วันนี้ (27 มีนาคม) อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกำหนดการเข้าพบ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ไม่บอก จะบอกทำไม
ส่วนที่ทักษิณระบุว่า ไม่ว่าจะเป็นใครก็พร้อมให้คำปรึกษา อนุทินกล่าวว่า เราเอาเรื่องที่เป็นหน้าที่ของเราดีกว่า สมมติว่าจะเข้าพบทักษิณ ตนคงพบในฐานะที่เป็นอดีตผู้ใต้บังคับบัญชา เป็นผู้ที่มีพระคุณในอดีตที่ให้โอกาสเราทำงานมาจนถึงวันนี้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับงานราชการแผ่นดิน และหากจะไปก็ต้องไปในเวลาส่วนตัว ไม่ใช่เวลาปฏิบัติหน้าที่ราชการ
อนุทินกล่าวว่า ตนไปแสดงความคารวะ ซึ่งบอกมาตลอดว่าเป็นผู้ที่มีพระคุณทางการเมือง ถ้าวันนั้นในปี 2547 ทักษิณไม่ให้โอกาสก็ไม่มีวันนี้
ส่วนที่ทักษิณบอกว่า รัฐมนตรีท่านใดจะมาขอคำปรึกษา ก็พร้อมให้คำปรึกษา อนุทินกล่าวว่า ท่านพูดผิดตรงไหนที่ให้คำปรึกษา ท่านไม่ได้บอกสักคำว่า ท่านจะเรียกรัฐมนตรีมาสั่งการให้ทำนู่นทำนี่ เพราะท่านทำไม่ได้ คนที่จะสั่งการรัฐมนตรีให้ทำนู่นทำนี่ได้คือนายกรัฐมนตรี ท่านก็พูดถูกต้องทุกอย่าง เพราะฉะนั้นเราอย่าไปจับคำพูดทีละคำแล้วพยายามมาตีความให้เกิดความสงสัย เพราะประชาชนไม่ควรมีความสงสัยในเรื่องแบบนี้
“ทักษิณสั่งการไม่ได้ คนที่สั่งการได้คือ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันเท่านั้น ขอสื่ออย่าจับคำพูดทีละคำแล้วมาตีความจนเกิดความสงสัย เรื่องแบบนี้ประชาชนไม่ควรมีความสงสัย ยืนยันว่านายกฯ มีคนเดียวคือเศรษฐา” อนุทินกล่าว
อนุทินกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมีคนเดียว พร้อมขออย่าไปพูดว่ามี 2-3 คน อย่าลืมว่าใครเป็นคนตั้งนายกรัฐมนตรี เพราะฉะนั้นอย่าไปพูด 2 คน 3 คน อันนี้ไม่ถูก
เมื่อถามว่า เป็นห่วงการต่อสู้บนเวทีเลือกตั้งในอนาคตหรือไม่ หลังจากทักษิณกลับมาแล้ว อนุทินกล่าวว่า อย่าใช้คำว่าการต่อสู้ เราต่างเสนอสิ่งที่ดีให้กับประชาชนให้เขาเลือก
ย้ำ New Gen ภูมิใจไทยมีดีในตัวเอง
อนุทินยังกล่าวถึงกรณีพรรคภูมิใจไทยได้แต่งตั้งทายาททางการเมืองของพรรค ซึ่งเป็น New Gen ของพรรคขึ้นใหม่ว่า เราไม่ไปสู้กัน ต่างคนต่างเสนอสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้กับบ้านเมือง ทำงานด้วยกันทุกพรรค โดย New Gen ของเราคัดมาจาก สส. ที่ผ่านการแข่งขัน ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน มีพื้นฐานที่แข็งแรงทางการเมืองพอสมควร ซึ่งผู้ใหญ่ของพรรคก็จะคอยแนะนำ ส่วนเขาจะฟังหรือไม่ก็อีกเรื่องหนึ่ง
อนุทินกล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยเรามีจุดขาย เพราะแต่ละคนมีความรู้ ความสามารถ เป็นเจนใหม่ที่เป็นบ้านใหญ่ด้วย มีดีในตัวเอง ถือเป็นองค์ประกอบที่สามารถทำงานที่เป็นการเมืองแบบไทยๆ แบบนี้ได้ทุกรูปแบบ
“ทุกองค์กรย่อมมีการเปลี่ยนผ่าน อย่างผมเป็นหัวหน้าพรรคมา 12 ปี หากถึงเวลาที่เหมาะสม มีคนรุ่นใหม่พร้อมเข้ามารับการบริหารต่อไป เราก็ต้องมีการเปลี่ยนถ่ายในขณะที่เรายังแข็งแรง” อนุทินกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มั่นใจใช่หรือไม่ว่าพรรคจะไม่เกิดปัญหาเรื่องการยุบพรรคแล้ว อนุทินกล่าวว่า พรรคเราไม่เคยมีปัญหา เราเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ปัจจุบัน วันนี้ประชาชนให้โอกาสกับคนรุ่นใหม่เข้ามาทำงาน เราก็ต้องทำตามเทรนด์สังคม
อนุทินกล่าวถึงการเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ว่า เพื่อทำงานการเมือง ไม่สู้กับใคร ไม่ได้สู้ศึกเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) กับพรรคก้าวไกล ทั้งนี้ ในวันที่ 15 พฤษภาคม พรรคจะแถลงถึงรูปแบบงานการเมืองใหม่ ซึ่งตอนนี้ตนถือเป็นพี่เลี้ยงของพรรคแล้ว