การประชุมสุดยอดผู้นำความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือ APEC ประจำปี 2024 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-16 พฤศจิกายน ณ กรุงลิมา ประเทศเปรู นับเป็นเวทีสำคัญที่ผู้นำจาก 21 เขตเศรษฐกิจทั่วภูมิภาคมาร่วมกันแลกเปลี่ยนมุมมอง และกำหนดทิศทางความร่วมมือในอนาคต ภายใต้หัวข้อ ‘Empower, Include, Grow’ หรือ ‘เพิ่มพลัง สร้างความครอบคลุม และขับเคลื่อนการเติบโต’
โดยการประชุมครั้งนี้มุ่งเน้นการสร้างเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างครอบคลุม (Inclusive Growth) ลดความเหลื่อมล้ำ และยกระดับแรงงานนอกระบบเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน โดยเปรูในฐานะเจ้าภาพเน้นย้ำการสร้าง ‘สนามแข่งขันที่เท่าเทียม’ (Level Playing Field) เพื่อให้ทุกคนมีโอกาสเข้าถึงทรัพยากรและโอกาสทางเศรษฐกิจ
ขณะที่ประเด็นสำคัญในแต่ละวงประชุม เช่น การค้าเสรีและการพัฒนาเศรษฐกิจยังคงเป็นหัวใจหลักของการหารือในปีนี้ ท่ามกลางความกังวลเรื่องแนวโน้มการกีดกันทางการค้าจากบางประเทศ โดยนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียกล่าวสนับสนุนอย่างหนักแน่นว่าการค้าเสรีคือ ‘กลไกสำคัญ’ ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจโลก ซึ่งผู้นำทุกฝ่ายเห็นพ้องที่จะผลักดันการเจรจาความตกลงการค้าระดับภูมิภาค เพื่อสร้างความเชื่อมโยงในห่วงโซ่อุปทานที่เข้มแข็งและยั่งยืน
ส่วนประเด็นโครงสร้างพื้นฐานและการเชื่อมโยงระดับโลกที่ถือเป็นหนึ่งในไฮไลต์สำคัญของการประชุมคือ การเปิดตัวโครงการท่าเรือ ‘Chancay Mega-Port’ มูลค่ากว่า 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท COSCO SHIPPING Ports ของจีน โดยโครงการนี้จะเป็นศูนย์กลางการค้าที่เชื่อมเอเชียกับอเมริกาใต้ และย้ำถึงบทบาทของจีนในฐานะผู้เล่นสำคัญในภูมิภาค
นอกจากนี้ในวงการประชุมว่าด้วยเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้รับการผลักดันอย่างจริงจังจาก โจ ไบเดน ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ที่เรียกร้องให้ทุกประเทศร่วมมือกันลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในขณะที่จีนก็ยืนยันถึงแผนการพัฒนาพลังงานสะอาดและการลงทุนในโครงการสีเขียวในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
ขณะที่ในวงการหารือระดับทวิภาคี เช่น การพบกันระหว่าง สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน และไบเดน ซึ่งทั้ง 2 คนพูดคุยถึงความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการแก้ปัญหาในระดับโลก เช่น สถานการณ์ยูเครน และโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก
ด้านประธานาธิบดีจีนยังพบปะกับ ชิเกรุ อิชิบะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น เป็นครั้งแรกเพื่อหารือในประเด็นสำคัญที่มีผลต่อความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ โดยประธานาธิบดีจีนเน้นย้ำให้ญี่ปุ่น ‘จัดการอย่างเหมาะสม’ กับประเด็นประวัติศาสตร์ที่ยังคงเป็นปัญหาอ่อนไหว เพื่อรักษาความสัมพันธ์ทางการเมืองที่มั่นคงระหว่างจีนและญี่ปุ่น ขณะที่ในประเด็นเกี่ยวกับไต้หวัน สีจิ้นผิงกล่าวถึงจุดยืนของจีนอย่างชัดเจน โดยเรียกร้องให้ญี่ปุ่นดำเนินการด้วยความระมัดระวัง รวมถึงเคารพในอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของจีน
ทั้งนี้ ดินา โบลัวร์เต ประธานาธิบดีเปรู ซึ่งปัจจุบันต้องเผชิญกับแรงกดดันภายในประเทศ จากปัญหาความไม่พอใจของประชาชนในเรื่องอาชญากรรมและการบริหารงาน โดยโบลัวร์เตกล่าวว่า APEC ครั้งนี้คือโอกาสสำคัญที่จะพิสูจน์ศักยภาพของเปรูในเวทีโลก แม้ต้องเผชิญอุปสรรคจากสถานการณ์ภายใน
ภาพ: Reuters
อ้างอิง:
- https://apnews.com/article/f5b0ea4611ab7b49e2e3d35c4a778412
- https://www.reuters.com/world/asia-pacific/xi-tells-ishiba-china-hopes-japan-will-properly-handle-history-taiwan-issues-2024-11-16/?utm_source=chatgpt.com