สำนักข่าว Bloomberg ระบุเงินบาทแข็งค่ารับปีใหม่ โดยเช้านี้ (1 มกราคม) ค่าเงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 29.71 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นการแข็งค่าที่สุดในรอบ 6 ปี ขณะที่เมื่อวาน (31 ธันวาคม 2562) อยู่ที่ระดับ 29.87 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ ค่าเงินบาทแข็งค่าอย่างต่อเนื่องในช่วง 3 วันที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม ค่าเงินบาทแข็งค่าต่ำกว่า 30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ มาอยู่ที่ 29.92 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้ความเห็นว่า สาเหตุที่เงินบาทต่ำกว่า 30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เกิดจากการเร่งทำธุรกรรมก่อนสิ้นปีของผู้ประกอบการบางรายในสภาวะที่ตลาดมีสภาพคล่องต่ำ ความต้องการซื้อและขายเงินตราต่างประเทศไม่สมดุลในช่วงก่อนวันหยุดสิ้นปี นอกจากนี้ ยังเป็นผลจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับสกุลเงินภูมิภาคในช่วงปลายปีด้วย
อย่างไรก็ตาม ค่าเงินบาทมีทิศทางแข็งค่าต่อเนื่อง ปัจจัยหลักมาจากโครงสร้างของประเทศไทยที่เกินดุลสะพัด ขณะเดียวกันรายได้หลักมาจากการส่งออกและการท่องเที่ยว ทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าเป็นสิ่งที่ภาครัฐ เอกชน และประชาชนที่ทำธุรกิจเกี่ยวเนื่องกันจับตามอง
สำหรับทิศทางค่าเงินบาทปี 2563 นักวิเคราะห์หลายรายให้ความเห็นว่า ค่าเงินบาทจะปรับตัวแข็งค่าขึ้นอีกเล็กน้อย เนื่องจากปี 2562 ที่ผ่านมาปรับตัวแข็งค่าขึ้น 7-8% ซึ่งแข็งค่าขึ้นกว่าปกติแล้ว ด้านธนาคารกรุงไทยประเมินว่า สิ้นปี 2563 ค่าเงินบาทมีโอกาสแข็งค่าไปถึง 28.70 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ธนาคารกสิกรไทยคาดการณ์ว่าค่าเงินบาท ณ สิ้นปี 2563 จะอยู่ที่ระดับ 29.25 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์