วันนี้ (21 ตุลาคม) ภายหลังการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น พล.อ. อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ยืนยันว่า เป็นความตั้งใจที่จะมาพบกับกรรมาธิการ แม้ว่าจะติดภารกิจที่จังหวัดกาญจนบุรี จึงรีบบินกลับมา เพราะต้องการให้ความสำคัญกับคณะกรรมาธิการ รวมถึงงานฝ่ายบริหาร และนิติบัญญัติที่จะต้องทำงานร่วมกันต่อไปให้ได้
โดยบรรยากาศการชี้แจงเป็นไปด้วยดี และได้แลกเปลี่ยนมุมมองกันหลายเรื่องที่เกี่ยวกับความมั่นคง แต่คงไม่เรียกว่าปรับความเข้าใจ เพราะเข้าใจบทบาทหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎรและกรรมาธิการ ซึ่งมีข้อมูลและข้อห่วงใยหลายเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อกองทัพที่จะนำไปพัฒนาปรับปรุงต่อไป
ส่วนประเด็นหารือที่จะนำไปปรับใช้ พล.อ. อภิรัชต์ เปิดเผยว่า มีการเสนอความคิดเห็นเรื่องภาคใต้ เรื่องเทคโนโลยีที่จะนำมาใช้ เรื่องยาเสพติด ซึ่งกรรมาธิการให้มุมมองและประสบการณ์มาแลกเปลี่ยน ก็มีความเห็นพ้องต้องกันหลายประเด็น โดยหลังจากนี้จะมีการส่งที่ปรึกษาของกองทัพบกมาร่วมแลกเปลี่ยนกับกรรมาธิการอย่างต่อเนื่อง
เมื่อถามว่า การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในวันนี้จะทำให้เปลี่ยนมุมมองที่มีต่อการเมืองในทางที่ดีมากขึ้นหรือไม่ พล.อ. อภิรัชต์ ระบุว่า นักข่าวถามไม่ตรง เพราะบนเวทีบรรยายแผ่นดินของเราไม่ได้พูดถึงพรรคการเมืองใดแม้แต่พรรคการเมืองเดียว พร้อมกับหันไปถาม พล.ท. พงศกร รอดชมภู ประธานกรรมาธิการ ว่า “ใช่ไหมพี่” ก่อนย้ำว่า “ไม่ได้พูดเลย ไม่ได้เอ่ยชื่อพรรคการเมืองหรือพูดถึงใครเลย แต่พูดไปตามบทบาทหน้าที่ เช่นเดียวกับ ส.ส. และกรรมาธิการ ที่มีบทบาทหน้าที่ บางครั้ง หน้าที่เป็นตัวกำหนดอีโมชันออกมา ผมมีบทบาทหน้าที่ด้านความมั่นคง ท่านมีบทบาทหน้าที่รักษาและเป็นเสียงให้กับประชาชนที่เลือกมา หลายๆ ที่ที่ผมเห็นในทีวี ในสภาฯ ท่านดุเดือด วิจารณ์ดุเดือด พอมาเจอก็คนละรูปแบบ เช่นเดียวกัน ท่านบอกผมดุ แต่พอมาเจอก็ไม่ใช่แบบนั้นเลย”
เมื่อถามว่า ถือเป็นสัญญาณดีที่จะทำให้การเมืองกับการทหารทำงานควบคู่กันต่อไปได้ พล.อ. อภิรัชต์ กล่าวว่า ถือเป็นสัญญาณดี หากไม่ใช่ก็คงไม่มา ส่วนกระแสข่าวที่มีชื่อเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีต่อจาก พล.อ. ประยุทธ์ มองว่า ทุกฝ่ายควรอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงว่าเป็นไปได้หรือไม่ เพราะสถานะ สภาวะต่างๆ ไม่สามารถเป็นไปได้ เพราะยังรับราชการทำหน้าที่ ผบ.ทบ. อยู่ และอีกฐานะหนึ่งเป็นสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งตามรัฐธรรมนูญก็ไม่สามารถเป็นไปได้ตามที่เป็นข่าวอยู่แล้ว แต่กรณีที่ผู้ใหญ่ได้เอ่ยถึง เพราะว่ามีการป้อนคำถามเข้าไป ก็เลยเป็นคำตอบต่อเนื่อง อย่าไปจริงจังหรือซีเรียสกับเรื่องดังกล่าว
เมื่อถามว่า ในอนาคตจะมีโอกาสมาเล่นการเมืองหรือไม่ พล.อ. อภิรัชต์ ระบุว่า “ผมเป็นเพื่อนกับนักการเมืองดีกว่า ผมไม่เล่นการเมือง ผมไม่เล่นกับนักการเมือง ก็ดีครับ”
ขณะที่ พล.ท. พงศกร กล่าวขอบคุณ พล.อ. อภิรัชต์ ที่มาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และเชื่อว่า สิ่งที่ได้พูดคุยจะเป็นประโยชน์ต่อทั้ง 2 ฝ่าย บางเรื่องก็เป็นเรื่องลับที่พูดออกไปก่อนไม่ได้ แต่สิ่งที่พบในวันนี้คือ ความร่วมมือกันระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติกับผู้ปฏิบัติงานฝ่ายบริหาร และเชื่อว่า ในระยะยาวจะเกิดประโยชน์ต่อไป
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล