×

ครม. อนุมัติงบ 3.4 หมื่นล้านบาท ประกันราคาข้าว-ปาล์ม

โดย THE STANDARD TEAM
27.08.2019
  • LOADING...
ประกันราคาข้าว-ปาล์ม

รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงผลการพิจารณาโครงการประกันรายได้เกษตรกรปลูกข้าวและประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ปี 2562/2563 ของคณะรัฐมนตรี ตามที่กระทรวงพาณิชย์ได้เสนอขออนุมัติโครงการประกันรายได้เกษตรกรปลูกข้าวและประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ปี 2562/2563 โดยวันนี้คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติทั้งสองโครงการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

สำหรับโครงการประกันรายได้เกษตรกรปลูกข้าว คณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณวงเงิน 21,495 ล้านบาท เพื่อใช้ในการประกันรายได้เกษตรกรที่ปลูกข้าว 5 ชนิด มีเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรปลูกข้าว ปี 2562 จำนวน 892,176 ครัวเรือน ระยะเวลาโครงการ ตุลาคม 2562 – ตุลาคม 2563 ประเภทข้าวที่ได้รับประกัน ได้แก่

 

  • ข้าวเปลือกหอมมะลิ 15,000 บาท/ตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน
  • ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ 14,000 บาท/ตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน
  • ข้าวเปลือกเจ้า 10,000 บาท/ตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ตัน
  • ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี 11,000 บาท/ตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ตัน
  • ข้าวเปลือกเหนียว 12,000 บาท/ตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน

 

เกษตรกรผู้มีสิทธิได้รับเงินชดเชยคือผู้ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2562/2563 กับกระทรวงเกษตรกรและสหกรณ์ โดยเกษตรกรจะได้รับเงินส่วนต่างโอนเข้าบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) โดยตรง หากราคาตลาดต่ำกว่าราคารับประกันรายได้ 

 

ขณะที่โครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน คณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณวงเงิน 13,378 ล้านบาท เพื่อใช้ในการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มที่ขึ้นทะเบียน 300,000 ราย ระยะเวลาโครงการ สิงหาคม 2562 – กันยายน 2563

 

ทั้งนี้ผลปาล์มทะลายที่เข้าโครงการจะต้องมีคุณภาพน้ำมัน 18% ประกันรายได้ที่กิโลกรัมละ 4 บาท ให้ความช่วยเหลือครัวเรือนละไม่เกิน 25 ไร่ และเป็นพื้นที่ปลูกปาล์มที่ให้ผลผลิตแล้ว (อายุไม่น้อยกว่า 3 ปี) เกษตรกรจะได้รับเงินส่วนต่างโอนเข้าบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) โดยตรง หากราคาตลาดต่ำกว่าราคารับประกันรายได้ 

 

นอกจากนี้แล้ว คณะรัฐมนตรียังเห็นชอบแนวทางการดำเนินการบริหารปาล์มน้ำมันทั้งระบบ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการทำงานของหลายกระทรวง เพื่อเร่งเพิ่มปริมาณการใช้น้ำมันปาล์มในประเทศและควบคุมปริมาณน้ำมันปาล์มล้นตลาด เช่น

 

การใช้น้ำมันปาล์มดิบเพื่อการผลิตไฟฟ้า โดยเร่งรัดการจัดซื้อน้ำมันปาล์มดิบส่วนที่เหลือ 133,750 ตัน เพื่อนำไปใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าบางปะกงให้ครบ 200,000 ตัน ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2562 ให้แล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์

 

การส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซล เห็นชอบให้กระทรวงพลังงานเร่งดำเนินการปรับดันให้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B10 เป็นน้ำมันดีเซลมาตรฐานภายในสิ้นปี 2562 จากเดิมที่เป็น B7 และสนับสนุนให้ใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 และ B7 เป็นทางเลือก

 

ถ้าทำสองแนวทางนี้ได้ตามเป้าหมาย เชื่อมั่นว่าจะทำให้ราคาน้ำมันปาล์มมีราคาที่สูงขึ้นได้อย่างแน่นอน

 

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising