×

อนุทินระบุ โอมิครอนไม่รุนแรงเท่าเดลตา เมื่อสถานการณ์ดี เตรียมชง ศบค. คลายล็อกให้มากขึ้น

โดย THE STANDARD TEAM
14.01.2022
  • LOADING...
อนุทิน

วันนี้ (14 มกราคม) ที่กระทรวง​สาธารณสุข​ อนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​ และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​สาธารณสุข​ แถลงข่าวสถานการณ์​การ​แพร่ระบาด​ของ​โรค​โค​วิด​ ว่า​ตั้งแต่ช่วงเทศกาล​ปีใหม่​เป็นต้นมา​ ถึงแม้ว่าเรามีผู้ป่วยติดเชื้อโควิดเพิ่มมากขึ้น​ เชื้อสายพันธุ์​โอ​มิ​ค​รอน​เข้ามาระบาดในไทยแล้ว​ แต่การให้การรักษาพยาบาล​ ความพร้อมในการดูแลผู้ป่วยติดเชื้อ​ รวมถึงผู้ติดเชื้ออาการรุนแรงที่ต้องใช้เครื่อง​ช่วย​หายใจ​ หรือห้อง ICU ไม่ได้มีจำนวนมากขึ้น​ นอกจากนี้ผู้เสียชีวิตในแต่ละ​วัน​อยู่ในจำนวนที่เป็นขาลงไม่เกิน​ 20 รายต่อวันมาระยะหนึ่งแล้ว​ ทำให้เรามั่นใจได้ว่าสายพันธุ์​โอมิครอนแม้ติดเชื้อได้ง่าย​ แต่ความรุนแรงยังไม่เท่ากับสายพันธุ์​เดลตา​ 

 

อนุทินยืนยันว่า ได้มอบนโยบายหารือกับทางปลัดกระทรวง​สาธารณสุข​อย่างชัดเจน​ ว่าเมื่อสถานการณ์​เป็นไปในแนวโน้มที่ดีขึ้น​แล้ว กระทรวง​สาธารณสุข​จะเร่ง​ทำการเสนอให้กับ ศบค. ได้มีการผ่อนคลายมาตรการ​ให้มากที่สุด​และเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้​ หรือถ้ามีเหตุที่เป็นอันตรายต่อประชาชนในภาพรวม ​กระทรวง​สาธารณสุข​จะเร่งเสนอให้มีมาตรการเพื่อเน้นย้ำถึงความปลอดภัยของประชาชน​เป็นหลัก 

 

สำหรับข้อมูลข่าวสารต่างๆ​ ขอให้ยึดถือข้อมูลทางกระทรวง​สาธารณสุข​ได้แถลงให้กับประชาชนได้ทราบเป็นหลัก​ เพราะเป็นข้อมูลที่กรอง​ วิเคราะห์​ และประเมินแล้ว​ ซึ่งจะมีความครบถ้วน​ ยืนยันว่ากระทรวง​สาธารณสุข​ไม่มีวันที่จะปรุงแต่งข้อมูล​ ตัวเลข​ เพียงเพื่อให้ประชาชนไม่เกิดความ​วิตก​กังวล​ โดยเราไม่ได้ทำมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว​

 

ในส่วนวัคซีนขณะนี้ได้ทำงานของเขาแล้ว​ และเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความปลอดภัย​ ไม่มีการสูญเสียซึ่งชีวิต​ เพราะฉะนั้นจากการสำรวจมีอีกหลายคนที่ยังไม่ได้รับวัคซีน​ วันนี้เราไปเข็มที่ 3 แล้ว​ ผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มแรก​ขอให้มารับวัคซีน​ เดี๋ยวจะให้นโยบายไปเลยว่าผู้ที่ยังไม่ได้วัคซีนเข็มแรกไม่ต้องไปจอง​ สามารถวอล์กอินได้เลย​ เพื่อสร้าง​แรงจูงใจ​ เพราะเราเชื่อว่าผู้ที่ยังไม่ได้รับ​วัคซีนอาจมีปัญหา​ในการเข้าถึง​ สำหรับผู้ที่ปฏิเสธ​วัคซีน​ ตนขอความกรุณา​ว่าอย่าปฏิเสธ​วัคซีน​ เพราะวัคซีน​ทุกชนิด​ที่กระทรวง​สาธารณสุข​ได้จัดหามา​เป็นวัคซีน​ที่มีมาตรฐานในการป้องกันการติดเชื้อ​ การเจ็บป่วยหนักรวมถึงเสียชีวิตได้​

 

อนุทินกล่าวต่อไปว่า เด็กอายุ​ ​​5-12 ปี ขอให้ผู้ปกครองนำบุตรหลานมาเริ่มฉีดวัคซีนได้ เราได้รับการแจ้งจากผู้ผลิตวัคซีน Pfizer ​แล้วว่าสามารถฉีดให้กับเด็กอายุ 5-12 ปีได้ ซึ่งเราจะทำการลดช่วงอายุลงไปจาก 12 ปี เป็น 5 ปี ซึ่งจะช่วยป้องกันในการแพร่ระบาดของเชื้อได้มาก โดยภายในต้นเดือนกุมภาพันธ์เราจะมีวัคซีน Pfizer ที่ขึ้นทะเบียนสำหรับฉีดให้กับเด็กอายุ 5-12 ปี มากเพียงพอครอบคลุมจำนวนเด็กทุกคน ไม่ขาดแน่นอน

 

นอกจากนี้ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กำลังเร่งพิจารณา​ โดยเราได้รับการยื่นขอเพิ่มการจดทะเบียนของวัคซีน​ Sinovac ที่จะครอบคลุม​เด็กอายุ​ 5 ปีขึ้นไปเช่นกัน​ ถ้าเอกสารเรียบร้อย​ทาง อย. ได้พิจารณาแล้ว​มีความปลอดภัยที่เป็นที่ยอมรับของสากล​ เราก็พร้อมสั่งซื้อเข้ามาเพื่อให้มีความเพียงพอมากที่สุดสำหรับทุกช่วงอายุ

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising