วันนี้ (19 พฤศจิกายน) เวลา 09.40 น. ณ ห้อง Plenary Hall 2 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิต์ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจ APEC ครั้งที่ 29 รูปแบบ Retreat ช่วงที่ 2 หัวข้อ ‘การค้าและการลงทุนที่ยั่งยืน’ ภายหลังเสร็จสิ้น อนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยสาระสำคัญของการหารือ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวต่อที่ประชุมว่า การค้าและการลงทุนมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนและครอบคลุมทั่วทั้งภูมิภาคและโลก การค้าและการลงทุนถือเป็นหัวใจสำคัญของความร่วมมือใน APEC โดยองค์ประกอบสำคัญประการหนึ่งที่ APEC สนับสนุนและสนับสนุนมาโดยตลอดคือ ระบบการค้าพหุภาคีมี WTO เป็นแกนหลัก
ทั้งนี้ APEC สามารถมีบทบาทในฐานะแหล่งบ่มเพาะทางความคิด โดยร่วมกันหาทางออกใหม่ๆ เพื่อขับเคลื่อนประเด็นต่างๆ เช่น ความครอบคลุม ความยั่งยืน และการเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิทัล
ขณะที่การสนับสนุนสำคัญอย่างหนึ่งของ APEC ในระบบการค้าพหุภาคีคือ การขับเคลื่อนวาระเรื่องเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก (Free Trade Area of the Asia-Pacific: FTAAP) ที่ในปีนี้มีความก้าวหน้าอย่างมาก โดยจัดทำแผนงานต่อเนื่องหลายปี เพื่อขับเคลื่อนวาระเรื่อง FTAAP ต่อไป ซึ่งจะช่วยสร้างศักยภาพและเตรียมเศรษฐกิจให้พร้อมสำหรับยุคหน้า รวมถึงประเด็นการค้าและการลงทุนยุคใหม่ เช่น ความยั่งยืน เศรษฐกิจดิจิทัล การค้า และสาธารณสุข
พล.อ. ประยุทธ์ ระบุว่า นอกจากจะต้องดำเนินการตามแผนงานต่อเนื่องแล้ว ยังต้องคำนึงถึงขั้นตอนต่อไปด้วย โดยปีที่ผ่านมาเทคโนโลยีดิจิทัลช่วยรับมือและทำให้ฟื้นตัวจากโควิด รวมทั้งยังสนับสนุน MSMEs ที่ถือเป็นกลไกขับเคลื่อนการเติบโต ให้สามารถเข้าสู่ตลาดโลกและห่วงโซ่อุปทาน
นอกจากนี้ยังขยายการเข้าถึงและสร้างโอกาสให้กับสตรีและเยาวชน ตลอดจนในชนบทและพื้นที่ห่างไกล อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรีเห็นว่ายังคงมีช่องว่างอยู่ จึงจำเป็นที่จะต้องลดช่องว่างด้านดิจิทัลและเสริมพลัง เพื่อสร้างหลักประกันให้กับคนทุกกลุ่ม
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวสรุปว่า APEC เห็นพ้องว่าต้องทำงานร่วมกัน เพื่อส่งเสริมความมั่งคั่งและความกินดีอยู่ดีของประชาชนทุกคนในภูมิภาค โดยเฉพาะเมื่อคำนึงถึงแนวโน้มทางเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน ทั้งนี้ ยินดีที่ APEC มุ่งมั่นสนับสนุนระบบการค้าพหุภาคีที่มี WTO เป็นศูนย์กลาง รวมทั้งให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนวาระ FTAAP โดย APEC ยังสนับสนุนการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเติบโต โดยเฉพาะสำหรับ MSMEs และธุรกิจนอกระบบ รวมถึงการส่งเสริมการค้า การลงทุน และห่วงโซ่อุปทานที่ยั่งยืนและยืดหยุ่น มุ่งเน้นการจัดการกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ซึ่งไทยหวังว่าแนวคิดเศรษฐกิจ BCG จะช่วยบ่มเพาะความคิดใหม่ๆ เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตที่ยั่งยืนและครอบคลุมร่วมกันต่อไป
ในช่วงท้ายของการประชุม ผู้นำเขตเศรษฐกิจ APEC ได้ร่วมกันรับรองร่างเอกสารผลลัพธ์จำนวน 2 ฉบับ ได้แก่ ปฏิญญาผู้นำเขตเศรษฐกิจ APEC ประจำปี 2022 และเป้าหมายกรุงเทพฯ (Bangkok Goals) ว่าด้วยเศรษฐกิจ BCG
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ร่วมพิธีส่งมอบตำแหน่งเจ้าภาพ APEC ให้สหรัฐฯ โดยแสดงความรู้สึกเป็นเกียรติและภาคภูมิใจที่ไทยได้เป็นเจ้าภาพการประชุม APEC ปี 2022 พร้อมขอบคุณการสนับสนุนอย่างแข็งขันจากทุกเขตเศรษฐกิจมาโดยตลอด
ขณะที่ พล.อ. ประยุทธ์ ระบุถึง ‘ชะลอม’ ที่เป็นสัญลักษณ์การเป็นเจ้าภาพ APEC ในปีนี้ว่า เป็นภูมิปัญญาไทยที่ใช้ในการขนส่งสินค้า บรรจุของใช้ยามเดินทาง และใส่ของขวัญสำหรับมอบให้แก่ญาติมิตร โดยชะลอมยังสะท้อนการเปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล และรูปแบบการทำงานของ APEC ได้เป็นอย่างดี ทั้งการผสานความเข้มแข็งที่หลากหลายและความพยายามของเขตเศรษฐกิจสมาชิกเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกที่เข้มแข็ง ยืดหยุ่น ครอบคลุม และยั่งยืน สำหรับชนรุ่นหลัง
ซึ่งนายกรัฐมนตรีรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่จะส่งมอบชะลอมใบนี้ให้เป็นทั้งของขวัญและสัญลักษณ์ของความเข้มแข็ง ยืดหยุ่น และความต่อเนื่องของความร่วมมือของพวกเราให้แก่สหรัฐฯ เจ้าภาพ APEC ในปีถัดไป
ทั้งนี้ APEC กำลังอยู่ในจุดเปลี่ยนผ่านที่สำคัญ โดยไทยพร้อมร่วมมือกับสหรัฐฯ ขับเคลื่อนงานของ APEC ต่อไปอย่างไร้รอยต่อและมั่นใจว่า ประเด็นด้านความยั่งยืนและครอบคลุม ซึ่งระบุในเป้าหมายกรุงเทพฯ ที่ได้ร่วมกันวางรากฐานไว้เป็นอย่างดีจะได้รับการสานต่อในปีหน้า ภายใต้หัวข้อหลักในการเป็นเจ้าภาพ APEC ของสหรัฐฯ เชื่อมั่นว่าภายใต้การนำของสหรัฐฯ APEC จะได้รับการส่งเสริมเป็นอย่างดี พร้อมอวยพรให้ประสบความสำเร็จในการเริ่มต้นวาระการเป็นเจ้าภาพ APEC ปี 2023