ศาลยุติธรรมยุโรป (ECJ) ตัดสินให้ Apple ต้องจ่ายภาษีย้อนหลังให้ไอร์แลนด์เป็นจำนวนเงินสูงถึง 1.3 หมื่นล้านยูโร (ประมาณ 4.8 แสนล้านบาท) พร้อมดอกเบี้ย และ Google ต้องจ่ายค่าปรับ 2.42 พันล้านยูโร (ประมาณ 8.9 หมื่นล้านบาท) ในข้อหาละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาด ซึ่งถือเป็นชัยชนะครั้งสำคัญของหน่วยงานกำกับดูแลการแข่งขันในยุโรปในการควบคุมบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่
คดีของ Appleเริ่มต้นในปี 2016 เมื่อคณะกรรมาธิการยุโรปกล่าวหาว่าไอร์แลนด์ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ผิดกฎหมายแก่ Appleทำให้บริษัทจ่ายภาษีน้อยกว่าที่ควรจะเป็นอย่างมาก โดยสั่งให้ไอร์แลนด์เรียกเก็บภาษีย้อนหลังจาก Appleระหว่างปี 2003-2014 พร้อมดอกเบี้ย ซึ่งทั้ง Appleและรัฐบาลไอร์แลนด์ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งนี้
ในปี 2020 ศาลชั้นต้นของ ECJ ได้ยกเลิกคำตัดสินของคณะกรรมาธิการยุโรป แต่ล่าสุด ECJ ได้กลับคำตัดสินของศาลชั้นต้น โดยระบุว่าศาลชั้นต้นมีข้อผิดพลาดทางกฎหมาย และยืนยันคำตัดสินเดิมของคณะกรรมาธิการยุโรป
Appleแสดงความผิดหวังต่อคำตัดสิน และกล่าวหาว่าคณะกรรมาธิการยุโรปพยายาม ‘เปลี่ยนกฎหมายย้อนหลัง’ พร้อมยืนยันว่าบริษัทจ่ายภาษีครบถ้วนตามกฎหมายและไม่เคยได้รับสิทธิพิเศษใดๆ อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าจะต้องบันทึกค่าใช้จ่ายภาษีสูงถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3.37 แสนล้านบาท) ในไตรมาส 4 ของปีงบประมาณนี้
ในวันเดียวกัน ECJ ได้ตัดสินยืนยันค่าปรับ 2.42 พันล้านยูโร (ประมาณ 8.9 หมื่นล้านบาท) ที่คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดไว้ในปี 2017 ในข้อหาที่ Google ละเมิดอำนาจเหนือตลาด โดยการโปรโมตบริการเปรียบเทียบสินค้าของตัวเองในผลการค้นหา และลดอันดับของคู่แข่ง
Google Shopping ซึ่งเป็นบริการที่ช่วยให้ผู้บริโภคเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์และราคา ได้รับการโปรโมตอย่างไม่เป็นธรรมในผลการค้นหาของ Google ซึ่งถือเป็นการละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาด
คำตัดสินทั้งสองคดีถือเป็นชัยชนะครั้งสำคัญของคณะกรรมาธิการยุโรปและ Margrethe Vestager กรรมาธิการยุโรปด้านการแข่งขัน ซึ่งได้ดำเนินการอย่างแข็งขันในการควบคุมบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของโลก
Vestager กล่าวว่า “วันนี้เป็นชัยชนะครั้งใหญ่สำหรับพลเมืองยุโรปและความยุติธรรมทางภาษี” และ “คดีนี้เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นว่าแม้แต่บริษัทเทคโนโลยีที่ทรงพลังที่สุดก็สามารถถูกตรวจสอบได้ ซึ่งไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย”
อย่างไรก็ตาม คำตัดสินล่าสุดนี้ถือเป็นชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่สำหรับคณะกรรมาธิการยุโรป ในความพยายามที่จะหยุดยั้งบริษัทขนาดใหญ่ไม่ให้บิดเบือนกฎหมาย
นอกจากนี้ยังเป็นการส่งสัญญาณเตือนไปยังบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่อื่นๆ ว่า EU จะไม่ลังเลที่จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวด เพื่อสร้างความเป็นธรรมในการแข่งขันและปกป้องผลประโยชน์ของผู้บริโภค
ภาพ: Apple
อ้างอิง: