ค่าเช่าที่อยู่อาศัยในสิงคโปร์พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยซึ่งเป็นที่สนใจของชาวต่างชาติ จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นขึ้นอย่างมากทั้งจากผู้ที่อยู่ในประเทศอยู่แล้วและผู้ที่กำลังย้ายเข้ามาใหม่ โดยเฉลี่ยแล้วค่าเช่าของที่อยู่อาศัยของบริษัทเอกชนต่างๆ เพิ่มขึ้นราว 20-40% อิงข้อมูลจากนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ 10 แห่ง ขณะที่เจ้าของที่พักบางแห่งเรียกค่าเช่าเพิ่มขึ้นถึงเท่าตัวจากสัญญาเดิม
Juliet Stannard ผู้อำนวยการและเจ้าของ Citiprop Property Management กล่าวว่า สิงคโปร์กำลังถูกประเมินเป็นประเทศที่ชาวต่างชาติไม่สามารถจะสู้กับที่พักได้ไหว ก่อนหน้านี้ค่าครองชีพแพงอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญสำหรับอีกหลายๆ คน ไม่มีใครที่จะสามารถรับไหวกับค่าเช่าที่เพิ่มขึ้น 50%
ขณะที่ Ulisse Dell’Orto หัวหน้าฝ่ายเอเชียแปซิฟิกของ Chainalysis Inc. หนึ่งในผู้เช่าที่พักอาศัย กล่าวว่า เจ้าของที่พักต้องการที่จะขึ้นค่าเช่าเท่าตัวเมื่อเขาต้องการที่จะต่อสัญญาใหม่ออกไป สำหรับอพาร์ตเมนต์ 1 ห้องนอนในใจกลางเมืองสิงคโปร์
เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ที่พักประเภทบังกะโลในย่านที่พักอาศัยหรูบนเกาะเซนโตซาเพิ่มขึ้น 11,000 ดอลลาร์ ในเวลาแค่ 1 วัน โดยเพิ่มจาก 26,000 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 37,000 ดอลลาร์ต่อเดือน อิงข้อมูลจาก PropNex Realty Pte. บริษัทนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ในสิงคโปร์
แม้ราคาที่พักในสิงคโปร์จะสูงมาก แต่ความต้องการก็ยังคงสูงอยู่ด้วยเช่นกัน สะท้อนจากการที่ผู้เช่าตัดสินใจเช่าซื้อเพียงแค่ดูจากวิดีโอโดยที่ยังไม่เคยมาเห็นสถานที่จริง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็ตามมาด้วยขบวนการหลอกให้เช่าที่พักที่เพิ่มมากขึ้น โดยตลอด 5 เดือนแรกที่ผ่านมา มีผู้ที่ถูกหลอกลวงแล้วอย่างน้อย 547 ราย คิดเป็นความเสียหายถึง 1.6 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์
สิงคโปร์ไม่ใช่เป็นประเทศเดียวที่ค่าเช่าที่พักอาศัยพุ่งขึ้นสูง ในเมืองอย่างลอนดอน ดูไบ รวมถึงนิวยอร์ก ต่างก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยราคาที่พักอาศัยย่านแมนฮัตตันในนิวยอร์กเพิ่มขึ้น 36.9% ในไตรมาสแรกของปีนี้จากข้อมูลของ StreetEasy
ในมุมกลับกัน ฮ่องกงที่เคยเป็นเมืองที่ค่าเช่าแพงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ล่าสุดกลับเห็นค่าเช่าที่ปรับตัวลง จากการที่คนท้องถิ่นและชาวต่างชาติย้ายออกจำนวนมาก โดยค่าเช่าในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาเป็นจุดต่ำสุดนับแต่เดือนมีนาคมปีก่อน
สำหรับปัจจัยหลักที่หนุนให้ค่าเช่าในสิงคโปร์เพิ่มขึ้น ได้แก่ การที่ผู้คนหันมาทำงานที่บ้านมากขึ้น ทำให้เกิดความต้องการที่อยู่อาศัยที่ใหญ่ขึ้น รวมถึงการรอให้ที่อยู่อาศัยใหม่ที่กำลังก่อสร้างแล้วเสร็จ นอกจากนี้ ความต้องการจากชาวต่างชาติก็เพิ่มขึ้นมากเช่นกันหลังจากที่สิงคโปร์กลับมาเปิดประเทศอีกครั้ง และส่วนหนึ่งก็เป็นการย้ายมาจากฮ่องกง
ขณะที่ปริมาณของอพาร์ตเมนต์ใหม่ในปีนี้ก็ลดลงมาอยู่ที่ราว 7,000-8,000 ยูนิต จากปกติที่อพาร์ตเมนต์ใหม่จะปล่อยออกมาราว 10,750 ยูนิต โดยเฉลี่ยต่อปีในช่วง 10 ปีก่อนหน้านี้
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP
