบโตถูกกดดันอย่างมาก ผมคิดว่าพวกเขาเข้าใจนะว่ากองทุนของ แคธี วูด จะยังไม่สร้างผลตอบแทนที่ดีในภาวะตลาดเช่นนี้” 

 

 

ภาพประกอบ: นิสากร ฤทธาภัย

อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising